สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 2 (เมษายน — มิถุนายน) พ.ศ. 2553(เศรษฐกิจโลก)

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 26, 2010 14:46 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

เศรษฐกิจโลก(1)

ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 2 ปี 2553 เศรษฐกิจหลาย ๆ ประเทศมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัว แต่เศรษฐกิจบางประเทศยังคงมีปัญหาการว่างงานในระดับสูง โดยเฉพาะประเทศในสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น รวมถึงปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มยุโรป

ราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ 78.24 USD/Barrel เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 อยู่ที่ 58.09 USD/Barrel สำหรับสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลกราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวขึ้นลงโดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.3 USD/Barrel โดยมีราคาอยู่ที่ 80.70 USD/Barrel เป็นผลมาจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว และอุปสงค์พลังงานที่ลดลงเนื่องจากตัวเลขการว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงในหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งสต๊อกน้ำมันดิบที่มีปริมาณลดลง

เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา(2)

ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 ปี 2553 GDP ขยายตัวร้อยละ 3.2 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 4.1 เป็นผลมาจากการปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐการบริโภคภาคเอกชนไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 1.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 2.2 การลงทุนภาคเอกชนไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 23.9 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 28.5 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 58.2 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.3 อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรม ไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 71.3 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 65.6 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 89.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 83.0

การส่งออกไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 19.4 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 18.3 การนำเข้าไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 19.7 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี2552 ที่หดตัวร้อยละ 21.1

หมายเหตุ

(1) - ข้อมูลบางส่วนของบางประเทศล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาส 1 ปี 2553

  • ที่มา www.eia.doe.gov www.thaioil.co.th

(2) - ที่มา www.worldbank.org www.imf.org www.bea.gov www.ceicdata.com

อัตราเงินเฟ้อไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 1.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ -1.2 เป็นผลมาจากราคาสินค้าในหมวดอาหารที่เพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 9.7 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 9.3

ทางด้านสถานการณ์การเงิน คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 0.75 เป็นการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากตลาดการเงินและภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2553 ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องโดยมีสัญญาณการฟื้นตัวจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกที่ขยายตัวดีขึ้น แต่ยังได้รับแรงกดดันจากอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

เศรษฐกิจจีน(3)

เศรษฐกิจประเทศจีนในไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 10.3 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่ขยายตัวร้อยละ 8.1 มูลค่าการค้าปลีกในไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 18.5 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 15.0 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 107.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.9 ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 25.8 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552ที่ขยายตัวร้อยละ 32.3 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 57.7 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 อยู่ที่ระดับ 57.1

การส่งออกไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 40.9 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 23.4 การนำเข้า ไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 44.5 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี2552 ที่หดตัวร้อยละ 20.2

ภาวะเงินเฟ้อของประเทศจีนในไตรมาส 2 ปี 2553 มีอัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.9 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ -1.5 อัตราการว่างงานในไตรมาส 2 ปี 2553อยู่ที่ร้อยละ 4.2 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 4.3

ทางด้านสถานการณ์การเงิน ธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 5.31

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 ปี 2553 ยังคงขยายตัวแต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากมาตรการของรัฐบาลประเทศจีนที่ต้องการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ และเพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์

หมายเหตุ

(3) - ที่มา www.stats.gov.cn, www.pbc.gov.cn, www.ceicdata.com

เศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่น(4)

เศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ปี 2553 GDP ขยายตัวร้อยละ 4.2 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 8.6 อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของการส่งออก และเป็นผลมาจากฐานในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วต่ำ การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 1 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 2.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 3.7 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 43.2 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 37.3 การลงทุนในภาคก่อสร้างไตรมาส 1 ปี 2553 หดตัวร้อยละ 18.2 หดตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 0.3 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 95.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 79.0 เป็นผลมาจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

การส่งออกไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 32.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 39.1 เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าหลัก ส่งผลให้กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นต่อสินค้าส่งออกหลักของประเทศญี่ปุ่น เช่น ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าที่เป็นวัตถุดิบอุตสาหกรรม การนำเข้าไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 8.1 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 39.6

