จาก...สนามบาสฯ สู่...วัฒนธรรม‘ไนกี้’ ฉลองครบรอบ 25 ปี ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’

ข่าวกีฬา Wednesday May 2, 2007 13:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
เปิดตัวคอลเลคชั่นฤดูร้อน ชูแนวคิดออกแบบที่สื่อถึง 3 เมืองใหญ่ต้นกำเนิดตำนานรองเท้าบาสฯ ตระกูลดัง
เรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและความเป็นหนึ่งของรองเท้าตระกูล ‘ฟอร์ซ’ ตลอดระยะเวลา 25 ปี บอกเล่าถึงจิตวิญญาณแห่งบาสเกตบอล จิตใจแบบนักสู้ของนักกีฬา ตลอดจนหัวใจของเมืองและลานกิจกรรมที่เป็นอมตะ ในการนำเรื่องราวอันเป็นตำนานนี้มาเล่าขานใหม่ ‘ไนกี้’ ไม่เพียงยกย่องนักบาสเกตบอลที่ทำให้รองเท้า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ (Air Force 1) กลายเป็น “ไอคอน” (Icon) หรือ “สื่อสัญลักษณ์” ที่โดดเด่น แต่ยังเชิดชูเมืองต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวด้วย โดยรองเท้าบาสเกตบอล ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างละเอียดประณีตในคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ผลิตขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่โครงการของสหภาพการกีฬาสมัครเล่น (Amateur Athletic Union: AAU) แห่งสหรัฐอเมริกา สวนสาธารณะระดับท้องถิ่น และเมืองใหญ่ 3 เแห่ง ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญที่ทำให้รองเท้าตระกูล ‘ฟอร์ซ’ ได้รับความนิยมอย่างสูง จาก...มหานครนิวยอร์กแพร่ไปยัง...ฟิลาเดลเฟียและ...บัลติมอร์ คอลเลคชั่นสุดพิเศษนี้จะบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของรองเท้าที่แปรเปลี่ยนความงดงามของเกมการเล่นให้กลายเป็นวัฒนธรรมระดับโลก
ปฐมบทการก่อเกิดสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ความโด่งดังที่เหนือกว่า...จนไม่มีสิ่งใดเทียบได้ และไม่มีเรื่องราวอื่นใดจะสร้างกระแสตอบรับได้เสมอเหมือน เรื่องราวการเดินทางของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ จากสนามแข่งบาสฯ ไปสู่การเป็นวัฒนธรรมระดับโลกเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นเลิศและการอุทิศตนอย่างแท้จริง สิ่งที่ก่อเกิดใต้ห่วงบาสฯ กระเด็นกระดอนไปไกลกว่าขอบเขตการเล่นในสนาม เข้าไปอยู่ในใจของคนหลายล้านคนและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสองแบบกับความรักที่เป็นหนึ่งเดียว ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ปรากฏโฉมขึ้นตามลานกิจกรรม สวนสาธารณะ ศูนย์สันทนาการ และสนามกีฬาระดับมืออาชีพ เพื่อสื่อถึงบาสเกตบอลที่แท้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังพบเห็นได้ทั่วไปตามมุมตึก เวที ถนน และสตูดิโอ ในฐานะหนึ่งในเครื่องแต่งกายที่จำเป็นสำหรับการเคลื่อนไหว ทั้งในวัฒนธรรมบาสเกตบอล วัฒนธรรมฮิปฮอป และในวิถีชีวิตของผู้คนอีกหลายล้านคนที่เป็นส่วนหนึ่งของสองวัฒนธรรมดังกล่าว
