กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--เอ็ม แอนด์ เอ็ม คอมมิวนิเคชั่นส์
สานต่อภารกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพครบครัน ทั้งทำเล การก่อสร้าง และสภาพแวดล้อม ในราคาที่คุ้มค่าแก่ลูกค้า พร้อมเติบโตรุดหน้าบนพื้นฐานของความมั่นคงและรอบคอบ ประกาศรุก 3 โครงการใหม่ ในปี 50 ด้วยเป้าหมายการเติบโตร้อยละ 30 - 40
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาโครงการ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์” เปิดเผยเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของการดำเนินธุรกิจว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปี ที่ธุรกิจเริ่มจากการรับเหมาก่อสร้าง จนก้าวมาสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องรวมแล้วถึง 37 โครงการ จำนวนกว่า 12,000 ยูนิต ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ที่สำคัญ และที่สำคัญคือการเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับประเทศ
“จากการสำรวจความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าพบว่า ลูกค้าพอใจและตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการด้วยจุดเด่น 4 ประการหลักคือ ทำเล ราคา รูปแบบบ้าน และชื่อเสียงของบริษัท เหล่านี้คือปัจจัยที่มาของความสำเร็จ สร้างชื่อ “ชวนชื่น” ให้เป็นที่รู้จักและสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้า ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจสื่อที่มีผลต่อการจอง เป็นเพื่อนหรือลูกค้าเก่าแนะนำเกือบร้อยละ 20 ”
สำหรับเป้าหมายและแนวทางในการดำเนินธุรกิจนั้น บริษัทฯ ยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในระดับราคาปานกลาง โดยเน้นทำเลศักยภาพที่ครอบคลุมในทุกทำเลทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ในการพัฒนาโครงการบริษัทฯ ก็ยังคงยึดมั่นในคุณภาพที่คุ้มค่าคุ้มราคา รวมไปถึงการออกแบบที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก
นอกจากนั้นประธานกรรมการบริหาร ยังได้เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2550 ว่า บริษัทฯ มีแผนในการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,600 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเรสซิเด้นซ์พาร์ค 5 ชวนชื่นซิตี้ ตั้งอยู่บริเวณถนนรามอินทรา มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท, โครงการชวนชื่นอุดมสุข ตั้งอยู่ในเขตประเวศ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท และโครงการชวนชื่นประชาอุทิศ ตั้งอยู่บริเวณถนนประชาอุทิศ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายรวมในปีนี้ไว้ประมาณ 2,300 - 2,500 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตร้อยละ 30 - 40
“ในปีนี้ยังคงมีปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศประมาณร้อยละ 3.5 - 4.5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไปจะเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากสภาวะทางการเมืองจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ และหลังจากที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้น นอกจากนั้นในปีนี้แบงค์ชาติยังมีทิศทางและนโยบายในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งก็น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งโครงการต่างๆของบริษัทฯ ที่อยู่ระหว่างการขายในปัจจุบันและโครงการที่กำลังจะเปิดใหม่ ก็เป็นประเภทที่อยู่อาศัยในทำเล และระดับราคาที่ยังคงมีความต้องการในกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคที่ชะลอการตัดสินใจด้วยความไม่มั่นใจในช่วงปีที่ผ่านมา จึงน่าจะกลับมาเป็นกำลังซื้อหนุนเนื่องในครึ่งปีหลังนี้”
ประธานกรรมการบริหาร ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงกิจกรรมเพื่อสังคมเนื่องในโอกาสครอบรอบ 50 ปี ว่า บริษัทฯ ยังคงสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เนื่องจากเป็นปีมหามงคลที่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระชนมายุครบรอบ 80 พรรษา ดังนั้นทุกๆ กิจกรรมของเราก็จะยืดตามแนวพระราชดำริในด้านความพอเพียง ทั้งในเรื่องของโครงการประกวดสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ และกิจกรรมสำหรับสมาชิกในโครงการต่าง ๆ ที่จะเน้นความสัมพันธ์ของ “บ้าน ความรักอบอุ่น และความผูกพันของคนในครอบครัว” อันจะนำมาซึ่งความสุขที่พอเพียงของคนในครอบครัวและสังคมต่อไป
สอบถามรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
ปัทมา เปรมปรี , อานนท์ จันทราช , เอ็ม แอนด์ เอ็ม คอมมิวนิเคชั่นส์
โทร 0 2967 7713-4, แฟกซ์ 0 2967 7770 มือถือ 081 343 4576
E-Mail : ying_mandm@yahoo.com , tar_mandm@yahoo.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net