กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating (“IDR”)) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (“BAY”) เป็น ‘BBB-’ (BBB ลบ) จากเดิม ‘BB+’ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศระยะสั้นเป็น ‘F3’ จากเดิม ‘B’ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิเป็น ‘BB+’ จากเดิม ‘BB’ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็น ‘C/D’ จากเดิม ‘D’ ฟิทช์ยังได้คงอันดับเครดิตสนับสนุนของธนาคารที่ ‘3’ ในขณะเดียวกัน บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ยังได้ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว ของ BAY เป็น ‘A+(tha)’ จากเดิม ‘A(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิเป็น ‘A(tha)’ จากเดิม ‘A-(tha)’ (A ลบ (tha)) ในขณะที่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของธนาคารได้รับการคงอันดับที่ ‘F1(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
การปรับอันดับเครดิตนี้สืบเนื่องมาจากความสำเร็จของการซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญของ BAY โดย GE Capital International Holdings Corporation (“GECIH”) ผ่านการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 1,391 ล้านหุ้น ในรูปแบบเสนอขายต่อผู้ลงทุนในลักษณะเฉพาะเจาะจง (“private placement”) ที่ราคา 16 บาทต่อหุ้น รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 22.3 พันล้านบาท ตระกูลรัตนรักษ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ BAY และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายอื่นๆ ยังได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจากใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 463 ล้านหน่วยที่ราคาใช้สิทธิ 12 บาทต่อหุ้น รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5.6 พันล้านบาท การซื้อหุ้นสามัญของ GECIH และการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจากใบสำคัญแสดงสิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวส่งผลให้ GECIH มีสัดส่วนการถือหุ้น 29% ใน BAY GE ยังมีสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ BAY เพิ่มเติมจำนวน 609 ล้านหุ้น ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย ได้ทำการโอนสินทรัพย์มูลค่าทั้งสิ้น 2.1 พันล้านบาท และเงินฝากของธนาคารทั้งสิ้น 1.4 พันล้านบาท ให้แก่ BAY แล้ว การอัดฉีดเงินกองทุนเบื้องต้นจำนวน 27.8 พันล้านบาท น่าจะเพิ่มอัตราเงินกองทุนขั้นที่ 1 ของ BAY ขึ้นเป็นประมาณ 13.7% จาก 7.8% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2549 แม้ว่าการกันสำรองหนี้สูญเพิ่มเติมน่าจะทำให้อัตราเงินกองทุนดังกล่าวลดลงอีกครั้ง
ผลการดำเนินงานของ BAY ในปี 2549 ได้แสดงถึงผลกำไรจากการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าธนาคารจะเผชิญกับสภาวการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่ลำบากขึ้นในปี 2550 การเพิ่มทุนของ BAYได้ลดความกังวลที่มีต่อความอ่อนแอของระดับการกันสำรองหนี้สูญและระดับความเพียงพอของเงินกองทุน ซึ่งได้มีส่วนในการจำกัดอันดับเครดิตต่างๆของธนาคารก่อนหน้านี้ การอัดฉีดเงินกองทุนดังกล่าวได้รับการคาดการณ์ว่าจะช่วยสนับสนุนเครือข่ายของธนาคารในระยะปานกลางด้วย GE ได้มีส่วนร่วมในทั้งคณะกรรมการและคณะผู้บริหารของ BAY นอกจากนี้ BAY ยังน่าจะได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ GE ในด้านการบริการทางธุรกรรมระดับสากล ด้านเทคโนโลยี และด้านการปฏิบัติการ การดำเนินธุรกิจธนาคารที่มุ่งเน้นลูกค้ารายย่อยซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าน่าจะช่วยให้ผลกำไรของธนาคารปรับตัวดีขึ้นในระยะปานกลาง การปรับอันดับเครดิตในอนาคตจะขึ้นอยู่กับงบดุลและความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต เครือข่ายธนาคาร และระดับของการสนับสนุนทางด้านเงินทุนและด้านการปฏิบัติการจาก GE
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน