กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--อนันตรา ลินด์ซีย์ ซุลลิแวน
ไม่ว่าใครที่ได้เคยดำน้ำไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึก ณ หมู่เกาะมัลดีฟส์ ความงามอย่างน่าอัศจรรย์ของโลกใต้น้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกแห่งนี้จะต้องฝากความประทับใจและความทรงจำที่เต็มไปด้วยสีสันอย่างไม่รู้ลืม และเมื่อจินตนาการถึงความงามใต้ท้องทะเลที่ไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อนแต่เป็นห้องทำงาน พบกับ ลินด์ซีย์ ซุลลิแวน นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลของอนันตราที่มีบทบาทหน้าที่ดูแลแหล่งดำน้ำอันงดงามเหล่านี้
“ฉันหลงใหลทะเลมาโดยตลอด สำหรับฉันแล้วทุกสิ่งทุกอย่างใต้ท้องทะเลล้วนมหัศจรรย์ ใต้ผืนน้ำเป็นเหมือนกับอีกโลกหนึ่งที่น่าตื่นเต้น ซับซ้อนและสวยงามมาก ซึ่งเรารู้จักเกี่ยวกับโลกใต้น้ำนี้น้อยเหลือเกิน เพียงแค่ใส่หน้ากากดำน้ำแล้วดำดิ่งลงไปภายใต้พื้นผิวน้ำอันกว้างใหญ่ มันทำให้ฉันมีความฝันอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล”
ลินด์ซีย์ใช้เวลาส่วนใหญ่พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลกับแขกที่เข้าพัก นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้นำชมปลาโลมาและนำการดำน้ำตื้น รวมถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ทำให้เธอได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับแขกและช่วยให้แขกเหล่านั้นเข้าใจถึงโลกใต้ท้องทะเล รวมถึงแนะนำข้อควรระมัดระวังเพื่อรับผิดชอบต่อธรรมชาติในขณะที่เพลิดเพลินกับโลกใต้น้ำอีกด้วย
ทุกสัปดาห์ ลินด์ซีย์จะนำเสนอเกี่ยวกับชีวิตท้องทะเลของมัลดีฟส์ซึ่งเป็นการอธิบายความสำคัญของแนวปะการัง ซึ่งหากขาดแนวปะการังเหล่านี้ก็จะไม่มีมัลดีฟส์ “ยิ่งผู้คนเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตใต้ท้องทะเล โดยเฉพาะธรรมชาติของปะการังที่เติบโตอย่างช้าๆและบอบบางต่อการถูกทำลาย รวมถึงความจริงที่ว่าปะการังเป็นสัตว์ ไม่ใช่ก้อนหิน ยิ่งเป็นการดีต่อธรรมชาติมากเท่านั้น ฉันพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมต่างๆของอนันตราสอดคล้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเล ทะเลสาบและแนวปะการังในบริเวณรีสอร์ทของเราเป็นแหล่งชีววิทยาทางทะเลที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือดูแลเพื่ออนาคตของเราที่จะได้ชื่นชมมันตลอดไป”
“สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดเกี่ยวกับงานของฉันก็คือทุกๆวันฉันต้องเห็นผู้คนทำร้ายธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขยะที่ลอยอยู่ในทะเล นักดำน้ำที่หักกิ่งปะการังเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกหรือทำการรุนแรงกับปะการังเพื่อพยายามเก็บภาพของฝูงปลา นักดำน้ำตื้นที่เตะปะการังโดยไม่ได้ตั้งใจ และบางคนที่ตั้งใจยืนบนปะการังเพื่อพักผ่อนจากการว่ายน้ำ”
ในโลกที่ดูเหมือนจะแวดล้อมไปด้วยการทำลายธรรมชาติ ลินด์ซีย์มองว่าศูนย์อนุบาลปะการังของอนันตราเป็นวิธีที่ดีแก่การคืนกลับสิ่งดีๆให้แก่ธรรมชาติ ศูนย์อนุบาลนี้เริ่มจากการปลูกปะการังทดแทนกิ่งที่เสียหาย และการอนุรักษ์ปะการังเป็นการให้ความรู้แก่เด็กๆ เป็นการทำให้นักดำน้ำรุ่นต่อๆไปได้สำรวจโลกใต้น้ำอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับแผนการในอนาคต ลินด์ซีย์มองถึงประโยชน์ที่ผู้ประกอบการจะได้รับจากการเป็นที่ปรึกษามืออาชีพด้านปะการังของเธอ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ดำน้ำ รีสอร์ท หรือเจ้าของเกาะส่วนตัวที่ต้องการดูแลแนวปะการังของตนและต้องการคำแนะนำในการรักษาแหล่งธรรมชาตินี้อย่างยั่งยืน เธอเชื่อมั่นว่าการอนุรักษ์แนวปะการังทั่วโลกจะส่งผลตอบแทนอันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่กลับมาสู่นักอนุรักษ์ทุกท่านต่อไป