กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือกู้ภัยสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ในส่วนกลาง และศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าส่วนหน้า ณ ศูนย์ ปภ.เขต 5 นครราชสีมา เพื่อประสานข้อมูลสถานการณ์อุทกภัย วิเคราะห์ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัย รวมถึงเปิดสายด่วนนิรภัย 1784 รับแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยและประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมเตรียมออกมาตรการพิเศษและหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มีความคล่องตัว และลดขั้นตอนการดำเนินงานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 75 จังหวัด สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรการกุศลในพื้นที่ โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำอุปกรณ์ เครื่องมือกู้ภัย เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่นับตั้งแต่เกิดเหตุ ดังนี้ เรือท้องแบน 147 ลำ ออกให้บริการอพยพและขนย้ายทรัพย์สินในพื้นที่ประสบอุทกภัย แจกจ่ายถุงยังชีพ 37,157 ชุด น้ำดื่ม 10,400 ขวด เพื่อให้ผู้ประสบภัยใช้อุปโภคบริโภคในเบื้องต้น นำเต็นท์ที่พักชั่วคราว 95 หลัง ไปติดตั้ง เพื่อให้ผู้ประสบภัยมีที่พักอาศัยชั่วคราว รวมถึงสนับสนุนรถผลิตน้ำดื่ม 8 คัน ออกให้บริการผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ นำเครื่องสูบน้ำ 25 เครื่อง ติดตั้งเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ตลอดจนนำรถกู้ภัยทุกชนิด 34 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 4 คัน เข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ปภ. ยังได้ประสานกำลังพล และอุปกรณ์ เครื่องมือกู้ภัยจากหน่วยทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือและนำอาหาร เครื่องดื่มไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดารที่การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง จะประสานให้การช่วยเหลือทางอากาศยาน รวมถึงนำแพทย์ พยาบาล สาธารณสุข ให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนผู้ประสบภัย ที่สำคัญ ปภ. ได้เสนอคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบมาตรการขออนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการของผู้ว่าราชการจังหวัดจาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการเห็นชอบจาก ครม. แล้ว รวมถึงให้ผ่อนผันหลักเกณฑ์การช่วยเหลือจากงบประมาณดังกล่าวให้มีความคล่องตัวและลดขั้นตอนที่ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความล่าช้า ในส่วนของการช่วยเหลือค่าชดเชยความเสียหายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และทรัพย์สินบางประเภท ปภ.จะได้กำหนดมาตรการและหลักเกณฑ์การช่วยเหลือที่ชัดเจน เช่น เพิ่มวงเงินจากระเบียบปัจจุบัน หรือการให้เงินชดเชยครัวเรือนตามพื้นที่ที่กำหนด เสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานข้อมูลสถานการณ์อุทกภัย วิเคราะห์ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัย ติดตามและสั่งการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ โดยประสานการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัดที่ประสบ อุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง รวมถึงจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามและสนับสนุน การปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมเปิดสายด่วนนิรภัย 1784 เป็นหน่วยงานในการรับแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัย ประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเป็นศูนย์สอบถามเส้นทางในการเดินทาง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีประชาชนติดต่อสอบถามและประสานขอความช่วยเหลือเข้ามาจำนวนมาก วันละกว่า 2,000 — 3,000 ราย ตลอดจน ปภ. ได้เปิดศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเปิดรับบริจาคเงินผ่านเลขที่บัญชี 067-0068-950 ชื่อบัญชี กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ส่วนสิ่งของ สามารถบริจาคได้ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขที่ 3/12 ถนนอู่ทองนอก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั้ง 18 เขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 75 จังหวัด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางหมายเลขโทรศัพท์0-2637-3881-2 และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง