กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยรวม 15 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 ราย และผู้สูญหาย 1 ราย ซึ่ง ปภ.จะได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดดำเนินการ ให้ความช่วยเหลือค่าจัดการศพตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และจัดส่งทีมกู้ภัยเข้าค้นหาผู้สูญหายต่อไป
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ 7 จังหวัด รวม 15 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 ราย และผู้สูญหาย 1 ราย โดยจังหวัดนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายหาญ หยัดสูงเนิน นายสุเทพ ปรีดา นายยศกรณ์ หยิ่งจอหอ และผู้สูญหาย 1 ราย ลพบุรี มีผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ นายพร้อม กุศลส่ง นางดวงกมล มะลิวรรณ นงส.สุนีย์ ค่ายเพชร และนางพงษ์ศักษ์ จันทร บุรีรัมย์ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ นายสมยศ เกตุแก้ว นายพัชรวิทย์ พรมบุตร นายกฤษฎา สอนเรือง และเด็กชายศุมงคล เนาวรัตน์ ระยอง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางดวนสี เชื้อกาญใหญ่ สระแก้ว มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายมา บัวผัน ชัยภูมิ
มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางสัมฤทธิ์ กิจสกุล และตราด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางรี โค๊ก และผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ นายดิน แวน คนงานชาวกัมพูชา ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตเกิดจากการจมน้ำจากการลงจับสัตว์น้ำ เก็บของในน้ำ และการปล่อยให้เด็ก ลงเล่นน้ำ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก จึงขอเตือนผู้ประสบอุทกภัยให้หลีกเลี่ยงการลงแช่น้ำเป็นเวลานาน เพราะช่วงนี้สภาพอากาศหนาวเย็นมากขึ้น อาจทำให้เป็นตะคริวจมน้ำเสียชีวิตได้ รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้เด็กลงเล่นน้ำ ดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากอาจพัดเด็กและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จมน้ำเสียชีวิต ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะได้เร่งประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้การช่วยเหลือ ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยค่าจัดการศพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจ่ายรายละไม่เกิน 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัว จ่ายเงินช่วยเหลืออีกไม่เกิน 25,000 บาท ตลอดจัดส่งจัดส่งทีมกู้ภัยเข้าค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาต่อไป สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจาก อุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด 75 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป