กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ประเภท ระทึกขวัญ / อาชญากรรม
สัญชาติ ฮ่องกง
ภาษา กวางตุ้ง
นำแสดง หลิวเต๋อหัว (Infernal Affair, A Battle of Wit, House of Flying Daggers) แดเนียล วู (The Banquet, New Police Story, One Nite in Mongkok) กู่เทียนเล่อ (Rob-B-Hood, Election, Lost in Time, ทีวีซีรี่ย์ “เจาะเวลาหาจิ๋นซี”) อนิต้า หยวน (C’est la Vie Mon Cheri, She’s a Man He’s a Woman) จางจิงชู (The Seven Swords, The Road)
กำกับการแสดง เอ๋อตงซิน (C’est la Vie Mon Cheri, Lost In Time, One Night in Mongkok)
เขียนบท เอ๋อตงซิน
อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ ชาน (Perhaps Love, Tian Mi Mi)
ออกแบบงานสร้าง ยีจุงมาน (Perhaps Love, Tokyo Raiders, Tian Mi Mi, Viva Erotica)
กำกับภาพ กังกั๊วะมาน (DOA: Dead or Alive, The Seven Swords, One Nite in Mongkok)
กำหนดฉาย 10 พฤษภาคม 2007
จัดจำหน่าย มงคลภาพยนตร์
Official Site http://www.protegethemovie.com/
เรื่องย่อ
Protege คือบทสำรวจสุดระทึกถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนในองค์กรการผลิตและการค้ายาเสพติดระดับนานาชาติในปัจจุบัน มันคือเรื่องราวเกี่ยวกับยาเสพติดที่คุณอยากรู้ แต่ไม่เคยรู้
หนังเล่าเรื่องราวของนักสืบยาเสพติดหนุ่มชื่อ “นิค” (แดเนียล วู) ที่ปลอมตัวเข้าไปแทรกซึมในองค์กรการค้าเฮโรอีนรายยักษ์ของฮ่องกง เขาต้องเผชิญความหลอกลวงและสิ้นหวังในวังวนแห่งยาเสพติดและอาชญากรรมเมื่อเข้าไปเป็นมือขวาของพ่อค้ายาตัวเอ้ชื่อ “จง” หรือฉายา “แบงเกอร์” (หลิวเต๋อหัว) ตอนนี้เป็นเวลา 8 ปีแล้วที่นิคเข้าไปเป็นสายลับในวงการยานรก เขารวบหลักฐานได้มากพอจะมัดตัวแบงเกอร์ได้แล้ว แต่ทางการสั่งให้เขาอยู่สืบต่อเพื่อหาทางกระชากหน้ากากนายใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังแบงเกอร์ จะได้ถอนรากถอนโคนองค์กรนี้ให้สิ้นซาก แต่เมื่อนิคถลำเข้าไปเกี่ยวพันกับเล่ห์กลของแบงเกอร์และได้รับความไว้วางใจให้สืบทอดกิจการต่อ นิคก็พบว่าตนเองเริ่มหลงระเริงกับเงินก้อนมหึมาที่ได้มาง่ายๆและอำนาจที่คนถวายให้ครอบครอง เขาต้องสวมบทพ่อค้ายาให้แนบเนียน ขณะเดียวกันก็ต้องดิ้นรนเพื่อทำภารกิจลับให้สำเร็จ ซึ่งมันไม่เคยง่าย
ระหว่างนั้น นิคได้พบกับ “เจน” (จางจิงชู) แม่ม่ายลูกติดฐานะยากจนที่ตกเป็นทาสยาเสพติดเช่นเดียวกับสามีที่ทิ้งเธอไป (กู่เทียนเล่อ) ความสัมพันธ์สั้นๆกับนิคทำให้เธอมีความหวังว่าจะมีชีวิตใหม่ที่ดี พ้นจากอดีตอันขมขื่น แต่การกลับมาของสามียิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงกว่าเดิม
ในวัฒนธรรมอันโสมมของวงการเฮโรอีน ทุกความผิดต้องชดใช้อย่างสาสม และแทบมองไม่เห็นเส้นแบ่งระหว่างความยุติธรรม, ความจงรักภักดี และความจริง นิคต้องตัดสินใจครั้งอันตรายและอาจต้องเผชิญกับบางอย่างที่เลวร้ายยิ่งกว่าปีศาจ
ตัวละคร
จง รับบทโดย หลิวเต๋อหัว (Infernal Affair, A Battle of Wit, House of Flying Daggers) เจ้าพ่อยาเสพติดมาดเย็นชาฉายา “แบงเกอร์” อดีตผู้ผลิตยาแบบเก่า เปิดธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านบังหน้าสถานะมาเฟียวงการเฮโรอีนฮ่องกง แต่เพราะเป็นโรคเบาหวานมาแต่กำเนิด ทำให้มีปัญหาเรื่องไต และคิดจะวางมือโดยวางแผนส่งต่อธุรกิจให้ลูกน้องคนที่ไว้ใจที่สุด นั่นก็คือ นิค
นิค รับบทโดย แดเนียล วู (The Banquet, New Police Story, One Nite in Mongkok)
สายสืบยาเสพติดฮ่องกงที่ปลอมตัวเข้าไปเป็นลูกน้องของจงเพื่อสืบคดีเฮโรอีนรายยักษ์ เขาติดตามจงมาเป็นเวลา 8 ปีและค่อยๆเรียนรู้กระบวนการการผลิตและการค้ายานรกทุกขั้นตอน นิคสานสัมพันธ์อันลึกซึ้งฉันท์อาจารย์และศิษย์กับจง แต่สุดท้ายต้องทำลายความสัมพันธ์นั้นเพื่อปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง
