ออมสิน...บรรเทาผลกระทบอุทกภัย พักชำระหนี้ครึ่งปี ปรับลดเงินงวดให้วงเงิน ให้วงเงินฉุกเฉิน 50,000-500,000 บาท

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 21, 2010 10:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ธนาคารออมสิน ธนาคารออมสิน บรรเทาผลกระทบของลูกค้าและประชาชน จากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ ให้พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าสินเชื่อทุกประเภทเป็นเวลาครึ่งปี และปรับลดเงินงวดพร้อมขยายเวลาชำระหนี้ ขณะเดียวกันเปิดให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปใช้บริการวงเงินเพื่อบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าไม่เกิน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยเพียงเดือนละ 50 สตางค์ ส่วนกิจการร้านค้าให้เงินหมุนเวียนในกิจการวงเงินสูงสุด 500,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย MLR-1.50 ต่อปี ติดต่อยื่นขอให้บริการได้จนถึง 15 ธันวาคมนี้ นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยครั้งนี้ ทำให้ประชาชนรวมทั้งลูกค้าของธนาคารออมสินได้รับความเดือดร้อน ธนาคารออมสินคำนึงถึงความยากลำบากดังกล่าว จึงจัดหามาตรการบรรเทาความเดือดร้อน โดยได้สั่งการให้สาขาของธนาคารฯ ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ดำเนินการสำรวจความเสียหายของลูกค้า และเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ด้วยบริการด้านการเงินเป็นกรณีเร่งด่วน โดยสำหรับลูกค้าสินเชื่อเดิมของธนาคารและประชาชนทั่วไป ที่ได้รับผลกระทบสามารถขอกู้เพิ่มเพื่อนำไปอุปโภคบริโภค ซ่อมแซมสินทรัพย์ที่เสียหาย หรือประกอบอาชีพได้ โดยใช้สินเชื่อธนาคารประชาชน ให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ต่อเดือน หรือถ้าเป็นประกอบกิจการธุรกิจร้านค้า ใช้สินเชื่อธุรกิจห้องแถว ให้กู้รายละไม่เกิน 100,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย MLR (ปัจจุบัน MLR (ปัจจุบัน MLR อยู่ที่ 6.00) ลบร้อยละ 1.50 ต่อปี สำหรับลูกค้าเดิมของธนาคาร ได้แก่ สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อธุรกิจห้องแถว สินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบท (สพช.) สินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบทสำหรับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบทตามโครงการการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพหมู่บ้าน SML สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมหรือต่อเติมที่อยู่อาศัยของสมาชิกองค์กรชุมชน สินเชื่อธนาคารประชาชนแบบกลุ่ม และสินเชื่อเคหะเพื่อสมาชิก สพช. โดยพิจารณาให้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน พร้อมปรับลดเงินงวดและหรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปอีกได้ไม่เกิน 6 เดือน ส่วนลูกค้าสินเชื่อเคหะธนาคารออมสิน ธนาคารฯ ได้พิจารณาให้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน เช่นกัน รวมถึงปรับลดเงินงวดและหรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปได้ไม่เกิน 30 ปี ส่วนลูกค้าสินเชื่อเคหะเดิมและประชาชนทั่วไป สามารถกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบได้ไม่เกินรายละ 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 3-5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรกร้อยละ 2.50 ปีที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.00 ต่อปี และปีที่ 3 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 1.00 ต่อปี สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจและ SMEs ธนาคารฯ ได้พิจารณาผ่อนปรนให้พักชำระหนี้เงินต้นเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปอีกได้ไม่เกิน 1 ปี และสามารถขอกู้เพิ่มเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ไม่เกินรายละ 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 1.50 ต่อปี ทั้งนี้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อและขอความช่วยเหลือทางด้านสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่15 ธันวาคม 2553 อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือจากน้ำใจคนไทยด้วยกันนอกเหนือจากมาตราการด้านการเงินของธนาคารออมสินคงไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ ธนาคารออมสินจึงเปิดโอกาสให้ผู้มีน้ำใจทั่วประเทศที่ยังพอมีกำลังช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ร่วมบริจาคเงินผ่าน บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สำนักพหลโยธิน ชื่อบัญชี้ “ออมสินรวมในช่วยภัยน้ำท่วม” เลขที่บัญชี 0-2888888888-1 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น โดยสามารถติดต่อขอร่วมบริจาคเงินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 นี้ ลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม สามารถติดต่อใช้บริการได้ที่ ธนาคารออมสินทุกสาขาหรือหน่วยให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ ให้ห้างสรรพสินค้า รวมทั้ง สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center ของธนาคารฯ โทร.1115” นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ นอกเหนือจากมาตรการบรรเทาผลกระทบให้แก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปในด้านการเงินดังกล่าว ธนาคารออมสินได้ร่วมบรรเทาเหตุเป็นการเร่งด่วน โดยวันนี้ (วันที่ 20 ตุลาคม 2553) นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยผู้บริหาร และพนักงาน เดินทางสำรวจความเสียหายพร้อมกับเยี่ยมเยียนประชาชนและลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา อาทิ วัดโคกพรหมซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวของผู้ได้รับผลกระทบ บริเวณชุมชนมิตรภาพซอย 4 ตลาดสดอำเภอปักธงชัย เป็นต้น ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากเหตุอุทกภัย โดยได้นำถุงยังชีพกว่า 2,000 ชุด ประกอบด้วยน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง เวชภัณฑ์ ไฟฉาย รวมถึงของใช้จำเป็น และอาหารสำเร็จรูป เข้าไปช่วยเหลือ โดยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ยังได้มอบหมายให้ผู้บริหารและพนักงานธนาคารออมสินทั่วประเทศออกเยี่ยมเยียน สำรวจความเสียหาย รวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนและลูกค้าเป็นการเร่งด่วน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