ภาวะเงินเฟ้อของประเทศญี่ปุ่นในไตรมาส 2 ปี 2553 มีอัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ -0.9 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ -0.1 เป็นผลมาจากปัญหากำลังซื้อภายในประเทศตกต่ำอันเนื่องมาจากปัญหาการว่างงาน อย่างไรก็ตามภาวะเงินฝืดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อัตราการว่างงานในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 5.3 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5.2

ทางด้านสถานการณ์การเงิน มติที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 0.1เนื่องจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวระดับปานกลาง

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 2 ปี 2553 คาดว่ายังคงมีทิศทางการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาด้านเงินฝืดของประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาการว่างงานที่กดดันการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน

หมายเหตุ

(4) - ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

  • www.cao.go.jp www.boj.or.jp www.stat.go.jp www.ceicdata.com
เศรษฐกิจสหภาพยุโรป(5)

เศรษฐกิจสหภาพยุโรปในไตรมาส 1 ปี 2553 GDP ขยายตัวร้อยละ 0.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 5.1 ในส่วนของ GDP ภาคอุตสาหกรรมในไตรมาส 1 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 3.3 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 16.1 เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวการบริโภคไตรมาส 1 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 0.4 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 0.8 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาส 1 ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 93.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 90.6และในเดือนเมษายน และพฤษภาคม ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 95.1 และ 95.7 ตามลำดับ ซึ่งดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นทุกหมวดโดยเฉพาะในหมวดสินค้าบริโภคชนิดคงทน และหมวดสินค้าทุน

การส่งออกไตรมาส 1 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 14.7 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 19.0 สำหรับการส่งออกในเมษายน และพฤษภาคม ขยายตัวร้อยละ 19.5 และ 24.7ตามลำดับ เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การนำเข้าไตรมาส 1 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 9.2 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 20.3 สำหรับมูลค่าการนำเข้าในเดือนเมษายน และพฤษภาคม ขยายตัวร้อยละ 21.24 และ 31.56 ตามลำดับ

ภาวะเงินเฟ้อทั่วไปของสหภาพยุโรปในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 0.2 อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากราคาสินค้าในหมวดคมนาคมขนส่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ ที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราการว่างงานในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 9.5 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 9.4

ทางด้านสถานการณ์การเงิน ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank : ECB) ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 1.0 (เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2553) เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ และยังมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหภาพยุโรปในไตรมาส 2 ปี 2553 คาดว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ การส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของยุโรป อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงยังกดดันให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย

หมายเหตุ

(5) - ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

  • ที่มา eurostat, www.ecb.int www.ceicdata.com

เศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมในเอเชีย เศรษฐกิจฮ่องกง(6)

ภาพรวมเศรษฐกิจฮ่องกงในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.5 เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคการส่งออก และการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ โดยภาคการส่งออกกลับมาขยายตัวในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 เป็นไตรมาสแรก หลังจากหดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 4ของปี 2551 ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับขยายตัวร้อยละ 6.5 จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐรวมถึงการปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานที่มีอัตราการว่างงานหลังปรับฤดูกาลลดลงตั้งแต่ในช่วงกลางปี 2552 โดยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 อัตราการว่างงานหลังจากปรับฤดูกาลอยู่ที่ร้อยละ 4.4

ในส่วนของภาคการผลิต ไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 84.4 ขยายตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวเป็นไตรมาสแรกหลังจากหดตัวต่อเนื่องมานานถึง 14 ไตรมาส จากการขยายตัวของสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยาสูบ อุตสาหกรรมโลหะ คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ด้านสายตา และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือเครื่องจักร

ภาคการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกของฮ่องกงในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 102,615 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 26.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ที่ขยายตัวร้อยละ 20.8 การส่งออกไปยังตลาดสำคัญอย่างจีน ที่มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 53.2 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดยังคงปรับตัวได้ดี สินค้าส่งออกสำคัญของฮ่องกง ได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าฯ มีการส่งออกขยายตัวร้อยละ 33.3 ขณะที่การนำเข้าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้ารวม 113,269 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 31.9ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ฮ่องกงขาดดุลการค้า 10,654 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ภาคการเงิน ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวร้อยละ 2.6 เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.9

หมายเหตุ

(6) ที่มา : http://www.censtatd.gov.hk

http://www.ceicdata.com

http://www.gtis.com/gta

http://apecthai.org

ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

เศรษฐกิจเกาหลีใต้(7)

ภาพรวมเศรษฐกิจเกาหลีใต้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวชะลอลงเล็กน้อยจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 8.1 จากการบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ขณะที่อัตราการว่างงานในเดือนมิถุนายน 2553 อยู่ที่ร้อยละ 3.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในเดือนพฤษภาคม 2553 ซึ่งมีอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.2 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ยังคงปรับตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการชะลอตัวลง

ในส่วนของภาคการผลิต ไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 140.7ขยายตัวร้อยละ 19.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4

ในส่วนของการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกของเกาหลีใต้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 120,306 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 33.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 การส่งออกไปยังตลาดสำคัญอย่างจีน และสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 38.9และ 36.7 ตามลำดับ สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าฯ มีการส่งออกขยายตัวร้อยละ 25.5 ขณะที่การนำเข้าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้า 105,864 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 43.1 ทำให้ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553เกาหลีใต้เกินดุลการค้า 14,443 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ด้านการเงินการธนาคาร ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ 2.0 ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดในประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามในเดือนกรกฎาคม 2553 ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ร้อยละ 2.25 จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว

เศรษฐกิจสิงคโปร์(8)

ภาพรวมเศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 19.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ที่ขยายตัวร้อยละ 16.9 เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ขณะที่อัตราการว่างงานหลังปรับฤดูกาลในเดือนมิถุนายน 2553 อยู่ที่ร้อยละ 2.3ของกำลังแรงงานรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากในเดือนมีนาคม 2553 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.2

หมายเหตุ

(7) ที่มา : http://www.ceicdata.com

http://www.gtis.com/gta

http://apecthai.org

http://www.fpo.go.th

(8) ที่มา : http://app.mti.gov.sg

http://www.news.gov.sg

http://www.ceicdata.com

ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

ในส่วนของภาคการผลิต ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 131.9 ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 44.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ที่ขยายตัวร้อยละ 37.9 จากการผลิตสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น

ภาคการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกสินค้าของสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 78,390 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 38.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การส่งออกไปยังตลาดสำคัญอย่างมาเลเซีย ฮ่องกง และจีน ขยายตัวร้อยละ 57.4, 46.1 และ 54.4 ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าฯ ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 42.8 ขณะที่การนำเข้าในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้ารวม 71,249 ล้านเหรียฐสหรัฐฯขยายตัวร้อยละ 35.4 ทำให้ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 สิงคโปร์เกินดุลการค้า 7,141 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ด้านการเงิน ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมิถุนายน 2553 ขยายตัวร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากราคายานพาหนะ และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นรวมถึงค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น

เศรษฐกิจอินโดนีเซีย(9)

ภาพรวมเศรษฐกิจอินโดนีเซียในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.7 เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคการส่งออกเป็นสำคัญ ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่เป็นตัวสะท้อนอุปสงค์ภายในประเทศก็ปรับตัวได้ดีเช่นกัน

ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 133.0 ขยายตัวร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ภาคการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกของอินโดนีเซียในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 35,537 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 54.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวร้อยละ 23.9 การส่งออกไปยังตลาดส่งออกสำคัญต่างพากันขยายตัว อาทิเช่นตลาดญี่ปุ่น ตลาดสิงคโปร์ และตลาดจีน ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 53.1, 72.1 และ 68.3 ตามลำดับ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่สินค้าประเภทเชื้อเพลิงที่ได้จากแร่ น้ำมันแร่ฯ ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 105.5 ขณะที่มูลค่าการนำเข้าในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้ารวม 29,961 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 56.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4ของปี 2552 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.6 เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออก ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 อินโดนีเซียเกินดุลการค้า 5,575 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 41.7

