"เอเอ็มดีเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และผลประกอบการรายปี"

ข่าวทั่วไป Thursday February 8, 2007 14:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
— ยอดขายไมโครโพรเซสเซอร์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับ
ไตรมาสที่ 3 —
— รายได้จากโมบายล์โพรเซสเซอร์เพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 —
เอเอ็มดี (NYSE: AMD) รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 4 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่เอเอ็มดีเข้า
ซื้อกิจการของ ATI ทำให้ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ครอบคลุมการดำเนินงานของ ATI[1
] โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2549 และเนื่องจากการ
เปรียบเทียบผลประกอบการโดยรวมในไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 กับไตรมาสเดียวกันของปี 2548 ไม่สัมพันธ์กันโดยตรง ดังนั้นเอเอ็มดีจึงรายงานตัวเลขด้าน
การเงินแบบ non-GAAP สำหรับการดำเนินธุรกิจก่อนหน้านี้ของเอเอ็มดี (ก่อนที่จะเข้าซื้อกิจการ) โดยผู้บริหารเชื่อว่าการรายงานตัวเลขแบบ non-GAAP
จะช่วยให้นักลงทุนได้รับประโยชน์ เพราะเป็นการนำเสนอผลประกอบการในปัจจุบันและในอดีตในรูปแบบที่เปรียบเทียบได้ง่ายและชัดเจน
เอเอ็มดีรายงานว่ารายได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 อยู่ที่ 1,770 ล้านดอลลาร์ โดยมียอดขาดทุนจากการดำเนินงาน 527 ล้านดอลลาร์ และ
ขาดทุนสุทธิ 574 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 1.08 ดอลลาร์ ผลประกอบการดังกล่าวครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวมการ
ดำเนินงาน 550 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 1.04 ดอลลาร์ และค่าใช้จ่าย 27 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.05 ดอลลาร์ สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานใน
รูปแบบของหุ้น
“ในช่วงไตรมาสนี้ เราสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดไมโครโพรเซสเซอร์ได้อีกครั้ง เหมือนที่เราเคยทำได้ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา โดยเรายังคงสานต่อ
กลยุทธ์การขยายตลาด รวมทั้งแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และแผนการผลิต” มร. โรเบิร์ต เจ. ไรเว็ต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเอเอ็มดี
กล่าว
การเปลี่ยนแปลง
(หน่วยเป็นล้านเหรียญ ยกเว้นเปอร์เซ็นต์) Q4-06 Q3-06 Q4-052 Q4-06 vs Q3-06 Q4-06 vs Q4-05
รายได้
เอเอ็มดี ก่อนการเข้าซื้อกิจการ $1,374 $1,328 $1,351 3% 2%
การดำเนินงานของ ATI 398 NA NA
เอเอ็มดี 1,773 1,328 1,351 34% 31%
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน
เอเอ็มดี ก่อนการเข้าซื้อกิจการ 63 142 272 -56% -77%
การดำเนินงานของ ATI -13 NA NA
เอเอ็มดีแบบ Non-GAAP 50 142 272 -65% -82%
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวม 550 6 NA
ค่าตอบแทนในรูปแบบของหุ้น 27 17 4
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงานตามหลัก GAAP ($527) $119 $268
หากไม่นับรวมการดำเนินงานของ ATI, ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวม และค่าตอบแทนสำหรับพนักงานในรูปแบบของ
หุ้น เอเอ็มดีก็จะมีรายได้ 1,370 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 63 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 เปรียบเทียบกับรายได้ 1,350
ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 272 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2548[2
] และรายได้ 1,330 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 142
ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2549
(หน่วยเป็นล้านเหรียญ ยกเว้นเปอร์เซ็นต์) 2006 20052 % การเปลี่ยนแปลง
รายได้
เอเอ็มดี ก่อนการเข้าซื้อกิจการ $5,251 $3,935 33%
การดำเนินงานของ ATI 398 NA
เอเอ็มดี 5,649 3,935 44%
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงาน
เอเอ็มดี ก่อนการเข้าซื้อกิจการ 600 548 9%
การดำเนินงานของ ATI -13 NA
เอเอ็มดีแบบ Non-GAAP 587 548 7%
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวม
557 NA
ค่าตอบแทนในรูปแบบของหุ้น 77 5
กำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงานตามหลัก GAAP ($47) $543
รายได้ของเอเอ็มดีเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ เป็น 5,250 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์ เป็น 600 ล้าน