เจน รับบทโดย จางจิงชู (The Seven Swords, The Road)
แม่ม่ายลูกติดที่ตกเป็นทาสยาเสพติดเพราะพยายามพิสูจน์กับสามีขี้ยาว่าถ้าใจ แกร่งพอก็เลิกยาได้ สามีตามรังควานเธอจนต้องหอบลูกหนีแบบตามบุญตามกรรม เจนได้พบกับนิคในเวลาต่อมา ทั้งคู่แบ่งปันความโดดเดี่ยวและปลอบใจกันจนกลายเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง เจนพยายามเลิกยาโดยมีนิคคอยสนับสนุน แต่เมื่อสามีกลับมา เธอก็กลับไปเสพอีก ทำให้นิคหมดศรัทธาในตัวเธอ
สามีของเจน รับบทโดย กู่เทียนเล่อ (Rob-B-Hood, Election, Lost in Time, ทีวีซีรี่ย์ “เจาะเวลาหาจิ๋นซี”)
นักดนตรีขี้ยา หลังจากติดยาจนงอมแงมก็ใช้ลูกเมียเป็นเครื่องมือหาเงินซื้อยามาเสพย์ เขากลัวว่าเมียจะทิ้งไปจึงพยายามทำทุกวิถีทางไม่ให้เธอเลิกยาสำเร็จ
ภรรยาของจง รับบทโดย อนิต้า หยวน (C’est La Vie Mon Cheri, She’s a Man He’s a Woman)
ภรรยาแสนดีของจง เธอมีลูกสาว 2 คนกับเขา และช่วยปิดบังสถานะที่แท้จริงของสามีภายใต้ใบหน้าและท่าทางอันบริสุทธิ์ เธอรู้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่าต้องเตรียมใจไว้สำหรับอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เอ๋อตงซิน - ผู้กำกับ
เอ๋อตงซินเกิดเมื่อปี 1957 ในตระกูลภาพยนตร์ ช่วงยุค 40 พ่อของเขาเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังส่วนแม่เป็นนักแสดงชื่อดังในเซี่ยงไฮ้อันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีน เจียงต้าเหว่ย พี่ชายของเขาก็เป็นนักแสดงผู้คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่เทศกาลภาพยนตร์ Asian Pacific ครั้งที่ 16 เมื่อปี 1970 สมาชิกตระกูลเอ๋อกว่า 20 ชีวิตคร่ำหวอดอยู่ในวงการภาพยนตร์มายาวนานและเหนียวแน่น ในปี 1975 บริษัท Shaw Brother ของฮ่องกงยกให้เอ๋อตงซินเป็นนักแสดงนำชายคนหนึ่งของบริษัท หลังจากนั้นอีก 9 ปีเขาก็ได้แสดงภาพยนตร์ในบทนำกว่า 40 เรื่อง ต่อมาในปี 1986 เขาถึงได้เข้าสู่เส้นทางการกำกับภาพยนตร์ “Lunatics” ผลงานเรื่องแรกของเอ๋อตงซินถูกแบนในฮ่องกงเพราะมันตั้งคำถามที่เปราะบางและสร้างความขัดแย้งในสังคม แต่หลังโต้แย้งและคัดค้านกับทางการ ในที่สุดหนังก็ได้ออกฉายสู่สายตาสาธารณชนและทำเงินได้เกือบ 10 ล้านดอลล่าร์ รวมทั้งสร้างเทรนด์ภาพยนตร์แนวใหม่และต่อมาก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ 1 ใน 10 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี 1986
ปี 1994 ผลงานเรื่อง C’est La Vie, Mon Cheri ของเขาทำลายสถิติรายได้บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศและคว้ารางวัลอันทรงเกียรติของงาน Hong Kong Film Awards มาได้ถึง 6 รางวัล รวมทั้งกลายเป็นหัวข้อสนทนาสุดฮ็อตในหมู่ผู้ชม จากนั้นเอ๋อตงซินก็ยังคงมุ่งหน้าสร้างภาพยนตร์คุณภาพโดยหวังขยายกลุ่มคนดูให้กว้างขึ้น
1986 Lunatics — กำกับ / เขียนบท
1988 The People’s Hero — กำกับ / เขียนบท ได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards สาขานักแสดงสมทบชายและสมทบหญิงยอดเยี่ยม
1989 The Bachelor Swan Song — กำกับ / เขียนบท
1993 C’est La Vie, Mon Cheri — กำกับ / เขียนบท
เข้าชิงรางวัล Hong Kong Film Awards 12 สาขา ชนะ 6 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (อนิต้า หยวน), นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมได้รับรางวัลสมาคมผู้กำกับฮ่องกง สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์แนะนำได้รับรางวัลสมาคมนักเขียนบทฮ่องกง สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้รับรางวัล Patron’s Awards สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