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการที่นักบาสเกตบอล 6 รายถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ หลังจากที่รองเท้ารุ่นนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2525 กลุ่มคนทั้งหกซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม ‘ออริจินัล ซิกซ์’ (Original Six) ได้บอกเล่าปฐมบทเรื่องราวของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ผ่านสไตล์การเล่นของพวกเขา มอสเซส มาโลน คือตัวแทนของคุณสมบัติแบบวีรบุรุษสไตล์ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ไมเคิล คูเปอร์ บ่งถึงขุมพลังที่ขับเคลื่อนสู่ความเป็นเลิศ คาลวิน แนทท์ เป็นตัวแทนแก่นด้านความบริสุทธ์ของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ จามาล วิลเคส สื่อถึงความสง่างามที่คงทนของรองเท้า บ็อบบี้ โจนส์ เป็นแบบอย่างของความคงเส้นคงวาเชิงสมรรถนะ ในขณะที่ มิคาล ธอมป์สัน สะท้อนถึงพละกำลังซึ่งเป็นที่เลื่องลือของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’
การสื่อสารที่แท้จริงระหว่างนักบาสเกตบอลทั้งหกกับสาธารณชนหยั่งรากอยู่ในเกมการเล่น สำหรับโปสเตอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อโฆษณาที่มีอยู่เพียงน้อยชิ้นของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ แสดงให้เห็นภาพของสมาชิกกลุ่ม ‘ออริจินัล ซิกซ์’ สวมชุดนักบินยืนถือลูกบาสเกตบอลอยู่บนลานบิน จ้องมองตรงมาที่กล้องด้วยแววตาขึงขัง ทำให้ดูเหมือนนักกีฬาที่พร้อมจะบินและเดินทางไปสู่อีกระดับของสมรรถนะขั้นสูง โปสเตอร์นี้บรรจุรากฐานปรัชญาของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม กลุ่ม ‘ออริจินัล ซิกซ์’ สะท้อนรังสีแห่งความบริสุทธิ์ ความเรียบง่ายที่งดงาม และท่าทีน่าเกรงขาม ในปีต่อๆ มา แก่นของแนวคิดแรกเริ่มนี้ก็ยังคงอยู่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดกระแสทางวัฒนธรรมยกย่องชื่นชม ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ แพร่สะพัดไปทั่ว
เพื่อให้เข้าถึงการเดินทางของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ จากสนามแข่งบาสฯ สู่ถนนสายวัฒนธรรม จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเล่าถึงเรื่องราวตอนหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นความนิยมชมชอบและแรงสนับสนุนที่มีต่อรองเท้ารุ่นนี้ แม้การจำหน่ายปลีกรองเท้ารุ่น ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ระยะแรกในช่วงปี 2525-2526 ตามเมืองแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาจะสิ้นสุดลง แต่บรรดาลูกค้าต่างแสดงให้เห็นว่าความต้องการที่จะเป็นเจ้าของรองเท้ารุ่นนี้มิได้ลดน้อยถอยลงเลย ในมหานครนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยเป็นที่นิยมใส่ตามลานกิจกรรมในท้องถิ่นและได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากโครงการในเครือสหภาพการกีฬาสมัครเล่นแห่งสหรัฐอเมริกา แต่ที่ๆ ทำให้ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ หวนกลับคืนสู่สังเวียนอีกครั้งก็คือบัลติมอร์ โดยร้านค้าปลีก 3 แห่งในเมืองได้ตกลงร่วมกับไนกี้ที่จะตอบสนองความต้องการทางการตลาดที่ยังคงดำรงอยู่แม้สินค้าจะหมดลงแล้วก็ตาม เมื่อโลกตกหลุมรัก ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ แล้วย่อมไม่หันหลัง กลับ...ฉันใดก็ฉันนั้น ร้านค้าปลีกทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ Charley Rudo’s Sports, Cinderella Shoes และ The Downtown Lockeroom จึงได้ส่งรองเท้า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ลงรุกตลาดอีกครั้งโดยกระจายไปทั่วทุกถนนในบัลติมอร์ อีก 25 ปีต่อมา รองเท้ารุ่นนี้ก็ยังคงเป็นองค์ประกอบหลักของการแต่งกายที่เห็นได้ทั่วไป...ไม่เคยขาดหายไปจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตามสถานออกกำลังและตู้เสื้อผ้า
ณ ใจกลางเมืองบัลติมอร์นี้เองที่เรื่องราวการเดินทางไปสู่การเป็นวัฒนธรรมของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง ตั้งแต่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นก็ดูเหมือนว่า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ จะถูกครอบครองโดยนักกีฬาและผู้บริโภคที่ไม่ได้มองรองเท้ารุ่นนี้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่งแต่กลับถือเป็นตัวแทนของรูปแบบการดำเนินชีวิตและความหลงใหลของพวกเขา การแสดงความนิยมชมชอบในบัลติมอร์จึงเป็นการยืนยันถึงความสำคัญของรองเท้ารุ่นนี้ และเป็นประจักษ์พยานความผูกพันพิเศษระหว่าง ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ กับผู้ที่เลือกสวมใส่รองเท้ารุ่นนี้ด้วย
การที่ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ จะสอดประสานไปกับวัฒนธรรมและสื่อสารไปยังผู้ชมนอกสนามแข่งได้นั้น ไม่ได้กระทำผ่านตัวแทนที่เป็นบุคคลเท่านั้น แต่ยังผ่านการเชื่อมโยงทางอารมณ์และทัศนคติที่มีร่วมกันด้วย
เมื่อ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ มีแผนงานพร้อมสำหรับตัวรองเท้าและนักกีฬาที่จะมาเป็นขุมพลัง ‘ฟอร์ซ’ ให้กับไนกี้ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 (ปี 2528-2532) แล้ว แนวคิดเรื่องสไตล์การเล่นแบบ ‘ฟอร์ซ’ ก็ประสานไปกับวัฒนธรรมบาสเกตบอลแวดล้อมและวัฒนธรรมฮิปฮอปที่เติบโตและสนับสนุนซึ่งกันและกัน วัฒนธรรมทั้งสองเริ่มใกล้ชิดกัน เติบโตมาจากสิ่งแวดล้อมเดียวกัน สร้างนักกีฬาและแรปเปอร์รายเดียวกัน เมื่อไม่ห่างกันมากและมีอิทธิพลต่อกัน วัฒนธรรมบาสเกตบอลและวัฒนธรรมฮิปฮอปก็เลยมีความนิยมชมชอบในเรื่องเดียวกัน แม้โดยทั่วไปจะสันนิษฐานกันว่าอิทธิพลของฮิปฮอปที่มีต่อบาสเกตบอลนั้นมักไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ความจริงก็คืออิทธิพลของวัฒนธรรมบาสเกตบอลที่มีต่อสไตล์ ดนตรี ศิลปะ และชุมชนชาวฮิปฮอปนั้นมีความลึกซึ้งและโดดเด่นกว่า วิวัฒนาการของ ‘ฟอร์ซ’ และแรงบันดาลใจที่วิวัฒนาการนั้นมีต่อฮิปฮอปเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความผูกพันระหว่างบาสเกตบอลกับวัฒนธรรม รวมทั้งสะท้อนถึงอิทธิพลทางการกีฬาที่ไร้ขีดจำกัด
ผลิตภัณฑ์ในตระกูล ‘ฟอร์ซ’ ของไนกี้บ่งบอกถึงธรรมชาติอันแข็งแกร่ง รุนแรง และเปี่ยมพลังอันท่วมท้นของนักบาสเกตบอลที่ลงโชว์ฟอร์มในสนามแข่งพร้อมกับความทรหดและการรุกรับไม่หยุดตลอดเกมการแข่งขัน ในบรรดานักกีฬาที่เป็นตัวแทน ‘ฟอร์ซ’ ไม่มีใครเด่นเกิน ชาร์ลส์ บาร์คลี เจ้าของฉายา “มิสเตอร์ชัค” นักสู้
ที่ทรงพลัง มีทักษะ และไม่หยุดยั้งที่จะคว้าชัยชนะมาครอง ทัศนคติของเขาคล้ายกับท่วงทำนองดนตรีอันฮึกเหิมที่ดังก้องออกมาจากท้องถนนและวัฒนธรรมที่เบ่งบานอย่างรวดเร็วในจิตวิญญาณ ชาร์ลส์ บาร์คลี จะประกาศตัวว่าเป็นพวก “ต่อต้านบุคคลต้นแบบ” (Anti-Role Model) แต่ตัวเขาเองกลับถูกยึดถือเป็นแบบอย่างในหมู่นักบาสเกตบอลผู้ทะเยอทะยานและผู้คนที่ใฝ่ฝันจะมีวิถีชีวิตแบบเขาบนสนามแข่งหลังจาก ชาร์ลส์ บาร์คลี เขย่าวงการได้ไม่นาน ‘ฟอร์ซ’ ก็เข้ามามีอิทธิพลต่อโลกอย่างเห็นได้ชัด บาสเกตบอลไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในสนามแข่งอีกต่อไป หากแต่เข้าไปชิดใกล้กับอีกวัฒนธรรม พร้อมกับเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างกลาง
หากสังเกตการเดินทางของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ จากสนามบาสฯ สู่วัฒนธรรมอย่างใกล้ชิดจะพบการเชื่อมโยงภายในที่อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้รองเท้ารุ่นนี้คงอยู่ได้ยาวนานอย่างเหลือเชื่อ บนเส้นทางที่เริ่มต้นจากการปลุกกระแสโดยกลุ่ม ‘ออริจินัล ซิกซ์’ มาสู่ความรักแบบไร้เงื่อนไขที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’
ขึ้นอีกครั้ง จนกระทั่งถึงการเกิดผลิตภัณฑ์ในตระกูล ‘ฟอร์ซ’ ที่แรงและทรงพลัง จะพบว่า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ กลายเป็นอมตะด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตน รองเท้า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยความประณีตเพื่อให้เป็นรองเท้าบาสเกตบอลอย่างแท้จริงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา จึงหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเกมการแข่งขันและคงไว้ซึ่งชื่อเสียงระดับตำนานตราบจนทุกวันนี้ เมื่อบาสเกตบอลผสานเข้ากับวัฒนธรรมนอก
สนามบาสฯ อย่างแน่นแฟ้น ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ก็เช่นกัน ส่วนฮิปฮอปซึ่งแพร่หลายผ่านการเต้นรำ ภาพวาดแนวกราฟฟิติ และดนตรี ตลอดจนแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเพลง ภาษา เศรษฐกิจ การเมือง สไตล์ และแฟชั่น ก็ได้นำ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ไปด้วย ปัจจุบัน ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ เป็นองค์ประกอบสำคัญของแฟชั่นชาวเมืองและเป็นสื่อสัญลักษณ์พิเศษที่ถูกปีกแห่งวัฒนธรรมนำพาไปทั่วโลก ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ เป็นทั้งสัญลักษณ์และ อัตลักษณ์...เป็นตัวแทนวิถีชีวิตของผู้คนที่ทำให้รองเท้ารุ่นนี้กลายเป็นที่รู้จักในเชิงสื่อสัญลักษณ์ นขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ด้านกีฬาและการใช้ชีวิตตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา การเดินทางของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ดำเนินมาแล้วกว่า 2 ทศวรรษ ผ่านจิตวิญญาณของทุกคนที่เป็นตัวแทน ตั้งแต่ มอสเซส, ชาร์ลส์ และโครงการในเครือสหภาพการกีฬาสมัครเล่นของเมืองชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ตลอดจนผ่านลานกิจกรรมของเมืองแถบตะวันตกตอนกลางของสหรัฐอเมริกา แฟชั่นของบรรดาศิลปินและแรปเปอร์ ร้านค้าในบัลติมอร์ สนามบาสฯ ในมหานครนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย รวมถึงหัวใจของผู้คนนับล้านคนตามเมืองต่างๆ ทั่วโลก
ความนิยมที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ...กระแสความแรงที่เกิดขึ้นจนไม่อาจวัดได้ เหล่านี้ล้วนเป็นบทหนึ่งในตำนานของ ‘ฟอร์ซ’ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ที่มีต้นกำเนิดมาจากสนามบาสฯ และกลายเป็นวัฒนธรรมรูปแบบหนึ่งในที่สุด
สอถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
วาสนา ผสมญาติ (ปั้น) โทร. 0-2204-8078, 089-763-1713
ปัญญ์ณัฐ ศิวะพรพันธ์ (ตี่) โทร. 0-2204-8217, 081-172-2342
ข้อมูลเกี่ยวกับแรงบันดาลใจจากตำนานบาสฯ ของเมืองบนทางหลวง
สาย ‘I-95 Corridor’*: บัลติมอร์ ฟิลาเดลเฟีย และนิวยอร์ก
