กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ปภ.
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดสระแก้วและปราจีนบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
โดยได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการปฏิบัติงาน โดยเร่งสำรวจความเสียหายและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบถุงยังชีพของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และปราจีนบุรี โดยจุดแรก จำนวน 1,000 ชุด ณ หอประชุมเทศบาลตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จุดที่สอง จำนวน 500 ชุด ณ โรงเรียนกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จุดที่สาม จำนวน 500 ชุด ณ ชุมชนตลาดเก่า ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้นำในพื้นที่ดูแลด้านความปลอดภัยในชีวิตของผู้ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด และให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และบูรณาการการปฏิบัติงานกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อเร่งสำรวจความเสียหาย และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หากพื้นที่ใดได้รับความเสียหายรุนแรง จนเกินขีดความสามารถที่จะจัดการเองได้ ให้ประสานขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลาง
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออก ว่า ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายจังหวัดในภาคตะวันออกมีฝนตกหนัก ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 4 จังหวัด 10 อำเภอ ได้แก่ ระยอง (2 อำเภอ) ตราด (2 อำเภอ) สระแก้ว (4 อำเภอ) ปราจีนบุรี (2 อำเภอ) โดยจังหวัดสระแก้ว มีพื้นที่ประสบภัย 4 อำเภอ 10 ตำบล 1 เทศบาล ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจริมชายแดนประเทศกัมพูชา บริเวณตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมอย่างหนัก น้ำท่วมขังถนนในเขตเทศบาล จนรถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ร้านค้าและผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก โดยสาเหตุของน้ำท่วมในครั้งนี้เกิดจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่ลุ่มต่ำ จึงเป็นที่รับน้ำจากพื้นที่อื่น ประกอบกับลำห้วยคลองลึก ซึ่งเป็นคลองกั้นเขตชายแดนไทย — กัมพูชาตื้นเขิน มีปริมาณน้ำสูง จนไม่สามารถระบายน้ำออกนอกพื้นที่ได้ทัน จึงเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ในด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี ได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานในพื้นที่ นำเรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย รวมถึงถุงยังชีพสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว
ส่วนจังหวัดปราจีนบุรี มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 2 อำเภอ 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอนาดี และกบินทร์บุรี ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เกิดจากน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ ประกอบกับสภาพภูมิประเทศของจังหวัดปราจีนบุรีตั้งอยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน จึงเป็นพื้นที่รับน้ำโดยตรงจากทั้งสองแห่ง สำหรับด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี ได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดส่งเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมจัดส่งเครื่องจักรกล อุปกรณ์กู้ภัย และเรือท้องแบน สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่แล้ว ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทั้ง 75 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th