หมายเหตุ

(9)ที่มา http://www.ceicdata,com

http://www.gtis.com/gta

ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

ภาคการเงิน ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 3.7 โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี2553 นี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียยังคงมีมติรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ 6.5

เศรษฐกิจมาเลเซีย(10)

ภาพรวมเศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.4 เศรษฐกิจปรับขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 จากการส่งออก การลงทุน และการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับขยายตัวดีเป็นสำคัญ

ในส่วนของภาคการผลิต ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 อยู่ที่ระดับ104.0 ขยายตัวร้อยละ 11.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2553 ขยายตัวร้อยละ 12.6 จากผลผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและ การใช้ไฟฟ้า ที่ขยายตัวร้อยละ 18.7 และ 11.5 ตามลำดับ

ในส่วนของการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกของมาเลเซียในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 47,156 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 40.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวร้อยละ 11.3 การส่งออกไปยังตลาดสำคัญมีมูลค่าการส่งออกขยายตัวในทุกตลาด โดยตลาดสำคัญอย่างจีนมูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 81.4 ตลาดสิงคโปร์ขยายตัวร้อยละ 36.0 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าฯ ขยายตัวสูงร้อยละ 47.3 ขณะที่การนำเข้าในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้า 35,590ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 45.5 เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2553 ที่ขยายตัวร้อยละ 11.7เป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งออก ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มาเลเซียเกินดุลการค้า 11,566 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ภาคการเงินการธนาคาร ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 1.3 ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 2.5เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.0 และในเดือนกรกฎาคม 2553 ธนาคารกลางมาเลเซียได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งมาอยู่ที่ร้อยละ 2.75 ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

หมายเหตุ

(10)ที่มา http://www.ceicdata,com

http://www.gtis.com/gta

ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

เศรษฐกิจฟิลิปปินส์(11)

ภาพรวมเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.1 เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นสำคัญ

ในส่วนของภาคการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 อยู่ที่ระดับ 136.3 ขยายตัวร้อยละ 29.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.04 ขณะที่ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 18.8

ในส่วนของการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกของฟิลิปปินส์ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 11,330 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 43.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 5.1 การส่งออกไปยังตลาดสำคัญปรับตัวดีโดยตลาดส่งออกสำคัญอย่างญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 52.8 และ 31.5 ตามลำดับ สินค้าส่งออกสำคัญอย่าง เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าฯ มีมูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 71.8 ขณะที่การนำเข้าในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้ารวม 12,734 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 32.7 เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่หดตัวร้อยละ 0.3 เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออก ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ฟิลิปปินส์ขาดดุลการค้า 1,404 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกในเดือนพฤษภาคม 2553 ขยายตัวร้อยละ 37.3 จากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับขยายตัวเป็นสำคัญ

ภาคการเงิน ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวร้อยละ 4.2 ลดลงจากในไตรมาสที่ 1 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 4.3 โดยธนาคารกลางฟิลิปปินส์ยังคงมีมติรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 4.0 ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553

หมายเหตุ

(11) ที่มา http://www.fpo.go.th

http://www.ceicdata,com

http://www.gtis.com/gta

ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

เศรษฐกิจอินเดีย(12)

ภาพรวมเศรษฐกิจอินเดียในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.5 เศรษฐกิจที่ปรับขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากการปรับขยายตัวของภาคการลงทุน และการส่งออกเป็นสำคัญ

ด้านภาคการผลิต ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 332.4 ขยายตัวร้อยละ 15.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ที่ขยายตัวร้อยละ 13.4 โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2553 ขยายตัวร้อยละ 11.5ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอินเดีย

ภาคการค้าระหว่างประเทศ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 อินเดียมีมูลค่าการส่งออกรวม 50,777 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 32.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้า 83,044 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 34.2 ทำให้ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 อินเดียขาดดุลการค้า 32,267 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ด้านการเงินการธนาคาร อัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 5.25 เพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ที่อยู่ที่ร้อยละ 5.0 อินเดียมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 ธนาคารกลางอินเดียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ร้อยละ 5.50 และปรับขึ้นอีกครั้งในวันที่ 27 กรกฎาคม 2553 มาอยู่ที่ร้อยละ 5.75 โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมิถุนายน 2553ขยายตัวร้อยละ 10.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2553 ที่ขยายตัวร้อยละ 10.2

หมายเหตุ

(12) ที่มา http://www.rbi.org.in

http://commerce.nic.in

http://www.exim.go.th

http://www.ceicdata.com

ข้อมูลบางส่วนล่าสุดยังเป็นข้อมูลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553

สรุปเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ

ประเทศ       ปี 2551                       ปี 2552                                       ปี 2553
                      ไตรมาส 1     ไตรมาส 2     ไตรมาส 3     ไตรมาส 4     ทั้งปี    ไตรมาส 1    ไตรมาส 2
GDP (%yoy)
สหรัฐอเมริกา     0.5        -3.8         -4.1         -2.7          0.2    -2.6         2.4         3.2
สหภาพยุโรป      0.5        -5.1         -4.9         -4.1         -2.1    -4.1         0.6         n.a.
ญี่ปุ่น           -1.2        -8.6         -6.0         -4.9         -1.4    -5.2         4.2         n.a.
จีน             9.3         6.5          8.1          9.6         11.3     8.9        11.9        10.3
ฮ่องกง          2.4        -7.7         -3.8         -2.4          2.5    -2.8         2.8         n.a.
เกาหลีใต้        2.5        -4.3         -2.2          1.0          6.0     0.1         8.1         7.2
สิงค์โปร์         1.9        -8.9         -1.7          1.8          3.8    -1.3        15.5        19.3
อินโดนีเซีย       6.0         4.5          4.1          4.2          5.4     4.6         5.7         6.2
มาเลเซีย        4.8        -6.2         -3.9         -1.2          4.4    -1.7        10.1         n.a.
ฟิลิปปินส์         3.7         0.5          1.2          0.2          2.1     1.0         7.3         n.a.
อินเดีย          7.5         5.8          6.0          8.6          6.5     6.7         8.6         n.a.

ประเทศ       ปี 2551                       ปี 2552                                       ปี 2553
                      ไตรมาส 1     ไตรมาส 2     ไตรมาส 3     ไตรมาส 4     ทั้งปี    ไตรมาส 1    ไตรมาส 2
MPI (YoY%)
สหรัฐอเมริกา    -4.5       -14.5        -14.8        -10.2         -4.0   -10.9         3.3         7.9
สหภาพยุโรป     -2.5       -18.0        -17.8        -14.7         -7.5   -14.5         3.4         n.a.
ญี่ปุ่น           -3.3       -32.3        -27.0        -20.5         -5.1   -21.2        27.3        21.0
จีน           -12.9       -12.6         -2.1         15.3         52.3    13.3        13.9         1.0
ฮ่องกง         -6.6       -10.1         -9.5         -8.6         -5.0    -8.3         0.4         n.a.
เกาหลีใต้        3.8       -15.7         -6.2          4.3         16.2    -0.4        25.8        19.5
สิงค์โปร์        -3.7       -23.8         -0.6          7.5          2.5    -3.6        37.9        44.6
อินโดนีเซีย       3.1         0.2          0.6          0.1          4.5     1.3         4.3         4.3
มาเลเซีย        0.9       -14.6        -10.8         -7.0          2.4    -7.5        11.1         n.a.
ฟิลิปปินส์         4.4       -21.5        -17.4        -14.7          0.04  -13.4        29.1         n.a.
อินเดีย          4.4         0.5          3.8          9.0         13.4     6.7        15.0         n.a.
ที่มา : CEIC

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