กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--เซ็นจูรี 21 ไทยแลนด์
ปัจจุบันตลาดคอนโดในย่านธุรกิจยังปรับตัวตามกระแสความต้องการของเศรษฐกิจ โดยผู้ประกอบการที่เป็นนักพัฒนาโครงการรวมถึงเจ้าของโครงการหันมาบุกตลาด โดยใช้ส่วนผสมการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น อาทิ ยื่นข้อเสนอพิเศษในการลดราคาห้องชุดพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงการเข้าถึงเครื่องเล่น เทคโนโลยีต่างๆ อย่าง ไอแพด ไอโฟน เป็นต้น เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อโครงการง่ายขึ้นและในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ต่างก็เน้น เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ข่าวสารในตัวโครงการและสร้างความแตกต่างของตัวโครงการเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์รูปแบบตึกและการตกแต่งห้องชุด ทำเลที่ตั้งที่ต้องมีจุดเด่นที่แตกต่างจึงจะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้
“การมองหาธุรกิจใหม่ที่สามารถตอบสนองการดำเนินงานได้อย่างครบวงจร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักบริหารและนักพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์จะต้องคำนึงถึงการบริหารงานขายรวมถึงการนำเสนอแผนและกลยุทธ์การวางแผนสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ไปในทิศทางเดียวกัน” (กิตติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นจูรี 21 ไทยแลนด์ กล่าว)
ด้านนายวราวุธ ลาภบริสุทธิ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเทอรี่ จำกัด ผู้ดูแลด้านมีเดียให้กับบริษัท เซ็นจูรี 21 ไทยแลนด์ กล่าวเพิ่มเติม ว่าปัจจุบันในกลุ่มบริษัทมีการดำเนินงานในด้านการทำธุรกิจมีเดียการออกแบบงานโฆษณาสำหรับสื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ และได้การสนับสนุนพื้นที่เพื่อติดตั้งสื่ออิเลคโทรนิค ร่วมกับบริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ เซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อขยายธุรกิจด้านมีเดียอย่างชัดเจน ประเดิมด้วยการติดตั้งจอทีวีพลาสม่า 42 นิ้ว จำนวน 500 สาขา ในไตรมาสแรกและ ขยายอีก 1,000 สาขา ในปี 2554 ในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยใช้งบประมาณในการดำเนินงานเบื้องต้นกว่า 200 ล้านบาท ทั้งเรื่องของการติดตั้งและการประชาสัมพันธ์สื่อใหม่ โดยคาดว่าสื่ออิเลคโทรนิคส์ที่เซเว่นจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย 1,500,000 คนต่อวันที่มาใช้บริการที่ร้านค้าสะดวกซื้อและการสัญจรบนทางเท้า
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีการตอบรับการให้บริการในไตรมาสแรก นอกเหนือจากลูกค้าที่เป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมในย่านธุรกิจหลายๆ ทำเลแล้ว ยังรวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้าสะดวกซื้อ อาทิ น้ำมันพืชองุ่น ดัชมิลล์ คาราบาวแดง ไวตามิล และอื่นๆ ที่มั่นใจรวมถึงการสนับสนุนจอพลาสม่าจำนวน 500 เครื่อง จากบริษัท พานาโซนิค ประเทศไทย จำกัด รวมถึงบริษัทใหญ่ๆที่มีเป้าหมายชัดเจนในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อตอบสนองยอดการขายทางการตลาดอย่าง บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด, บริษัท วอร์เนอร์ มิวสิค จำกัด และ บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด เป็นต้น ซึ่งจะเริ่มพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ จำนวน 250 สาขาและคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในสิ้นปี 2553 นี้
ด้านการดำเนินการกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสื่ออิเลคโทรนิค ณ จุดร้านค้าสะดวกซื้อนั้น แบ่งออกเป็น 2 แคมเปญใหญ่ๆ คือ เซเว่นสเตชั่น (จอพลาสม่า 500สาขา) และ จอ LED 2.5 เมตร คูณ 1.5 เมตร โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความคมชัดของภาพและทำเลที่ตั้งที่ เซเว่นสาขาสีลม (ปากซอยคอนแวนต์) และสาขาสยามสแควร์กำลังอยู่ในระหว่างการติดตั้ง โดยคาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทในสิ้นปีนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 250 ล้านบาท