กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) มียอดรายรับรวมสูงขึ้นร้อยละ 6 ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดจะประสบกับความท้าทายต่างๆ ทำให้ปริมาณความต้องการในประเทศลดลงร้อยละ 2.1 รายได้สุทธิของบริษัทลดลงร้อยละ 5 อันเป็นผลมาจากยอดขายปูนซีเมนต์ภายในประเทศของบริษัทที่ลดลงร้อยละ 2.6 และปริมาณการส่งออกโดยรวมของบริษัทที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และบริษัทยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 28
ปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทในปีที่ผ่านมาได้แก่ การลงทุนของภาคเอกชนที่ชะลอตัวลงหลังจากเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วง ไตรมาสแรกถึงไตรมาสที่สามของปี 2549 อัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และความผันผวนทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดระดับกลางและล่างซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างโดยรวม ในส่วนของภาครัฐ การชะลอโครงการต่างๆ และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องยิ่งส่งผลให้ตลาดถดถอย อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถมีผลประกอบการที่ดี จากการบริหารกำไรและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับตลาดส่งออก บริษัทมียอดส่งออกรวมทั้งสิ้น 5.3 ล้านตัน โดยธุรกิจการส่งออกได้รับผลกระทบบ้างจากการที่สหรัฐอเมริกาลดการนำเข้าลง ในขณะที่ประเทศจีนได้กลายมาเป็นคู่แข่งขันที่สำคัญในการส่งออกประเทศหนึ่ง อีกทั้งค่าระวางขนส่งสินค้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ดี การส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเวียดนามซึ่งเป็นตลาดหลักแห่งหนึ่งของบริษัท
จากผลประกอบการที่เข้มแข็ง คณะกรรมการบริษัท จึงสามารถเสนอจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2549 ต่อผู้ถือหุ้น ในอัตราร้อยละ 85 หรือหุ้นละ 14 บาทเท่ากับเมื่อปี 2548 จากกำไรต่อหุ้นอยู่ในระดับหุ้นละ 16.43 บาท รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์คิดเป็นร้อยละ 86 ของยอดขายรวม ตามด้วยยอดจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จและสินค้าอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 11และร้อยละ 3 ตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทได้เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่ง ตามกลยุทธ์ As I Wish อย่างต่อเนื่องโดยในปี 2549 บริษัทมุ่งเน้นเรื่องอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและกฎทอง 12 ประการ ที่พนักงานจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อยกระดับความปลอดภัยขององค์กร การพัฒนาความสามารถของพนักงาน การเพิ่มมาตรฐานผลิตภัณฑ์และการให้บริการแก่ลูกค้า และโครงการอื่นๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านปูนซีเมนต์” ในที่สุด
ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีพัฒนาการที่สำคัญในหลายด้าน กล่าวคือ ลงทุนสร้างโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ผสมสำเร็จรูป (Mortar) โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 410 ล้านบาท INSEE Aggregate ได้เริ่มดำเนินการและเป็นการสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ CONWOODได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ธรรมชาติถึง 6 ชนิดด้วยกัน และ EcoSiam สายงานธุรกิจกำจัดกากของเสียอุตสาหกรรมที่ครบวงจรของบริษัท ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานแยกขยะและจัดเตรียมเชื้อเพลิงและวัตถุดิบทดแทน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2551
นอกจากการประกอบธุรกิจแล้ว สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งคือการให้ความรับผิดชอบต่อสังคม ในปี 2549 บริษัทได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคมหลายโครงการ ทั้งนี้ โครงการหลักที่บริษัทจะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปี ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา คือ โครงการสร้างฝายต้นน้ำ 880 ฝาย ตามแนวทางโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อสนับสนุนการสร้างสมดุลทางธรรมชาติและระบบนิเวศน์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2550 บริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เนื่องจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจยังมีความไม่ชัดเจน และยังคงมีการชะลอตัวของโครงการขนาดใหญ่และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
ในปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ สามารถพัฒนาธุรกิจเพิ่มในหลายๆ ด้าน รวมทั้งยังพัฒนาบริษัทให้สอดคล้องและทันกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดและความต้องการของ ผู้ใช้โดยการพัฒนาบุคลากร ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมต่าง ๆ หลายประการ และในปี 2550 นี้บริษัทจะไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้านเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ต่อไป
แถลงข่าวในนาม : บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม : สถาพร เพชรทองคำ
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-797-7060
: ปริยานุช ห้องสำเริง
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 0 2205 6612 อีเมล์ pariyanuch.hongsamrerng@ogilvy.com