พม. จับมือภาคีเครือข่ายด้านเด็กทุกภาคส่วน เร่งพัฒนาสุขภาวะเด็กในชุมชนแออัด

ข่าวทั่วไป Tuesday October 19, 2010 13:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--พม. นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในพิธีเปิดโครงการ “รักเรียน เรียนอย่างเป็นสุข” ว่า การจะสร้างให้สังคมไทย อุดมไปด้วยเด็กที่มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เช่น ความรัก ความผูกพันในครอบครัว มีชีวิตที่มีคุณภาพ ได้รับการพัฒนารอบด้านอย่างเหมาะสมตามวัย มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ พัฒนาสติปัญญา มีศิลธรรม จริยธรรม และคุณธรรม เป็นต้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามในการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มจากสถาบันครอบครัว พ่อแม่ ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นบุคคลแรกและบุคคลหลักที่จะมีส่วนร่วมในการให้ความรัก ความอบอุ่น เสริมสร้าง และพัฒนาการเด็ก สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก สถาบันการศึกษา ทำหน้าที่ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เด็กได้มีอาวุธทางปัญญา สถาบันทางสังคมที่แวดล้อมเด็ก ทั้งด้านการจัดและสร้างสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นปลอดภัย การส่งเสริมสุขภาพ การพิทักษ์สิทธิเด็ก ตลอดจนการประสานการดำเนินงานด้านกฎหมาย ในกรณีที่เด็กได้รับการเลี้ยงดู ไม่เหมาะสม หรือถูกกระทำทารุณกรรม นายอิสสระ กล่าวต่อว่า โครงการ “รักเรียน เรียนอย่างเป็นสุข” เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจในการคืนกำไรสู่สังคม (CSR) ในการสร้างและพัฒนาสุขภาวะในเด็ก โดยมีหน่วยงานภาครัฐ คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ศึกษาธิการ มหาดไทย สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และภาคเอกชน คือ มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม มูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล (MERCY) และบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันสร้างสรรค์ให้สังคมตระหนักรู้ถึงสภาพปัญหาของเด็กในสภาวะยากลำบาก และเกิดแรงจูงใจในการปกป้อง คุ้มครอง เสริมสร้างพัฒนาการเด็กอย่างรอบด้าน โดยเริ่มจากปี ๒๕๕๓ ดำเนินการอบรมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในพัฒนาการของเด็กโดยเฉพาะสุขภาวะด้านสุขภาพร่างกาย จิต และเพศ รวมทั้งเสริมสร้างทัศนคติที่ดี และทักษะในการทำงานด้านเด็ก ให้กับบุคลากรที่จะเข้าร่วมทำงานด้านเด็กให้เป็นครูมืออาชีพ จำนวน ๒๐๐ คน เพื่อให้นำความรู้ และทักษะ ไปดำเนินโครงการ กิจกรรมที่เป็นการพัฒนาตัวเด็กโดยตรง และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่อยู่ในภาวะยากลำบาก เช่น เด็กเร่ร่อน เด็กกลุ่มที่ได้รับการเลี้ยงดูไม่เหมาะสมในชุมชน เด็กปฐมวัยที่อยู่ในชุมชนแออัด รวมถึงเด็กในสถานสงเคราะห์ทั้งของรัฐและเอกชน ซึ่งจะมีเด็กกลุ่มเป้าหมายได้รับการดูแลภายใต้โครงการนี้ ในปี ๒๕๕๔ จำนวนกว่า ๒๕,๐๐๐ คน “การสร้างเครือข่ายในการปกป้อง คุ้มครองเด็ก ผ่านองค์กรในระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติ ถือเป็นการเปิดมิติในการป้องกัน คุ้มครองเด็กอย่างรอบด้านอีกมิติหนึ่ง เพราะไม่เพียงแต่สร้างเครือข่ายกับองค์กรและคนทำงานด้านเด็กเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดมิติการมีส่วนร่วมของทุกคนในสังคม อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเด็กและเยาวชนต่อไปในอนาคตอีกด้วย” นายอิสสระ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