กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--เอชเอสบีซี
บทวิเคราะห์เศรษฐกิจของเอชเอสบีซี ประจำไตรมาส 4/10 คาดการณ์เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2010 จะมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่งที่ร้อยละ 7.9 และจะผ่อนตัวลงเหลือร้อยละ 5.3 ในปี 2011 ทั้งนี้เป็นผลจากความต้องการบริโภคภายในประเทศ ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยพิจารณาจากดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ อาทิ การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และยอดขายของธุรกิจค้าปลีก
บทวิเคราะห์ของเอชเอสบีซี ระบุว่า การบริโภคภายในประเทศและการลงทุนของภาคเอกชนกลายเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แทนการส่งออกและการลงทุนจากภาครัฐ จึงมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างร้อนแรง ส่อเค้าว่าเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำจะค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าการแข็งค่าของสกุลเงินจะช่วยยับยั้งการเร่งตัวของเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากราคาสินค้านำเข้าที่สูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ ปัญหาแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มผ่อนคลายการดำเนินนโยบายทางการเงิน และค่อย ๆ ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ระดับปกติ และเมื่อพิจารณาปัจจัยด้านเงินเฟ้อ ประกอบกับความเสี่ยงในการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เอชเอสบีซี เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งภายในเดือนตุลาคม เพื่อให้ดอกเบี้ยนโยบายไปยืนอยู่ที่ระดับ 2%
ธนาคารเอชเอสบีซี มองว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2/10 ที่ผ่านมาได้รอดพ้นจากบททดสอบอันหนักหน่วงจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง เนื่องจากยังมีอัตราการเติบโตที่ดีสอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยพื้นฐานระยะยาวที่แข็งแกร่ง ขณะที่ภาคการส่งออกมีการฟื้นตัวที่ดี ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนการบริโภคภายในประเทศก็เป็นปัจจัยเกื้อหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตจนใกล้เต็มศักยภาพ
ในช่วงครึ่งปีหลัง ความต้องการบริโภคในต่างประเทศ มีแนวโน้มลดน้อยลงเทียบกับช่วงก่อนหน้า การส่งออกไปยังประเทศในแถบเอเชียจะช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวของการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วรนันท์ สุทธปรีดา, สาวิตรี หมวดเมือง โทรศัพท์ 0-2614-4609, 0-2614-4606