กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลและสวนสนามเนื่องในวันกองทัพไทยในส่วนกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๐ ในวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๐ เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ ลานสวนสนาม หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ตามที่กระทรวงกลาโหม ได้เปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย จากวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันที่ ๑๘ มกราคม เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๙ ที่กำหนดให้วันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี เป็นวันยุทธหัตถี และวันรัฐพิธี แทนวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันกองทัพไทย เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับชัยชนะในการกระทำยุทธหัตถีกับ พระมหาอุปราช อย่างมีเกียรติและสง่างาม เมื่อวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๒ จุลศักราช ๙๕๔ ซึ่งตรงกับ วันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๑๓๕ ด้วยพระปรีชาสามารถและความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพระองค์สามารถเอาชนะข้าศึกด้วยพระองค์ เอง ในขณะที่ตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึกเพียงลำพัง ซึ่งเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพไทย ได้มีวิวัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง กองทัพบก เป็นกำลังหลักที่สำคัญของชาติทั้งในอดีตและปัจจุบัน กองทัพเรือ เป็นกำลังหลักในการป้องกันอธิปไตยและคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และกองทัพอากาศทำหน้าที่ปกป้องน่านฟ้า ทุกเหล่าทัพต่างปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในการป้องกันอธิปไตยของชาติ โดยมี กองบัญชาการทหารสูงสุด ทำหน้าที่ควบคุมบังคับบัญชาและประสานงานระหว่างเหล่าทัพทั้งสาม แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนับร้อยปีแล้วก็ตาม กองทัพไทยก็ยังคงปฏิบัติภารกิจสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านภารกิจป้องกันการรุกรานภายนอกประเทศ หรือความมั่นคงในราชอาณาจักร การพัฒนาประเทศ ตลอดจนการขจัดภัยยาเสพติด เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญและความสงบสุขในทุก ๆ ด้านให้แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยตลอดไป
สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันกองทัพไทย เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงวีรกรรมของวีรกษัตริย์ไทย รวมทั้งบรรพบุรุษไทยผู้กล้าหาญทั้งหลายที่ได้เสียสละชีวิตเลือดเนื้อเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยให้ดำรงความเป็นชาติที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นมรดกตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ วันกองทัพไทย นอกจากแต่ละเหล่าทัพยังได้จัดให้มีพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลในหน่วยของตนแล้ว ยังได้จัดให้มีกิจกรรมที่สำคัญ ประกอบพิธีวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณของนักรบไทยผู้กล้าหาญที่เสียชีวิตเพื่อประเทศชาติ ณ ลานประกอบพิธีอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง และการไปเยี่ยมเยียน รวมทั้งมอบของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ และรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอีกด้วย