1995 Full Throttle กำกับ / ร่วมเขียนบท ได้รับรางวัล Golden Bauhinina Prize สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ได้รับรางวัลสมาคมนักเขียนบทฮ่องกง สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้รับรางวัลสมาคมผู้กำกับฮ่องกง สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์แนะนำ ได้รับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์แนะนำ
1996 Viva Erotica ร่วมกำกับ / ร่วมเขียนบท ได้รับรางวัล Golden Bauhinina Prize สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมได้รับรางวัลสมาคมผู้กำกับฮ่องกง สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์แนะนำ
1998 Till Death Do Us Apart - อำนวยการสร้าง เข้าชิงรางวัล Hong Kong Film Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (อนิต้า หยวน)
2000 A Fighter’s Blues - อำนวยการสร้าง ได้รับรางวัล Golden Bauhinina Prize สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (หลิวเต๋อหัว)
2002 July Rhapsody - อำนวยการสร้างได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม, นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมได้รับรางวัล Golden Bauhinina Prize สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ได้รับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกงสาขาภาพยนตร์แนะนำ
2002 Inner Sense — อำนวยการสร้าง / ร่วมเขียนบทได้รับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกงสาขาภาพยนตร์แนะนำ
2003 Lost in Time - กำกับได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและดนตรีประกอบยอดเยี่ยมได้รับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกงสาขาภาพยนตร์แนะนำได้รับรางวัลสมาคมผู้กำกับฮ่องกง สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์แนะนำ
2004 One Nite in Mongkok — กำกับ / เขียนบท ได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ได้รับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและภาพยนตร์แนะนำ
ได้รับรางวัล Golden Bauhinina Prize สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
ได้รับรางวัลสมาคมนักเขียนบทฮ่องกงสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ได้รับรางวัลสมาคมผู้กำกับฮ่องกงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์แนะนำ
ได้รับรางวัล Chinese Movie Media Awards สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (แดเนียล วู)
2005 2 Young กำกับ / ร่วมเขียนบท
เข้าชิงรางวัล Hong Kong Film Awards สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และในจำนวนรางวัลที่เข้าชิงอีกสองรางวัล คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
2007 PROT?G?
“ผมชอบค้นคว้าข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการทำงาน เพราะผมสนุกกับการค้นพบความจริงที่ไม่ค่อยมีใครรู้ ผมได้ไอเดียเรื่อง Prot?g? มาตอนเตรียมงานหนังเรื่อง One Nite in Mongkok ผมวางแผนไว้ว่าจะนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสร้างเป็นภาพยนตร์ 2 เรื่อง ซึ่ง Prot?g? คือเรื่องที่สอง แม้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดจะได้รับการหยิบยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ความสมจริงของประเด็นนี้ยังไม่ชัดเจนสำหรับผู้ชม มันเป็นความท้าทาย หรืออาจเรียกว่าวีรกรรม ในการขอสัมภาษณ์ผู้ค้ายาตัวจริง และโน้มน้าวให้พวกเขาเปิดเผยภาพรวมของอุตสาหกรรมยาเสพติด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการค้ายาเสพติดเป็นธุรกิจที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ แต่ก็เป็นธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาลรองจากธุรกิจอาวุธและน้ำมัน
“ผมคิดว่าพ่อค้ายาทุกคนสมควรตกนรก และพวกเขาต้องตกแน่”
ในตลาด มียาหลากหลายชนิดให้เลือกจนตาลาย เรื่องราวเกี่ยวกับยาเสพติดมีอยู่ทุกหนแห่งในโลก แต่เฮโรอีนก็ยังคงเป็นยาเสพติดที่มีอำนาจทำลายชีวิตและความหวังมากที่สุดในบรรดายาชนิดอื่นๆ ข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลกระบุว่าในจำนวนประชากรโลกกว่า 6 พันล้านคนในปัจจุบัน มีผู้ใช้ยาเสพย์ติดถึง 200 ล้านคน ผมอึ้งกับความจริงที่ว่า ในทุกๆ 30 คน จะคนติดยา 1 คน สิ่งที่ผมสงสัยคือ ทำไมคนถึงเต็มใจพ่ายแพ้ต่อสสารอันชั่วร้ายและบ่อนทำลายอย่างเฮโรอีน ผมว่าเรารบแพ้สงครามเคมีในหลายๆทาง การค้ายาเสพติดเป็นการกระทำของปีศาจ ผมคิดว่าพ่อค้ายาทุกคนสมควรตกนรก และพวกเขาต้องตกแน่ เดิมที เราใช้ฝิ่นในทางการแพทย์ สังคมสมัยใหม่นี่เองที่ค้นพบวิธีใช้ประโยชน์มันในทางที่ผิด เฮโรอีนจึงถือกำเนิดขึ้น และนำมาซึ่งการสูญเสียศักดิ์ศรีพื้นฐานของมนุษย์ ผมสนใจแง่มุมอันหลากหลายและซับซ้อนของการติดยา มันเป็นเรื่องที่ผมอยากเล่า เรื่องราวการสำรวจมุมที่มืดมิดที่สุดในจิตใจมนุษย์”
***PROT?G? ออกเสียงว่า “โปรเตเจ้” แปลว่า “ผู้อยู่ในความอุปถัมภ์, บุตรบุญธรรม”
ปีเตอร์ ชาน - อำนวยการสร้าง
ปีเตอร์ ชาน เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือดีที่นานาชาติให้การยอมรับ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ United Filmmakers Organization หรือ UFO ในช่วงต้นยุค 90 ที่ผลิตภาพยนตร์ฮ่องกงยอดฮิตออกมามากมาย ชื่อเสียงของชานโด่งดังไปทั่วเอเชียจากผลงานคอเมดี้/ดราม่า “Alan and Eric: Between Hello and Goodbye”, “Tom, Dick & Harry” และ “He’s a Man, She’s a Woman” ภาพยนตร์ของเขาที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์คือ Comrades: Almost a Love Story (เถียนมีมี่) ซึ่งได้รับการโหวตจากนิตยสาร Time ให้เป็น 1 ใน 10 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 1997 และกวาดรางวัลในงาน Hong Kong Film Awards ประจำปี 1997 ไปถึง 9 รางวัล นอกจากนี้ ชานยังกำกับภาพยนตร์เรื่อง The Love Letter ให้บริษัท Dreamworks SKG ของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ในปี 1999 ด้วย โดยปีก่อนหน้านั้นเขาได้รับการโหวตจาก Variety นิตยสารชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ให้เป็น 1 ใน 10 บุคคลที่น่าจับตามอง
ปี 2000 ปีเตอร์ ชาน ตั้งบริษัท Applause Pictures ขึ้นเพื่อผลิตภาพยนตร์เอเชียคุณภาพ ผลงานของ Applause Pictures ได้แก่ ภาพยนตร์รักร่วมทุนสร้างของ ญี่ปุ่น-เกาหลี-ฮ่องกง เรื่อง One Fine Spring day ที่ชานร่วมอำนวยการสร้าง, ภาพยนตร์อีโรติค/ดราม่าสัญชาติไทย-ฮ่องกง เรื่อง Jan Dara ที่ชานนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้างบริหาร, ภาพยนตร์สยองขวัญร่วมทุนสร้าง สิงคโปร์-ฮ่องกง เรื่อง The Eye และภาคต่อ The Eye 2 ที่ชานอำนวยการสร้าง และภาพยนตร์คอเมดี้ฮ่องกงเรื่อง Golden Chicken และภาคต่อ Golden Chicken 2
ปี 2002 ชานร่วมกำกับภาพยนตร์สยองขวัญเอเชียเรื่อง Three ในตอน Going Home และต่อมาในปี 2004 เขาก็จับมือกับญี่ปุ่นและเกาหลีอีกครั้งเพื่อร่วมอำนวยการสร้างภาคต่อของ Three กับ Three…Extremes โดยเขานั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างและผู้อำนวยการสร้างบริหารของหนังตอนที่เป็นของฮ่องกง นั่นก็คือ Dumplings ต่อมาในปี 2005 ชานก็กลับมาอำนวยการสร้างและอำนวยการสร้างบริหารภาคต่อของหนังคนเห็นผีอีกครั้งกับ The Eye: Infinity
ล่าสุด ในปี 2006 ชานกำกับและอำนวยการสร้างภาพยนตร์รักร่วมทุนสร้างของ ฮ่องกง- จีน-อเมริกา เรื่อง Perhaps Love ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์เพลงเรื่องแรกในชีวิตของเขาที่กวาดรางวัล Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 25 ไปถึง 11 รางวัล
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net