กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--ตลท.
ดร.สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการ ตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มูลค่า 20,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง มูลค่า 1,444.99 ล้านบาท รวมมูลค่า 21,444.99 ล้านบาท เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน BEX โดยกำหนดให้เริ่มซื้อขายวันที่ 21 มิ.ย. 15 ก.ค. และ 15 ส.ค. 2550 ดังนี้
1. พันธบัตร ธปท. งวดที่ S56/14/50 ชื่อย่อ “CB07705B” อายุ 14 วัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท ครบกำหนด ไถ่ถอนวันที่ 5 กรกฎาคม 2550 เริ่มซื้อขายวันที่ 21 มิถุนายน 2550
2. พันธบัตรออมทรัพย์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มูลค่า 1,444.99 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ครั้งที่ 10 ชื่อย่อ “SB117A” อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.15 ต่อปี มูลค่า 1,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน
วันที่ 15 กรกฎาคม 2555 เริ่มซื้อขายวันที่ 15 กรกฎาคม 2550
- ครั้งที่ 11 ชื่อย่อ “SB098A” อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.7 ต่อปี มูลค่า 444.99 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน
วันที่ 15 สิงหาคม 2553 เริ่มซื้อขายวันที่ 15 สิงหาคม 2550
การเข้าจดทะเบียนของตราสารหนี้ภาครัฐครั้งนี้ ทำให้มูลค่าตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐที่จดทะเบียนใน BEX เพิ่มขึ้นเป็น 3.196 ล้านล้านบาท (ร้อยละ 90.04 ของตราสารหนี้จดทะเบียนใน BEX) ส่งผลให้มูลค่าคงค้างรวม (Total Outstanding Value) ใน BEX เพิ่มขึ้นเป็น 3.549 ล้านล้านบาท
ผู้สนใจลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่จดทะเบียนใน BEX สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ได้ทุกแห่ง รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศได้ทางเว็บไซต์ของตลาดตราสารหนี้ที่ www.bex.or.th หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมที่ www.thaimutualfund.com หรือติดต่อบริษัทจัดการกองทุนทุกแห่ง
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร.0-2229—2036 / ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร.0-2229—2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797