กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--วงศ์สว่างการพิมพ์
ถ้าเอ่ยถึงหนังสือเพลงในยุคแรก ไม่มีใครไม่รู้จัก The Guitar โลโก้คนถือกีต้าร์เป็นโลโก้ของ “วงศ์สว่างการพิมพ์” หนังสือเพลงฉบับแรกที่มีคอร์ดกีต้าร์ให้คนดนตรีได้ฝึกซ้อม จากหนังสือพลงที่เติบโตขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่า “เล็ก วงศ์สว่าง” เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวที่คอเพลงยอมรับและคือหนังสือคู่ใจของคอกีต้าร์มากมายทั้งวงสตริงยุคใหม่และเก่า
และถ้าเอ่ยถึงหนังสือ “ศาลาคนเศร้า” นิยายคลายเหงาของใครหลายๆคน ที่เป็นเรื่องราวจากทางบ้านที่เขียนถึงเขาในช่วงที่จัดรายการวิทยุ นำมาถูกตีพิมพ์ที่วงสว่างการพิมพ์จนได้รับความนิยมสูงสุดยาวนาน และเป็นพลอตละครดีๆหลายเรื่อง และพอถึงช่วงเศรษฐกิจซบเซา หนังสือเพลงถูกแทนที่และมีหัวหนังสือคู่แข่งเกิดขึ้นมากกว่า 200 หัว นั่นทำให้เล็ก วงศ์สว่างและครอบครัวต้องหากลยุทธ์ใหม่ แต่ด้วยความเป็นคนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น ทำให้คุณเล็กคิดสิ่งที่แตกต่างออกมาเสมอ เพื่อเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียว สร้างความต่างในธุรกิจจนกระทั่งเกิดหนังสือ “ทะลึ่ง” หนังสือคลายเครียดฉบับผู้ใหญ่ที่ติดยอดขายดี 1 ใน 10 ขณะนั้น และพิมพ์ซ้ำหลายรอบ ทั้งยังแตกหัวหนังสือทั้งผม ชุดไทย ชุดแต่งงาน แฟชั่นมากมาย จนบรรดาสาวๆในสมัยนั้นต้องเปิดหนังสือตัดชุดคล้ายหนังสือที่ “เล็ก วงศ์สว่าง” ทำขายกันทั่วบ้านทั่วเมือง
จากนั้น วงศ์สว่างการพิมพ์ ก็เติบโตธุรกิจมากมายหลายหัว ซึ่งปัจจุบันมี หัวหนังสือ กว่า100 เล่ม ซึ่งมีความแตกต่างกันและล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าแรก และผ่านพ้นวิกฤตหลายอย่างทั้งโดนโกงจากคนใกล้ชิด จนในที่สุดมาถึงรุ่นลูก ธุรกิจของวงศ์สว่างปรับกลยุทธ์จนสามารถบริหารงานได้อย่างลงตัว
ชีวิตการทำงาน “เล็ก วงศ์สว่าง” อดีตนักจัดรายการวิทยุ “ส.ส.ส.” (เสียงสามยอด) น้ำ เสียงทุ้มนุ่มหล่อคนนี้ โด่งดังไม่แพ้ใคร สาวน้อยสาวใหญ่สมัยนั้นติดกันงอมแงม วิถีชีวิตการทำงานไม่เคยไม่แพ้ใคร เช่นเดียวกับเรื่องหัวใจเขาก็ไม่แพ้ใครเช่นเดียวกันคุณเล็กแต่งงานกับ “คุณจารุวรรณ วงศ์สว่าง” ซึ่งเดิมคือเลขาฯ หรือเด็กฝึนงานของวงศ์สว่าง อายุอานามที่แตกต่างกัน ทำให้คุณจารุวรรณสาวน้อยสวยเลือกได้ขณะนั้น ไม่ได้ชื่นชอบคุณเล็กแต่แรก แต่ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก คุณเล็กพยายามจะไปส่งคุณจารุวรรณกลับบ้านแต่อีกฝ่ายไม่เต็มใจ คุณเล็กขับรถตามบีบแตรไล่ตามจนคุณจารุวรรณต้องยอมขึ้นรถเพราะคนมองเต็มไปหมด ความรักที่อาจไม่หวานแหวว ทำหนังสือเพลงมา 40 ปีแต่ร้องเพลงไม่เป็น เล่นดนตรีไม่ได้ของคุณเล็กก็สามารถเอาชนะใจคุณจารุวรรณ จนมีบุตรด้วยกัน 3 คน คือคุณนรรฆพล วงศ์สว่าง, คุณปิยะวรรณ วงศ์สว่าง และคุณภัทรพล วงศ์สว่าง
ซึ่งหลังจาก “บุ๋ม ปิยะวรรณ” ลูกสาวคนกลางสุดห้าวของเล็ก วงศ์สว่าง กลับมาจากศึกษาต่อที่เมืองนอกด้านการตลาด ด้วยวิธีการเลี้ยงแบบต้องหางานนอกบริษัททำจึงทำให้เธอต้องหาสมัครงานในบริษัทเพลงตามที่ใจต้องการ ดูเหมือนเธอจะเป็น 1 เดียวที่รักเสียงเพลงและชอบการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจทั้งที่ไม่ได้ร่ำเรียนสายตรงมาทางนี้เลยแม้แต่น้อย แต่ความใฝ่ฝันที่ว่าทำให้เธอก้าวเข้าสู่การทำงานของครอบครัวที่เธอบอกว่ามีทั้งความกดดัน และความสบายใจควบคู่กันไป กว่า 40 ปีบนถนนสายธุรกิจ ของบริษัทเธอยืนยันว่า เล็ก วงศ์สว่าง ผู้เป็นพ่อคือผู้ที่ทำธุรกิจด้วยหัวใจรัก ไม่ได้เน้นผลกำไรสูงสุด แต่ใช้ใจและแนวคิดที่แตกต่างขับเคลื่อน เพื่อให้ธุรกิจออกมาเป็นเจ้าแรก และสิ่งหนึ่งที่พ่อสอนเสมอคือต้องริเริ่มในสิ่งที่คนอื่นยังไม่เคยทำ และต้องเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม
“คุณพ่อจะบอกเสมอว่าถ้า เราไม่ริแล้วใครจะเริ่ม บางทีบุ๋มยอมรับเลยว่าพ่อเก่ง และคิดเรื่องงานได้เฉียบขาดเสมอ เราทำหนังสือเพลงตั้งแต่ยังไม่มีค่ายไหนทำ จนมีปัจจุบันคู่แข่งเป็น100หัว พอหนังสือเพลงซบเซา พ่อก็คิดอีกว่าทำหนังสือคลายเครียด ทำหนังสือแฟชั่นผม ซึ่งบุ๋มว่าคงมีพ่อเขามีความคิดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แล้วเราก็มาปรับใช้กับแนวทางการทำธุริจของเราในยุคสมัยใหม่ เพราะพอเขาสร้างของเขามาแต่คือต้องมาเจอกันตรงกลางเพราะยุคสมัยในการทำธุรกิจของเราและพ่อต่างกัน แต่ไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ว่าเราต้องเริ่มเป็นเจ้าแรก แต่บ้านบุ๋มไม่เคยมานั่งมองว่ากำไรหรือขนาดธุรกิจต้องเท่าไหร่ เพราะว่าเราทำงานแบบไม่เอาเปรียบใคร รักอะไรก็ทำอันนั้นแล้วพ่อจะคิดสิ่งใหม่ๆมาตลอด”
ครอบครัวของ คุณเล็ก วงศ์สว่าง อาจไม่ได้สอนลูกตามแบบฉบับคุณหนู เพราะตัวคุณเล็กเองในสมัยวัยเยาว์ก็ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อตัวเองมาโดยตลอด คุณบุ๋มเล่าว่าพ่อทำงานหนัก และให้อิสระลูกได้เรียนรู้ชีวิตจริงๆ และแม้ไม่หวาน แต่เรื่องกตัญญูบ้านนี้ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
