1. การผลิต
การผลิตเซรามิกยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ และการเมืองในประเทศ ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศซบเซาอย่างหนัก และส่งผลกระทบต่อการผลิตเซรามิกที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง ทั้งกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ ซึ่งการผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ในปี 2552 มีปริมาณ 142.00 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ 1.67 ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลงจากปีก่อน แม้ว่าการผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง จะได้รับผลกระทบจากการซบเซาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศบ้าง แต่การผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง จะอิงกับตลาดซ่อมแซมบ้านเก่าเป็นหลักและบางส่วนเป็นการผลิตเพื่อขยายตลาดส่งออก จึงทำให้การผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ในปีนี้ยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น ในขณะที่การผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ ในปี 2552 มีปริมาณ 5.81 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนลดลง ร้อยละ 30.08 เนื่องจากการผลิตเครื่องสุขภัณฑ์จะอิงกับตลาดบ้านใหม่ที่ปัจจุบันอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก จึงได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้การผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด (ดังตารางที่ 1)
2. การตลาด
2.1 ตลาดในประเทศ
การจำหน่ายเซรามิกได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและภาระต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศซบเซาอย่างหนัก และทำให้อำนาจในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคลดลง นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันอย่างรุนแรงทั้งจากสินค้าที่ผลิตในประเทศด้วยกันเอง และสินค้านำเข้าโดยเฉพาะจากประเทศจีน ทำให้การจำหน่ายเซรามิกที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง ทั้งกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ลดลง โดยการจำหน่ายกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ในปี 2552 มีปริมาณ 147.16 ล้านตารางเมตร และการจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 3.89 ล้านชิ้น ลดลงจากปีก่อน ในอัตราร้อยละ 2.43 และ 12.74 ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดของกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ที่จะอิงกับตลาดซ่อมแซมบ้านเก่า ในขณะที่เครื่องสุขภัณฑ์จะอิงกับตลาดบ้านใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก จึงทำให้การจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์มีอัตราลดลงมากกว่ากระเบื้องปูพื้น บุผนัง (ดังตารางที่ 1)
2.2 การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกส่วนใหญ่จะส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน เยอรมนี และประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยในปี 2552 การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกมีมูลค่ารวม 538.23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบจากปีก่อนลดลงในอัตรา ร้อยละ 43.64 (ดังตารางที่ 2) ซึ่งการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากปัญหาวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาจนลุกลามไปยังสหภาพยุโรป และประเทศต่าง ๆ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกทุกผลิตภัณฑ์ลดลงในตลาดหลักทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น
2.3 การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกลดลงจากผลกระทบของปัญหาเศรษฐกิจ และการเมืองในประเทศ ส่งผลให้การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ในปี 2552 มีมูลค่ารวม 214.45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบจากปีก่อนลดลงในอัตรา ร้อยละ 19.18 (ดังตารางที่ 3)การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเยอรมนี ซึ่งการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกสำหรับใช้ตามห้องปฏิบัติการจะนำเข้าจากญี่ปุ่น และมาเลเซีย เป็นหลักสำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่นส่วนใหญ่จะนำเข้ากระเบื้องปูพื้น บุผนัง ที่มีราคาถูกจากจีน
3. สรุปและแนวโน้ม
การผลิตและจำหน่ายเซรามิก ในปี 2552 ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ การเมืองและภาระต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศซบเซาอย่างหนัก และทำให้อำนาจในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งการลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนังแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะซบเซาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ แต่การผลิตจะอิงกับตลาดซ่อมแซมบ้านเก่าเป็นหลัก และบางส่วนเป็นการผลิตเพื่อขยายตลาดส่งออก จึงทำให้การผลิตในปีนี้ยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลงจากปีก่อน ในขณะที่การผลิตเครื่องสุขภัณฑ์จะอิงกับตลาดบ้านใหม่ที่ปัจจุบันอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก จึงได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้การผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับการจำหน่ายเซรามิกที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้างทั้งกระเบื้องปูพื้นบุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ นอกจากได้รับผลกระทบจากภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศซบเซาอย่างหนักแล้วยังมีการแข่งขันอย่างรุนแรงทั้งจากสินค้าที่ผลิตในประเทศด้วยกันเองและสินค้านำเข้าโดยเฉพาะจากประเทศจีน ทำให้การจำหน่ายกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ลดลง
สำหรับการผลิตและจำหน่ายเซรามิก ในปี 2553 มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่อยู่ในระยะเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับในปี 2553 เป็นช่วงที่งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลตามโครงการไทยเข้มแข็งน่าจะเริ่มเกิดผลในทางปฏิบัติซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น และทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นในส่วนของการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ในปี 2552 ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา และลุกลามไปยังสหภาพยุโรป ทำให้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกทุกผลิตภัณฑ์ลดลงในตลาดหลักทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่นสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ในปี 2553 มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากการส่งออกไปยังตลาดหลักที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ยังไม่สามารถขยายตัวได้มากนัก
ผลิตภัณฑ์ ปี 2549 ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 *
การผลิต
กระเบื้องปูพื้น บุผนัง (ตารางเมตร) 143,820,741 135,828,958 139,669,995 142,002,877 อัตราการเปลี่ยนแปลง (%) -5.56 2.83 1.67 เครื่องสุขภัณฑ์ (ชิ้น) 8,278,734 8,197,938 8,305,693 5,807,458 อัตราการเปลี่ยนแปลง (%) -0.98 1.31 -30.08
การจำหน่าย
กระเบื้องปูพื้น บุผนัง (ตารางเมตร) 157,163,701 147,305,300 150,825,458 147,160,708 อัตราการเปลี่ยนแปลง (%) -6.27 2.39 -2.43 เครื่องสุขภัณฑ์ (ชิ้น) 4,712,974 4,480,043 4,460,023 3,891,664 อัตราการเปลี่ยนแปลง (%) -4.94 -0.45 -12.74
ที่มา: ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : 1. จากการสำรวจโรงงานกระเบื้องปูพื้น บุผนัง จำนวน 9 โรงงาน เครื่องสุขภัณฑ์ จำนวน 6 โรงงาน
2. ปี 2552 เป็นตัวเลขประมาณการ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--