พม. เปิดเวทีระดมความคิดเห็นร่างยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อมหนุน อปท.เป็นกลไกขับเคลื่อน ในระดับท้องถิ่นและชุมชน

ข่าวทั่วไป Wednesday October 20, 2010 12:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--พม. วันนี้ (๒๐ ต.ค.๒๕๕๓) เวลา๐๘.๔๕ น. ที่โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในพิธีเปิด “โครงการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็น ร่างยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม” ว่า ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นปัญหาสังคมที่ทวีความรุนแรงและต้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้ปรากฏผลอย่างเป็น รูปธรรม สำหรับในประเทศไทย พบว่าอัตราการคลอดบุตรของแม่วัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง ๑๕-๑๙ ปี อยู่ที่ประมาณ ๗๐ รายต่อหญิงในวัยเดียวกัน ๑,๐๐๐ ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ยของระดับภูมิภาคเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ ๕๖ ราย และจากการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น พบว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการคุมกำเนิดไม่สม่ำเสมอ หรือไม่ได้ใช้วิธีป้องกันใดๆ เนื่องจากขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง นางพนิตา กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะเจ้าภาพหลักในการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกัน มีกรอบทิศทางที่ชัดเจน โดยจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาและจัดทำร่างยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยกำหนดแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา การช่วยเหลือบำบัดฟื้นฟู และสร้างระบบงาน เพื่อให้มีการช่วยเหลือแม่วัยเยาว์อย่างเป็นระบบ และนำกลไกตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ มาร่วมแก้ไขปัญหา รวมทั้งกำหนดให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดเป็นกลไกในภูมิภาค ผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งอยู่ใกล้ชิดเด็กและครอบครัว เป็นเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาตามยุทธศาสตร์ฯ ซึ่งจะช่วยให้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระดับท้องถิ่นและชุมชนอย่างทั่วถึง “การร่างยุทธศาสตร์ฯ นี้ จะเป็นกรอบทิศทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ ไม่พร้อม ทั้งในระดับชาติ ระดับจังหวัด และในชุมชน โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบและประกาศเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์ฯ ต่อไป” นางพนิตา กล่าว.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