กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยล้ำหน้าไปอีกขั้น จับมือกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงพัฒนาการให้บริการบัตรธุรกิจใช้ซื้อขายทองคำแทนเงินสด ด้วยวงเงินสูงสุดเฉียดพันล้านบาทต่อวัน พร้อมทั้งรับชำระค่าหลักประกันในการซื้อ-ขายทองคำในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ได้ในบัตรเดียว นับเป็นเจ้าแรกในไทยที่ให้บริการ เชื่อช่วยส่งเสริมการค้าทองแบบครบวงจร ให้สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคาร ฯ ได้ร่วมมือกับกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง ผู้ให้บริการซื้อ-ขายทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย พัฒนาบริการรับชำระราคาทองคำผ่านบัตรธุรกิจกสิกรไทย (K-Corporate Payment Card) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยผู้ถือบัตรธุรกิจกสิกรไทยสามารถใช้บัตรในการรับชำระค่าทองคำทั้งการซื้อและการขาย วงเงินสูงสุดถึง 999,999,999 บาทต่อวัน และพัฒนาไปอีกขั้นให้สามารถใช้บัตรธุรกิจในการชำระค่าหลักประกันสำหรับการซื้อ-ขายทองคำในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
บริการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ซื้อและนักลงทุนทองคำในตลาดทั่วไปสามารถชำระค่าทองคำผ่านบัตร โดยไม่ต้องใช้เงินสดจำนวนมากหรือเช็คในการชำระเงินอีกต่อไป ในกรณีที่เป็นการซื้อ-ขายในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ลูกค้าก็สามารถใช้บัตร K-Corporate Payment Card เพื่อวางหลักประกัน 10% ของมูลค่าทองคำที่ซื้อ-ขาย แทนการใช้เงินสดและเช็คได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการขนเงินสดเป็นจำนวนมาก ลดปัญหาธนบัตรปลอม และความผิดพลาดจากการนับเงินสด นอกจากนี้การชำระเงินผ่านบัตรธุรกิจ ยังเป็นการตัดยอดการชำระแบบทันที ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายทราบราคา ซื้อขายจริงทันที จึงไม่ต้องกังวลกับปัญหาความผันผวนของราคาทองคำที่อาจเกิดขึ้น
นายปรีดา พสวงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยว่า บริการบัตรธุรกิจกสิกรไทย จะช่วยให้ฮั่วเซ่งเฮงและลูกค้า รวมทั้งนักลงทุนที่ต้องการซื้อ-ขาย ทองคำ สามารถทำธุรกรรมได้อย่างคล่องตัวและมีความปลอดภัยสูงสุดในขณะนี้ โดยเฉพาะการเพิ่มความสะดวกให้ผู้สนใจลงทุนซื้อ-ขายทองคำในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ที่สามารถใช้บัตรธุรกิจกสิกรไทยวางเป็นหลักประกันในการซื้อขายทองคำได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมจากผู้ค้าทองคำและนักลงทุนในอนาคตแน่นอน
ทั้งนี้ตลาดซื้อ-ขายทองคำในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ในด้านราคาทองพบว่า ในช่วงต้นปี 2552 ราคาเฉลี่ยบาทละ 14,000 บาท และในปัจจุบันราคาเฉลี่ยบาทละ 18,000 บาท ในด้านความต้องการในประเทศ ตัวเลขการนำเข้าในช่วงเดือนมกราคม 2552 ไทยนำเข้าทองคำประมาณ 4,890 ล้านบาท และ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2553 มีปริมาณการนำเข้าคิดเป็นมูลค่า 20,570 ล้านบาท
นายทรงพลกล่าวตอนท้ายว่า จากการที่ตลาดซื้อ-ขายทองคำมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงมากอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกสิกรไทยได้ออกบริการรับชำระราคาทองคำผ่านบัตรธุรกิจกสิกรไทย (K-Corporate Payment Card) เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2552 และสำหรับการพัฒนาบัตรธุรกิจกสิกรไทยให้สามารถใช้ในการวางหลักประกันเพื่อการซื้อทองคำในตลาดล่วงหน้าครั้งนี้ ก็นับเป็นอีกครั้งที่ธนาคาร ฯ ได้สร้างนวัตกรรมการรับชำระเงินผ่านบัตรธุรกิจในตลาด Gold Futures เป็นธนาคารแรก และในอนาคตธนาคารกสิกรไทยก็จะมีการพัฒนาการให้บริการอื่น ๆ ตามมาอีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าสูงสุด