กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--วีม คอมมิวนิเคชั่น
ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส ผู้นำด้านการลงทุนทองคำครบวงจร และผู้นำด้านการลงทุนโกลด์ ฟิวเจอร์ส โชว์ส่วนแบ่งการตลาดสิ้นไตรมาส 3 เพิ่มจากร้อยละ 13 เป็นร้อยละ 17 ของโบรกเกอร์ทองคำ ล่าสุดจัดแคมเปญเก๋กระตุ้นยอดต่อเนื่อง “เอ็มทีเอส เทรด โกลด์ฟิวเจอร์ส X2” หนุนยอดซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์สโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ด้วยการมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้ารับแต้มสะสมเพื่อรับของรางวัลมากมาย อาทิ ทริปท่องเที่ยวกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน, คอมพิวเตอร์แม็กบุ๊คโปร , โทรศัพท์ไอโฟน 4 , คอมพิวเตอร์ ไอแพด ฯลฯ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคมนี้
นาย ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดการลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าหรือโกลด์ ฟิวเจอร์ส มีความคึกคัก และขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายสำหรับปีนี้ จึงได้จัดแคมเปญพิเศษ ที่ชื่อว่า “เอ็มทีเอส เทรด โกลด์ ฟิวเจอร์ส X2” เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นการซื้อขายสัญญาลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สให้คึกคักมากยิ่งขึ้น โดยการมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าที่ลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส รับคำแนนสะสม รวมถึงรับคะแนนสะสมถึง 2 เท่า เพื่อรับรางวัลมากมาย อาทิ ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน สำหรับ 2 ท่าน, เครื่องคอมพิวเตอร์แมคบุค โปร รุ่นจอ 15 นิ้ว, คอมพิวเตอร์พกพา IPAD, โทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 , แอลอีดีโทรทัศน์ Sumsung ขนาด 55 นิ้ว, และรางวัลพิเศษอีกมากมาย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ผู้สนใจติดตามข้อมูลได้ที่ www.mtsgold.co.th
“ปัจจุบันตลาดโกลด์ฟิวเจอร์ส มีการขยายตัวค่อนข้างมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัทตลาดอนุพันธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX ได้เปิดตัวบริการซื้อขายทองคำล่วงหน้าประเภท 10 บาท (มินิโกลด์ฟิวเจอร์ส) ทำให้มีนักลงทุนรายใหม่ๆ สนใจเข้าลงทุนกับตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในขณะนี้ปริมาณการซื้อขายสัญญาลงทุนทองคำล่วงหน้าประเภท 10 บาท จะยังมีปริมาณไม่มากนัก เมื่อเทียบกับสัญญาการลงทุนทองคำประเภท 50 บาทก็ตาม โดยในส่วนเอ็มทีเอส โกลด์ฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดการลงทุนทองคำแบบครบวงจร และเป็นผู้นำในการให้บริการในธุรกิจโกลด์ฟิวเจอร์สนั้น ในช่วงสิ้นไตรมาสสามของปีนี้ พบว่าสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากร้อยละ 12 ในช่วงต้นปี เป็นร้อยละ 17 ซึ่งถือว่ามีส่วนแบ่งเป็นอันดับที่หนึ่ง เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ทองคำทั้งหมด ซึ่งการจัดแคมเปญพิเศษเพื่อร่วมกระตุ้นความต้องการของผู้ลงทุนในตลาดนี้ คาดว่าจะมีโอกาสที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้เพิ่มขึ้นด้วย ” นายณัฐพงศ์ กล่าว
นายณัฐพงศ์ กล่าวเสริมว่า ตลาดทองคำในช่วงนี้ ราคาทองคำโลกมีการปรับฐานเพื่อทำกำไร โดยราคาทองคำแท่งยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,357-1,374 เหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าราคาทองคำโลกน่าจะสิ้นสุดการปรับฐานภายในช่วง 1-2 วันนี้ และพร้อมจะมีโอกาสกลับขึ้สู่เป้าหมาย 1,400 เหรียญสหรัฐในลำดับต่อไป ส่วนราคาทองคำแท่งของไทย มีแนวรับอยู่ที่ 19,100 บาท และแนวต้านที่ 19,400 บาท ส่วนแนวโน้มตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สนั้น ก็ไปในทิศทางเดียวกัน โดยที่ GF Series V จะหมดอายุในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม โดยให้ใช้กลยุทธ์การลงทุน ควรจะเป็นการเข้าเร็วและออกเร็วเพื่อทำกำไรเป็นรอบๆ หลีกหนีภาวะการแข็งตัวของค่าเงินบาท รวมถึงการเปิด Long สำหรับโกลด์ฟิวเจอร์สซีรี่ Z ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับราคา 19,700 บาท ได้ด้วย