กำเนิดของผลิตภัณฑ์ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ และ ‘ฟอร์ซ’ ร้อยรัดเป็นหนึ่งเดียวกับวัฒนธรรมบาสเกตบอลในเมืองนิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และบัลติมอร์ ด้วยเหตุนี้ นักออกแบบของไนกี้จึงได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รองเท้า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ระดับพรีเมียมที่ไม่เพียงสื่อถึงประเพณีด้านบาสเกตบอลของเมืองเหล่านี้ แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวอันเหลือเชื่อเกี่ยวกับการเดินทางของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ จากสนามบาสฯ ในเมืองแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาไปสู่การเป็นวัฒนธรรมระดับโลก ประเด็นสำคัญของการบอกเล่าเรื่องราวอยู่ที่โครงการในเครือสหภาพการกีฬาสมัครเล่นแห่งสหรัฐอเมริกาในมหานครนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ซึ่งทำให้ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ เป็นที่รู้จักในระยะแรกๆ ตลอดจนลานกิจกรรมและสนามตามเมืองต่างๆ ในนิวยอร์กและย่านตะวันตกของบัลติมอร์ ประวัติของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ เต็มไปด้วยรูปแบบลีลาเฉพาะตัว ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของนักบาสฯ แห่งเมืองแถบชายฝั่งตะวันออก รวมถึงผู้ที่มีส่วนช่วยให้รองเท้ารุ่นนี้กลายสถานภาพเป็น “ไอคอน” (Icon) หรือ “สื่อสัญลักษณ์” ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
รองเท้า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ รุ่นพิเศษสำหรับฤดูร้อนนี้ออกแบบขึ้นบนพื้นฐานของความตรงไปตรงมา โดยสื่อถึงคุณลักษณะพิเศษของสไตล์บาสเกตบอลประจำเมืองแต่ละเมืองอย่างเที่ยงตรง ไม่ว่าจะเป็นความกล้าหาญของบัลติมอร์ พรสวรรค์ของนิวยอร์ก หรือ ความมุ่งหมายของฟิลาเดลเฟีย รองเท้าแต่ละคู่ล้วนบอกกล่าวเรื่องราวที่เต็มไปด้วยที่มาของเกมการเล่นอันเป็นแบบฉบับเฉพาะตัว ทั้งนี้ ไนกี้ได้ออกรองเท้าผ้าใบรุ่นพิเศษเป็นที่ระลึกถึงประเพณีบาสเกตบอลในอดีตเพื่อเป็นเกียรติแก่เมืองทั้ง 3 แห่งซึ่งมีบทบาทอย่างยิ่งในการร้อยเรียงหน้าประวัติศาสตร์ให้กับ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ โดยได้แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ซูพรีม (Supreme), พรีเมียม (Premium) และ คอร์ (Core) ซึ่งทุกกลุ่มต่างก็สื่อถึงชื่อเสียงด้านบาสเกตบอลของแต่ละเมืองและยกย่องการมีส่วนร่วมทำให้ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ กลายเป็นตำนานรองเท้าบาสเกตบอลมาจนถึงทุกวันนี้
คอลเลคชั่น ‘ฟิลาเดลเฟีย’
ในเมืองฟิลาเดลเฟีย เรื่องราวของ ‘ฟอร์ซ’ ดำเนินเคียงคู่ไปกับเรื่องราวของนักบาสเกตบอลชั้นเยี่ยมที่พบตามสวนสาธารณะของเมืองและเป็นผู้สร้างวัฒนธรรมบาสเกตบอลที่ยังคงรุ่งเรืองอยู่ในปัจจุบัน แม้จะไม่มีสมบัติพัสถานใดๆ เป็นพิเศษ แต่ด้วยฝีมือและจิตใจที่มุ่งมั่น นักบาสเกตบอลที่พบเห็นตามท้องถนนของฟิลาเดลเฟียต่างก็มีชีวิตอยู่เพื่อเกมการเล่นอย่างแท้จริง แม้ฟิลาเดลเฟียจะสามารถจัดทัพนักกีฬาความสามารถสูงและเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันตามสวนสาธารณะทั่วทุกย่านของเมืองได้ตั้งแต่ก่อนทีมชุดสหภาพการกีฬาสมัครเล่นแห่งสหรัฐอเมริกาจะก่อตั้งขึ้น แต่ทีมฟิลาเดลเฟียชุดสหภาพการกีฬาสมัครเล่นแห่งสหรัฐอเมริกามีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราวของ ‘ฟอร์ซ’ โดยการปรากฏตัวของนักกีฬากลุ่มนี้บนสนามบาสฯ ทำให้ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ค้นพบอีกช่องทางการสื่อสารผ่านกีฬาและวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลต่อผู้คนการทุ่มเทต่อการแสวงหาความสำเร็จทางการกีฬาและเกมการแข่งขันสะท้อนผ่านสไตล์รองเท้าที่สื่อถึงแก่นความบริสุทธิ์ของ ฟิลาเดลเฟีย โดยโทนสีของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ คอลเลคชั่นนี้ถูกกำหนดขึ้นบนพื้นฐานของลักษณะเฉพาะตัวเพื่อให้อ้างอิงความหมายแฝงได้อย่างรวดเร็ว สีแดง ขาว และน้ำเงินบนตัวรองเท้าบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจที่ฟิลาเดลเฟียมีต่อเครือรัฐของตนและต่อสนามบาสฯ โดยมีสีแนวเอิร์ธโทนแทรกเพื่อตัดให้เด่นขึ้น ทั้งนี้ รองเท้าทุกคู่จะมีการเจาะรูที่ “หน้าผ้า” หรือส่วนบนของรองเท้าเพื่อสร้างความงามที่เป็นหนึ่งเดียวพร้อมกับให้การระบายอากาศที่ดีเสริมสมรรถนะเชิงกีฬา รองเท้ารุ่นนี้ได้รับการออกแบบใส่ใจในรายละเอียดเพื่อใช้สวมลงแข่งขันในสนามยอดนิยมของเมืองที่เรียงรายอยู่บนถนนสายที่ 25 และถนนที่มีชื่อว่า ‘ไดมอนด์ สตรีท’ (Diamond Street) ยิ่งกว่านั้น รองเท้ารุ่นนี้ยังผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ให้การสนับสนุน ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ณ สนามกีฬา ‘สนีกเกอร์ สเตเดียม’ (Sneaker Stadium) โดยสมรภูมิแข่งขันทั้งสองแห่งคือแรงบันดาลใจในการออกแบบ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ให้โดดเด่นด้วยการพิมพ์ลายฉลุเทคนิคสเตนซิล (Stencil) เป็นคำว่า SNEAKER STADIUM รวมทั้งแต่งลายกราฟฟิกเสาป้ายถนนสายที่ 25 และ ‘ไดมอนด์ สตรีท’ ไว้ที่พื้นรองเท้าด้านในคอลเลคชั่น ‘นิวยอร์ก’
ในมหานครนิวยอร์ก ทีม The Gauchos ของสหภาพการกีฬาสมัครเล่นแห่งอเมริกาเป็นสีสันที่โดดเด่นของบาสเกตบอลแห่งกรุงนิวยอร์ก โดยได้ทิ้งรอยจารึกไว้ในเกมการแข่งขันและมีบทบาทอย่างชัดเจนในการกำหนดนิยามสำหรับกีฬาบาสเกตบอล ความกล้าหาญแบบเมืองใหญ่และความสง่างามอันเป็นสากลของนิวยอร์กคือบริบทชั้นเยี่ยมของเรื่องราววัฒนธรรมบาสเกตบอล ในขณะที่การแสวงหาความเป็นเลิศบนสนามแข่งอย่างมีสไตล์ได้รับอิทธิพลจากการปรากฏโฉมของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ สนามบาสฯ ของทีม The Gauchos ตลอดจนสนามข้างเคียงในย่านบรองซ์, ฮาร์เล็ม และส่วนอื่นๆ ของเมืองต่างให้การต้อนรับ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ อย่างอบอุ่นและเล่าขานเรื่องราวสืบต่อกันไป
รองเท้าบาสเกตบอลในคอลเลคชั่น ‘นิวยอร์ก’ บ่งบอกถึงความสำเร็จและความสามารถของนักบาสเกตบอล นิวยอร์ก พร้อมทั้งสื่อถึงสนามแข่งอันทรงเกียรติ ไนกี้ได้รังสรรค์ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ในคอลเลคชั่นนี้ให้มีคุณสมบัติที่ผสานทั้ง...ความประณีตและแข็งแกร่ง ...นุ่มนวลแต่ทนทาน แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากลาน Patterson Square, Rosie’s Dry Goods และทีม The Gauchos โดยเน้นลวดลายกราฟฟิกที่สื่อถึงเสาหลักทั้งสามของบาสเกตบอลสไตล์นิวยอร์ก ลวดลายดอกกุหลาบและฟุตบอลหนามสื่อถึง Rosie’s ในขณะที่ตัวเขียน CHOZ’78 เป็นที่ระลึกถึงปีที่ทีม The Gauchos ก่อตั้งขึ้นภายใต้โครงการสหภาพการกีฬาสมัครเล่นแห่งสหรัฐอเมริกา ส่วนลวดลายจากแป้นบาสเกตบอลที่ลาน Patterson Square สะท้อนถึงการเป็นสนามบาสฯ ที่โด่งดังระดับตำนาน นอกจากนี้เพื่อความหรูหรายังได้พิมพ์นูนลายหนังจระเข้ไว้ทั่วรองเท้า โดยพิมพ์ลายหนังจระเข้สีดำแบบสะท้อนแสงบนรองเท้ารุ่นซูพรีมดำเพื่อดึงดูดสายตาบนสนามแข่งหรือในคลับ อีกทั้งรองเท้ารุ่นซูพรีมและบางรุ่นยังผลิตขึ้นโดยใช้พื้นรองเท้าชั้นนอกที่มีสีสันสดใสเพื่อความเท่โดนใจ อีกลักษณะเด่นที่พบได้บน “หน้าผ้า” หรือส่วนบนของรองเท้า ไม่ว่าจะสีเขียว เหลือง ขาว หรือส้ม ก็คือลวดลาย “รุ้งกินน้ำ” ที่สื่อถึงคุณสมบัติความเป็น “หม้อต้มวัฒนธรรมที่หลากหลาย” (Melting Pot) ของนิวยอร์กโดยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่ทำให้รองเท้าในคอลเลคชั่นนี้มีความเป็นหนึ่งเดียวร่วมกัน เสมือนกับการที่ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ผสานรวมจุดเด่นต่างๆ ของเมืองบาสเกตบอลระดับสุดยอดของโลกเอาไว้เป็นหนึ่งเดียวนั่นเอง
คอลเลคชั่น ‘บัลติมอร์’ ที่บัลติมอร์ ความนิยมชมชอบที่มีต่อ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ อยู่ในรูปของแรงสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ ช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 (ปี 2523-2528) จนแพร่กระจายไปทั่วโลก ความแรงของการปรากฏโฉมไปทั่วเมืองทำให้ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ กลายเป็นรองเท้าหนึ่งในใจของชาวบัลติมอร์ ...เป็นรองเท้ารุ่นปฏิวัติวงการที่กู่ก้องถึงความรักที่เมืองนี้มีต่อบาสเกตบอลและส่งผลให้บัลติมอร์มีบทบาทสำคัญต่อการผลิต ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ออกจำหน่ายอีกครั้งในภายหลัง รวมทั้งสะท้อนถึงความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมบาสเกตบอล ทั้งนี้ ลานกิจกรรมต่างๆ ในบัลติมอร์กลายเป็นเวทีที่ ‘ฟอร์ซ’ เผยโฉมแสดงศักยภาพเป็นครั้งแรก
สนามบาสเกตบอลกลางแจ้งทางฝั่งตะวันตกของเมืองที่รู้จักกันในนาม “เดอะ โดม” (The Dome) เป็นสถานที่ๆ ผู้เล่นท้องถิ่นเผย ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ให้ผู้ชมได้ยลโฉมเป็นครั้งแรก นักกีฬาชั้นแนวหน้าของบัลติมอร์สวมรองเท้า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ก่อนจะย่างเท้าก้าวลงสู่สนามบาสฯ อันศักดิ์สิทธิ์ของเมือง นักกีฬาเหล่านี้ไปที่ร้านรองเท้า Mr. Shoe และกวาดรองเท้ารุ่นล่าสุดมาเกลี้ยงร้าน ความคลั่งไคล้รองเท้าผ้าใบของพวกเขาปรากฏอยู่ในตำนาน ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ และเป็นเครื่องตอกย้ำถึงอนาคตของรองเท้ารุ่นนี้ เมื่อเข้าไปอยู่ในหัวใจของชุมชนบาสเกตบอลในบัลติมอร์แล้ว ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ก็เติบโตอย่างรวดเร็วจากสนามบาสฯ กลายเป็นวัฒนธรรม โดยไม่เคยละทิ้งความสุนทรีย์ของลานกิจกรรมในบัลติมอร์และไม่เคยลืมการสนับสนุนของนักบาสเกตบอลแห่งบัลติมอร์เช่นกันเพื่อระลึกถึงชุมชน ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ในบัลติมอร์ ไนกี้ได้ออกแบบรองเท้าผ้าใบคอลเลคชั่น ‘บัลติมอร์’ ให้เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงผู้ให้การสนับสนุนที่ซื่อสัตย์เหล่านี้ เฉดสีอิฐและสีโทนแดงที่เลือกใช้สะท้อนถึงบรรยากาศของเมืองบัลติมอร์ที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างจากหินทรายสีน้ำตาลแดง ส่วนสีเขียวและสีเหลืองอ่อนสื่อถึงใบโคลเวอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโคลเวอร์เดล (Cloverdale) สำหรับสีขาว น้ำตาล และแดง สื่อถึงหนึ่งในรองเท้า ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ที่สั่งผลิตขึ้นที่ร้านรองเท้า Mr. Shoe