“บ้านบุ๋มเลี้ยงแบบไม่มานั่งพูดยอลูก อย่างมากพ่อก็บอกว่า ก็ดีนะ (หัวเราะ) ไม่มีทางชม แต่ก็มองอยู่ห่างๆ เพราะพ่อเป็นคนไม่หวานเลย บุ๋มโดนเลี้ยงกันมาแบบดูแลตัวเองได้ ไม่อ่อนแอ ไม่มีชีวิตคุณหนู ตอนไปเมืองนอกก็ไม่ไดส่งใครไปอยู่ดว้ย ทำอะไรเองหมด ทุกอย่างจนถึงวันนี้ก็ยังรับเงินเดือนเหมือนพนักงาน เพราะเขาจ่ายเพื่อเรามามากแล้ว บุ๋มเองชอบดนตรี ชอบเพลง แต่เราเองมีธุรกิจที่พ่อสานไว้ให้ บุ๋มก็กลับมาช่วยค่ะ ฝ่าฟันกันมาซึ่งบางทีเราก็ดื้อ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องงานบ้านเราไม่เคยลืมพ่อกับแม่ค่ะ ใกล้ชิดกันวันพ่อวันแม่ซื้อมาลัยมาไหว้ ไม่เคยลืม”
และครั้งนี้ของขวัญที่บุ๋มอยากให้พ่อ หรือ คุณเล็ก วงศ์สว่าง คือการจัดคอนเสิร์ตให้พ่อ โดยที่เธอเตรียมงานไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้วจึงเอ่ยปากบอกพ่อ งานคอนเสิร์ตที่เธอยากจัดนี้เป็นการกุศลและมอบรายได้ให้กับ รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้มูลนิธิพระดาบส , คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ มูลนิธิน้ำใจไทย เพื่อตำรวจทหาร 3 จัดหวัดชายแดนภาคใต้ โดยของขวัญชิ้นนี้ เธอมีความตั้งใจว่าอยากให้ครอบครัวที่เกิดในแต่ละยุคได้มานั่งดูคอนเสิร์ตของศิลปินในยุคต่างๆ ที่เติบโตมาพร้อมหนังสือเพลง The Guitar 40ปี โดยศิลปินที่มากกว่า 100 วง อีกทั้งยังจะได้ย้อนกลับไปบรรยากาศของดนตรีในยุคเก่าและใหม่ที่ประสานกันอย่างลงตัวใน 3 เวที
“พอมาทำเองรู้ว่ามันยากแต่ของขวัญชิ้นนี้บุ๋มตั้งใจทำให้พ่อ ตรงนี้ทำหนังสือเพลง คอร์ดกีต้าร์เนื้อเพลงไทยเจ้าแรกมาหลายปี หลายคนได้หนังสือพ่อฝึกกีต้าร์ เติบโตมาหลายวง คาราบาว คาราวาน ดิอิมพวสสิเบิ้ล แมคอินทอช แกรนด์เอ็กซ์ และอีกมาหมายหลายวง แต่ก่อนทุกคนถือหนังสือพ่อไปเล่นกีต้าร์ไม่ได้ บุ๋มเลยคิดว่าน่าจะมีคอนเสิร์ตสักครั้งหนึ่งให้พี่ๆน้องทั้งนักดนตรีและคนไทยได้ดู ย้อนวันวานกันดีกว่าแล้วเงินได้ทำบุญด้วย ลอยกระทงนี้ค่ะ 20-21 .พ.ย. นี้ที่เมืองทองค่ะ เนรมิตที่นั่นให้เป็นเมืองแห่งดนตรีเลยค่ะ อยากให้มาชมกัน มีทั้งศิลปินนักร้องใหม่และเก่ามากันได้ทั้งครอบครัว แล้วศิลปินก็ยินดีมาร่วมงานนี้กันเยอะมาก แบบไร้ค่ายด้วย ซึ่งบุ๋มคิดว่าเพื่อฉลองครบ 40 ของ I.S. Song Hits. เราอยากทำอะไรเพื่อคืนสุขสังคมบ้าง และขอส่งมอบความสุขด้วยเสียงเพลงค่ะ”