กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--กรมบัญชีกลาง
อธิบดีกรมบัญชีกลางรายงานผลการเบิกจ่ายปีงบประมาณ 2553 ภาพรวมเกินเป้าร้อยละ 1.76 งบลงทุนเกินเป้าร้อยละ 4.15 ส่วนงบปี 2554 จะเร่งให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว เพื่อกระตุ้นให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ปรากฏว่า
- เงินงบประมาณรายจ่าย มีการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม จำนวนทั้งสิ้น 1,627,874.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.76 สูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่าย ร้อยละ 1.76 โดยเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน 1,444,759.94 ล้านบาท หรือร้อยละ 98.37 สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 1.65 สำหรับรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้จำนวน 183,115.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.15 สูงกว่าเป้าหมายถึงร้อยละ 4.15
- เงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี ประกอบด้วยเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 — 2552 จำนวน 243,546.9 6 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว 156,537.64 ล้านบาท หรือร้อยละ 64.27
- เงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 วงเงินรวมทั้งสิ้น 349,960.44 ล้านบาท เบิกจ่ายจำนวน 234,400.87 ล้ านบาท หรือร้อยละ 73.08 ของจำนวนเงินจัดสรร (320,760.88 ล้านบาท)
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการและแนวทางเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญใน การติดตามการใช้จ่ายเงินของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และได้กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมไว้ที่ร้อยละ 93 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย (2,070,000 ล้านบาท) และกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนไว้ที่ร้อยละ 72 สำหรับเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555กำหนดการเบิกจ่ายร้อ ละ 100 ของวงเงินตามแผนที่ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554
“ถึงแม้ว่าขณะนี้ภาครัฐกำลังประสบกับปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ที่อาจจะกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ และอาจทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบน้อยลง แต่ในส่วนของรายจ่ายไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากยังมีเ ินที่สามารถนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง ซึ่งจะเร่งรัดให้เงินงบประมาณเข้าสู่ระบบโดยเร็วที่สุด” นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ กล่าว