1. การผลิต
การผลิตเซรามิก ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยการผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนังมีปริมาณ 38.69 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และระยะเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.19 และ 23.89 ตามลำดับ สำหรับการผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 1.74 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และระยะเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.76 และ 30.41 ตามลำดับ (ดังตาราง ที่ 1 และ 2) ซึ่งการผลิตเซรามิกที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามการเติบโตของตลาดในช่วงฤดูกาลขาย และการปรับตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น
2. การตลาด
2.1 ตลาดในประเทศ
การจำหน่ายเซรามิก ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 36.10 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.37 แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 2.80 สำหรับการจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 1.16 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและระยะเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.22 และ 19.61 ตามลำดับ (ดังตารางที่ 1 และ 2) ซึ่งเป็นไปตาม ตลาดในช่วงฤดูกาลขาย โดยตลาดของกระเบื้องปูพื้น บุผนัง จะอิงกับตลาดซ่อมแซมบ้านเก่าที่ในภูมิภาคเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายส่วนหนึ่งเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมบ้านมากขึ้น ในขณะที่เครื่องสุขภัณฑ์เติบโตตามการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า ทั้งนี้ การจำหน่ายเซรามิกในประเทศแม้ว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นแต่ก็ยังมีการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากจีน
2.2 การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกจะส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน สหราชอาณาจักร เยอรมนี และประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 มีมูลค่ารวม 142.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ดังตารางที่ 3) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนการส่งออกลดลงร้อยละ 3.00 เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกลดลงจะเป็นสินค้าวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.73 โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และลูกถ้วยไฟฟ้า
2.3 การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 มีมูลค่ารวม 85.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 22.11 และ 120.68 ตามลำดับ (ดังตารางที่ 4)ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้ากระเบื้องปูพื้น บุผนัง จากประเทศจีน นำเข้าเซรามิกที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ จากประเทศญี่ปุ่น และมาเลเซียและนำเข้าอิฐทนไฟจากประเทศจีน เยอรมนี และญี่ปุ่น
3. สรุปและแนวโน้ม
การผลิตและจำหน่ายเซรามิก ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ผลิตภัณฑ์กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดในช่วงฤดูกาลขาย และตามการปรับตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่ต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเก่า และตลาดของที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม สำหรับการผลิตและจำหน่ายเซรามิก ในไตรมาสที่ 2 ปี 2553 มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาว และเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน นอกจากนี้ ปัญหาการเมืองในประเทศที่ยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจในประเทศไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย และส่งผลต่อเนื่องไปยังโครงการอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนการผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างด้วย ในส่วนของการส่งออกเซรามิก ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ที่การส่งออกลดลง สำหรับการส่งออกเซรามิก ไตรมาสที่ 2 ปี 2553 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้โอกาสในการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกมีมากขึ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--