ดอลลาร์สำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 โดยไม่นับรวมการดำเนินงานของ ATI, ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและการผนวกรวม
การดำเนินงาน และค่าตอบแทนสำหรับพนักงานในรูปแบบของหุ้น เปรียบเทียบกับรายได้ 3,940 ล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงาน 548 ล้านดอลลาร์สำหรับปี
ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2548
(หน่วยเป็นล้านเหรียญ ยกเว้นเปอร์เซ็นต์) Q4-06 Q3-06 Q4-052
กำไรขั้นต้น
กำไรขั้นต้นตามหลัก GAAP $641 $682 774
% กำไรขั้นต้นตามหลัก GAAP 36% 51% 57%
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการ 62 NA NA
ค่าตอบแทนในรูปแบบของหุ้น 2 2 0
กำไรขั้นต้นแบบ Non-GAAP $705 $684 774
% กำไรขั้นต้นแบบ Non-GAAP 40% 52% 57%
อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 อยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการและ
การผนวกรวมการดำเนินงาน และค่าตอบแทนสำหรับพนักงานในรูปแบบของหุ้นสำหรับรอบระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง เปรียบเทียบกับอัตรากำไรขั้นตอน 52 เปอร์เซ็นต์
ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 และ 57 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 25482 การลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้โดยมากแล้วเป็นผลมาจากการที่ราคาขาย
โดยเฉลี่ยของเซิร์ฟเวอร์โพรเซสเซอร์ลดลงอย่างมาก และการรวมผลการดำเนินงานของ ATI
ผลิตภัณฑ์ด้านการประมวลผล
ยอดขายไมโครโพรเซสเซอร์ในช่วงไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้เนื่องจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยังคงใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นของเอเอ็มดีอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลาก
หลายให้แก่ตลาด
ความต้องการในช่วงไตรมาสที่ 4 สำหรับโมบายล์โพรเซสเซอร์ของเอเอ็มดีอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งอย่างมาก โดยส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายและ
รายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยอดขายและรายได้สำหรับโมบายล์โพรเซสเซอร์เพิ่มขึ้น 41 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 แต่หาก
เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 ยอดขายโมบายล์โพรเซสเซอร์เพิ่มขึ้น 76 เปอร์เซ็นต์ และรายได้เพิ่มขึ้น 85 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้รายได้จาก
เดสก์ทอปโพรเซสเซอร์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยเป็นผลมาจากความต้องการสำหรับดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ AMD Athlon? 64 X2 ส่วนยอดขายของเซิร์ฟเ
วอร์โพรเซสเซอร์โดยรวมอยู่ในระดับคงที่ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 และราคาขายโดยเฉลี่ยลดลงอย่างมาก
เอเอ็มดีเริ่มส่งมอบโพรเซสเซอร์ขนาด 65 นาโนเมตรในเดือนธันวาคมตามที่แผนการที่วางไว้
ธุรกิจการ์ดแสดงผลและชิปเซ็ต และคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์
รายได้จากธุรกิจการ์ดแสดงผลและชิปเซ็ต และคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับรอบระยะเวลาที่เริ่มต้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2549 อยู่ที่ 398
ล้านดอลลาร์ ความต้องการที่ต่อเนื่องสำหรับชิปเซ็ตส่งผลให้รายได้จากธุรกิจการ์ดแสดงผลและชิปเซ็ตอยู่ที่ 278 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ 120 ล้าน
ดอลลาร์สำหรับธุรกิจคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นผลมาจากความต้องการในอุปกรณ์พกพาและค่าลิขสิทธิ์เกมคอนโซล
เหตุการณ์สำคัญเพิ่มเติม
เอเอ็มดีเข้าซื้อกิจการของ ATI เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2549 โดยผนวกรวมกิจการของสองบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างขุมพลังสำหรับ
การประมวลผล
เอเอ็มดีสาธิตประสิทธิภาพของโพรเซสเซอร์รุ่นอนาคต ภายใต้โค้ดเนม “Barcelona” โดยนับเป็นเซิร์ฟเวอร์โพรเซสเซอร์ x86 สี่คอร์แบบเนทีฟ
(native quad-core x86 server processor) รุ่นแรกของโลก โดยระบบที่ใช้ในการสาธิตเป็นระบบ 4 ซ็อกเก็ต และรันระบบปฏิบัติการ Windows? Server 2003
รุ่น 64 บิต โพรเซสเซอร์ “Barcelona” มีการปรับปรุงทั้งในส่วนของสถาปัตยกรรมและประสิทธิภาพต่อวัตต์ โดยยังคงใช้ระบบระบายความร้อนที่เป็นมาตรฐาน
ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยังคงขยายจำนวนโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยีของเอเอ็มดีอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือองค์กรธุรกิจ:
เดลล์เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่ 2 รุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron พร้อมด้วยคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปและโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของเดลล์
ที่ใช้เทคโนโลยีของเอเอ็มดี
ซันเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ Sun Fire X4000 จำนวน 3 รุ่น
ไอบีเอ็มแนะนำ IBM System x3105 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 1P แบบทาวเวอร์รุ่นแรกที่ใช้โพรเซสเซอร์เอเอ็มดี
เอชพีขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และเบลดที่ใช้โพรเซสเซอร์เอเอ็มดี สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ โดยได้เพิ่มเติม HP ProLiant DL365 ซึ่งเป็น
เซิร์ฟเวอร์ 1U แบบ 2 ซ็อกเก็ต และ ProLiant BL685c ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์เบลดแบบ 2 ซ็อกเก็ต นอกจากนี้ เอชพียังได้เปิดตัวเดสก์ทอปสำหรับองค์กร
ธุรกิจ รุ่น HP dx2255 และ dx2250 อีกด้วย
เกตเวย์กลายเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ระดับโลกรายล่าสุดที่นำเสนอเซิร์ฟเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron โดยเริ่มวางจำหน่ายเ
ซิร์ฟเวอร์แบบติดตั้งบนแร็ค 3 รุ่น
ซัมซุงเปิดตัวเดสก์ทอปสำหรับองค์กรธุรกิจรุ่น DB-V60 ในประเทศเกาหลี
เอเอ็มดียังคงเป็นคู่ค้าทางด้านเทคโนโลยีรายสำคัญสำหรับองค์กรต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น M&T Bank, ServiceMaster, Sutter Health, Wyeth
Pharmaceuticals และบริษัทอื่นๆ อีกมากมายที่เริ่มปรับใช้เทคโนโลยี AMD64
ระบบที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วที่สุดในรายชื่อระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด 500
อันดับ (TOP500 Supercomputing) โดยมีระบบที่ขับเคลื่อนด้วยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron ทั้งหมด 113 เครื่องที่ติดอันดับอยู่ในรายชื่อดังกล่าว โดย 3
เครื่องติดอยู่ใน 10 อันดับแรก จากการรายงานของ TOP500 Organization
นินเทนโดเปิดตัว Wii ซึ่งใช้กราฟิกโพรเซสเซอร์ของ ATI ภายใต้โค้ดเนม “Hollywood” ซึ่งช่วยสรรค์สร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับเกมคอน
โซลรุ่นอนาคต
กลุ่มผลิตภัณฑ์มีเดียโพรเซสเซอร์ Imageon จาก ATI สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสนี้ ด้วย
การเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่กว่า 10 รุ่นจาก Motorola, Panasonic Mobile Communications, HTC, O2, Vodaphone, Cingular, Softbank, DoComo และ
Chungwa Telecom โดยอุปกรณ์รุ่นใหม่ได้แก่ RIZR Z3, SLVR L7e, Palm Treo 750v, และอุปกรณ์หลายรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 5.0 ซึ่ง
ได้รับการเปิดตัวโดยบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำทั่วโลก
เอเอ็มดีนำเสนอเทคโนโลยี multi-GPU สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ด้วยการเปิดตัวการ์ดแสดงผล ATI Radeon X1650 XT ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยี
CrossFire? การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่นี้ให้ประสิทธิภาพและคุณภาพการแสดงผลที่เหนือกว่า โดยนำเสนอฟีเจอร์ขั้นสูงในระดับราคาทั่วไป
การคาดการณ์ตามสภาวะปัจจุบัน
ข้อมูลการคาดการณ์ของเอเอ็มดีเป็นการพิจารณาจากสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน ข้อมูลต่อไปนี้เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน
อนาคต ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงอาจคลาดเคลื่อนไปจากที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและปัจจัยที่ระบุไว้ในหัวข้อ
“คำแถลงเกี่ยวกับคำเตือน”
ในช่วงไตรมาสแรกซึ่งยอดขายมักจะลดลงตามฤดูกาล เอเอ็มดีคาดว่ารายได้จะอยู่ในช่วง 1,600 ถึง 1,700 ล้านดอลลาร์
การประชุมทางไกลของเอเอ็มดี
เอเอ็มดีจะจัดการประชุมทางไกลเกี่ยวกับประเด็นทางด้านการเงินในวันที่ 23 มกราคม เวลา 14:00 น. ตามเวลาทางฝั่งแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา
(17:00 น. ตามเวลาทางฝั่งตะวันออก) โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 เอเอ็มดีจะถ่ายทอดสดการประชุมดังกล่าวในแบบเรียลไทม์บนเว็บ
เพจ Investor Relations บนเว็บไซต์ของเอเอ็มดีที่ www.amd.com ผู้สนใจสามารถรับชมการถ่ายทอดการประชุมผ่านเว็บในครั้งนี้ภายในช่วง 10 วัน หลังจาก
เสร็จสิ้นการประชุม
เกี่ยวกับ AMD
เอเอ็มดี (NYSE: AMD) คือผู้นำนวัตกรรมการประมวลผลในตลาดคอมพิวเตอร์, กราฟฟิก และสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เอเอ็มดีมุ่งมั่น
สร้างสรรค์นวัตกรรม นำเสนอทางเลือก และกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมด้วยโซลูชั่นที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของผู้ใช้
เทคโนโลยี และช่วยเพิ่มอำนาจให้กับผู้บริโภคทั่วไปไปจนถึงองค์กรธุรกิจทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.amd.com
คำแถลงเกี่ยวกับคำเตือน
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยคำแถลงถึงเหตุการณ์ในอนาคตเกี่ยวกับรายได้สำหรับไตรมาสแรกของปี 2550 รวมถึงฟังก์ชั่นของผลิตภัณฑ์ ซึ่ง
เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในกฎหมายปฏิรูปการดำเนินคดีเกี่ยวกับหลักทรัพย์ของเอกชน ค.ศ. 1995 ของสหรัฐ (U.S. Private Securities Litigation
Reform Act of 1995) นักลงทุนควรระมัดระวังเกี่ยวกับคำแถลงถึงเหตุการณ์ในอนาคตทั้งหมดที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับความ
เสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงแตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน โดยความเสี่ยงที่ว่านี้อาจได้แก่ ความ
เป็นไปได้ที่การกำหนดราคา โครงการด้านการตลาด การขายควบ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือกิจกรรมอื่นๆ ของอินเทล คอร์ปอเรชั่น อาจส่งผลให้บริษัทฯ
ไม่สามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปัจจุบัน รวมถึงความต้องการคอมพิวเตอร์และสินค้าคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และความต้องการสินค้าของ
บริษัทฯ อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้สภาพธุรกิจและสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกอาจซบเซา ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550
และหลังจากนั้น อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และบริษัทฯ อาจไม่สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีได้ตามตารางเวลาที่กำหนด และบริษัทฯ อาจ
ไม่สามารถระดมเงินทุนที่เพียงพอภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม และบริษัทฯ อาจไม่มีกำลังการผลิตหรือชิ้นส่วนที่เพียงพอสำหรับการรองรับความต้องการของ
ตลาด และผู้จัดหาโซลูชั่นอาจไม่ได้นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรองรับเทคโนโลยี AMD64 ภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม นอกจากนั้น คู่แข่ง ลูกค้า และ
ซัพพลายเออร์ของเอเอ็มดีอาจดำเนินการบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์ที่เอเอ็มดีพึงจะได้รับจากการเข้าซื้อกิจการของ ATI และรายได้ การประหยัด
ค่าใช้จ่าย การขยายธุรกิจ และการผนวกรวมอื่นๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการของ ATI อาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือต้องใช้เวลานานขึ้น
กว่าที่จะได้รับผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวอาจไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์เพิ่มพูนตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยอาจมี
ความล่าช้าซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัท และการดำเนินงานของสแปนชั่นอาจมีผลประกอบการที่ไม่น่าพอใจและส่งผลกระทบต่อผลประกอบ
การของเอเอ็มดี นักลงทุนควรตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าว โดยดูจากข้อมูลของบริษัทฯ ที่ได้ให้ไว้กับคณะกรรมการ
กำกับตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะรายงานประจำปีตามฟอร์ม 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2548 และรายงานประจำไตรมาสตาม
ฟอร์ม
10-Q สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 1 ตุลาคม 2549
กรุณาติดต่อ:
มิส ลิน ยอง
ผู้จัดการการตลาดคอนซูมเมอร์
บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์อีส จำกัด
(65) 6559 9951
lynn.yong@amd.com
ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
สุชาย เฉลิมธนศักดิ์
0 2971 3711
suchai@pc-a.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