สีสันเหล่านี้ปรากฏให้เห็นบนหน้าผ้าหรือส่วนบนของรองเท้าซึ่งตัดเย็บจากหนังคุณภาพสูงเล่นลายกราฟฟิกต่างๆ อาทิ รหัสพื้นที่ FOUR ZERO ONE ของบัลติมอร์ และตัวอักษร MR ที่สื่อถึงร้าน Mr. Shoe นอกจากนี้เรื่องราวความเกี่ยวพันที่ยาวนานระหว่างบัลติมอร์กับ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ยังปรากฏอยู่ที่พื้นรองเท้าด้านในสะท้อนสายสัมพันธ์ระหว่าง “เดอะ โดม” เมืองโคลเวอร์เดล, ร้าน Mr. Shoe ตลอดจนความคลั่งไคล้ต่อกีฬาบาสเกตบอลที่ไม่เสื่อมคลายซึ่งยังคงนำแก่นแท้ของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ เผยแพร่ไปตามท้องถนน
‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ในแต่ละคอลเลคชั่นซึ่งเป็นตัวแทนสื่อถึงเรื่องราวการเดินทางจากสนามบาสฯ สู่วัฒนธรรม
ทั้งในบัลติมอร์ ฟิลาเดลเฟีย และนิวยอร์ก ล้วนมีองค์ประกอบเฉพาะตัวด้านการออกแบบ หลักแห่งความสมบูรณ์แบบ (Principles of Perfection) ของ ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ ถูกกำหนดขึ้นเพื่อสานต่อจุดยืนด้านนวัตกรรมของไนกี้ที่ให้ความสำคัญกับความประณีตพิถีพิถันมากกว่าปัจจัยอื่นและเน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์บนพื้นฐานของความจำเป็นและความต้องการของนักกีฬาและผู้บริโภค การเล่นสี ‘แอร์ ฟอร์ซ วัน’ แต่ละรุ่นได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีประจำทีมดั้งเดิมและสนามบาสฯ ของสหภาพการกีฬาสมัครเล่นแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรากฐานการสื่อสารของผลิตภัณฑ์ในตระกูล ‘ฟอร์ซ’ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคงสืบสานเรื่องราวที่ถือกำเนิดขึ้นจากท้องถนนในเมืองแถบชายฝั่งตะวันออกและเล่าขานอย่างไม่หยุดหย่อนถึงตำนานความนิยมชมชอบต่อกีฬาที่กลายมาเป็นการสร้างสรรค์วัฒนธรรมในที่สุด
หลักแห่งความสมบูรณ์แบบ
- รองเท้าทุกคู่ผลิตขึ้นด้วยทักษะความชำนาญและมีรายละเอียดที่ประณีต ถึงพร้อมด้วยความแม่นยำคงที่ในการผลิต
- ตัดเย็บหนังด้านในให้มีตะเข็บน้อยลงและแบนราบเพื่อความสบายสูงสุดขณะสวมใส่
- คอรองเท้าและลิ้นรองเท้าขึ้นรูปเพื่อการสวมใส่ที่สบายและกระชับแน่นสอดรับกับข้อเท้า
- หัวเข็มขัดยึดสายเชือกผูกรองเท้าดีไซน์ใหม่ทำจากโครเมียมขัดเงา พื้นรองเท้าด้านใน
ผลิตจากหนังตัดขอบด้วยเลเซอร์
- ใช้เทคโนโลยี ‘ไนกี้ แอร์’ อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ
- ผลิตจากวัสดุหรูหราคุณภาพสูงที่คัดสรรมาจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก
- เชือกผูกรองเท้าเคลือบขี้ผึ้งกันรอยเปื้อน หุ้มปลายด้วยโครเมียมขัดเงา
- เย็บเก็บขอบเดินเส้นอย่างเรียบเก๋และคมเฉี่ยว
- แผ่นบุพื้นรองเท้าถอดซักได้ ตัดเย็บอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับสรีระเท้า
- แผ่นป้ายห้อยทำจากโครเมียมขัดเงาแกะลายด้วยเลเซอร์ พร้อมแผ่นหนังบุด้านใน
ผลิตภัณฑ์รองเท้าโฉมใหม่ล่าสุดสำหรับฤดูร้อนนี้ของ ‘ไนกี้’ จะทยอยเปิดตัวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
เริ่มด้วยคอลเลคชั่น ‘บัลติมอร์’ ในเดือนเมษายน ตามด้วยคอลเลคชั่น ‘ฟิลาเดลเฟีย’ ในเดือนพฤษภาคม และปิดท้ายด้วยคอลเลคชั่น ‘นิวยอร์ก’ ในเดือนมิถุนายน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
วาสนา ผสมญาติ (ปั้น) โทร. 0-2204-8078, 089-763-1713
ปัญญ์ณัฐ ศิวะพรพันธ์ (ตี่) โทร. 0-2204-8217, 081-172-2342
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