อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น และเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งการส่งออกเป็นสำคัญ ดังนั้นการผันผวนของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าจะส่งผลต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดังกล่าว อีกทั้งเกี่ยวเนื่องเป็นสินค้ากลุ่มแฟชั่น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงความต้องการตามแนวโน้มการตลาด หรือตามกลุ่มนักออกแบบชั้นนำของโลก
1. การผลิต
ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังจำแนกได้ดังนี้
- การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 เทียบกับไตรมาสที่2 ของปี 2552 มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 14.6 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 1.5
- การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 เทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 23.6 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 29.3 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 8.9
- การผลิตรองเท้า ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 เทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีปริมาณการผลิตลดลงร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 16.2 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 13.1 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 16.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 20.0
2. การตลาด
การส่งออก
- รองเท้าและชิ้นส่วน ไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 202.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 206.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.9 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ รองเท้ากีฬา รองเท้าแตะ และรองเท้าอื่นๆ ลดลงร้อยละ 17.2, 10.6 และ 0.5 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น คือ รองเท้าหนัง และส่วนประกอบรองเท้า เพิ่มขึ้นร้อยละ17.4, และ 28.0 ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 238.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15.3 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ รองเท้ากีฬา รองเท้าหนัง และส่วนประกอบของรองเท้า ลดลงร้อยละ 33.5, 1.9 และ 22.2 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นคือ รองเท้าแตะ และรองเท้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 และ 2.3 ตามลำดับ ตลาดคู่ค้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และสหราชอาณาจักร มีสัดส่วนร้อยละ 17.4, 13.0 และ 7.4 ตามลำดับ
- เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 มีมูลค่าส่งออก 47.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มูลค่าการส่งออก 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 โดยทุกผลิตภัณฑ์มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น คือ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9,11.9,15.6 และ 11.8 ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 60.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 21 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลงคือ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ และเครื่องเดินทางอื่นๆ ลดลงร้อยละ 15.6, 10.5, 7.9 และ 31.7 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2ตลาดคู่ค้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส มีสัดส่วนร้อยละ 20.0, 14.1 และ 9.2 ตามลำดับ
- หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 มีมูลค่าส่งออก 111.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 108.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องแต่งกายและเข็มขัด หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4, 44.3 และ 14.9 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ หนังโคกระบือฟอกและถุงมือหนัง ลดลงร้อยละ 0.9 และ 29.3 ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 143.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 22.6 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ หนังโคกระบือฟอก, ถุงมือหนัง, เครื่องแต่งกายและเข็มขัด, หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่นๆ ลดลงร้อยละ 21.5, 19.1, 35.3 และ 28.4 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.0 ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ ฮ่องกง เวียดนาม และจีน มีสัดส่วนร้อยละ 17.5, 14.7 และ 13.4ตามลำดับ
การนำเข้า
- หนังดิบและหนังฟอก ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 92.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ ไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 81.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าการนำเข้า 145.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงร้อยละ 36.6 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา มีสัดส่วนร้อยละ 13.1, 8.9 และ 8.0 ตามลำดับ
- รองเท้า ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 43.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 41.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าการนำเข้า 49.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 13.2 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ จีน อินโดนีเซีย และ เวียดนาม มีสัดส่วนนำเข้าร้อยละ 63.1, 8.7 และ 7.1 ตามลำดับ
- กระเป๋า ช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 31.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 25.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าการนำเข้า 36.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15.4 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ จีน อิตาลี และฝรั่งเศส โดยมีสัดส่วนนำเข้าร้อยละ 49.3, 18.5 และ 16.5 ตามลำดับ
3. สรุปและแนวโน้ม
ดัชนีผลผลิต การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก และ การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก ในไตรมาส 3 ปี 2552 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ในปีเดียวกัน มีอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากผู้ผลิตชะลอการผลิตลงตั้งแต่ช่วงต้นปี เพื่อขายสินค้าในคลังสินค้าให้หมด ทำให้ช่วงกลางปีในคลังสินค้ามีปริมาณลดลง จึงต้องเพิ่มกำลังการผลิตในปลายปี ซึ่งสอดคล้องกับการนำเข้า
หนังดิบและหนังฟอกที่นำมาผลิตเป็นสินค้าปลายน้ำ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่สำหรับดัชนีผลผลิตการผลิตรองเท้ายังมีอัตราการเปลี่ยนแปลงในทิศทางลดลง ทำให้การส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วนมีมูลค่าลดลง แนวโน้มสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 คาดว่าจะฟื้นตัวในทิศทางที่เป็นบวก เป็นผลมาจากประเทศคู่ค้าที่สำคัญเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยสินค้า อีกทั้งอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่ต้องใช้หนังฟอก เช่น อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมยานยนต์ฯลฯ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
โดยในปี 2552 ทั้งปีคาดว่าการผลิตและการส่งออกอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังเมื่อเทียบกับปีก่อนคาดว่าจะลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากฐานการผลิตและการส่งออกปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงแต่แนวโน้มการผลิตและมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังใน ปี 2553 เมื่อเทียบกับปี 2552 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากฐานการผลิตและการส่งออกปี 2552 อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งประเทศคู่ค้าที่สำคัญเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยสินค้า และประเทศไทยมีศักยภาพในด้านการออกแบบและเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าในเรื่องของคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งการที่ EU และสหรัฐอเมริกาต่ออายุมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) รองเท้าจากประเทศจีนและเวียดนามอีก 2 ปี และเตรียมการตัดสิทธิพิเศษทางศุลกากร (GSP) สำหรับอุตสาหกรรมรองเท้าของประเทศเวียดนาม โดยจะเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้น รวมทั้งการเปิดการค้าเสรีกับประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กรอบ JTEPA จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ในตลาดญี่ปุ่น โดยในปี 2553 ทั้งปีคาดว่าการผลิตและการส่งออกอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2552
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--