กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--พม.
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานแถลงข่าว พร้อมมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดอาคาร “สมานเมตตา แมนชั่น”อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ณ ห้องประชุม ๑ ชั้น ๓ อาคาร ๖๐ ปีฯ บ้านราชวิถี
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์วางระเบิด “สมานเมตตาแมนชั่น” ย่านอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ นับ ๑๐ ราย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายและครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้มอบเงินเยียวยาช่วยเหลือให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์เยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ควบคุมตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ โดยจะแบ่งจ่ายตามระยะเวลาที่เข้าพักรักษาตัว ที่ระบุในหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ คือ กรณีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ได้นอนพักรักษาตัว รายละ ๒๐,๐๐๐ บาท กรณีได้รับบาดเจ็บและเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลและนอนพักในฐานะผู้ป่วย ไม่เกิน ๒๐ วันรายละ ๖๐,๐๐๐ บาท กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส ๑๐๐,๐๐๐ บาท กรณีทุพพลภาพ ๒๐๐,๐๐๐ บาท และกรณีที่เสียชีวิต รายละ ๔๐๐,๐๐๐ บาท
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า สำหรับในวันนี้ เป็นการมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุระเบิดดังกล่าว ทั้งหมด ๓ ราย รายละ ๔๐๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ นายอภิรักษ์ สัจจะบรรจงจิต,นายวรินทร คำรอด และนางสาวทัศนีย์ เจริญลาภ และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน ๑ ราย ได้แก่ นายสงกรานต์ บูชา จำนวน ๖๐,๐๐๐ บาท รวมมอบเงินทั้งหมด ๑,๒๖๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้ง ๔ รายนี้ เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒(๔) ที่ระบุว่า บุคคลนั้นจะต้องไม่เป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำผิด หรือเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดนั้นด้วยฯ ในส่วนของนายสมัย วงศ์สุวรรณ ผู้เสียชีวิตอีก ๑ ราย นั้น จากการสืบสวนของเจ้าหน้าตำรวจ และหลักฐานในที่เกิดเหตุ เป็นที่น่าเชื่อได้ว่านายสมัยฯ เป็นผู้กระทำความผิด จนทำให้เกิดความเสียหายขึ้น จึงไม่ถือว่าเป็นผู้ได้รับความเสียหายและไม่อยู่ในขอบข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยาดังกล่าวด้วย