กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--องค์การสหประชาชาติ
เนื่องด้วยองค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ ๘ มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมเพื่อร่วมฉลองและรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรี เพื่อให้ได้มาซึ่งความเสมอภาค การพัฒนา และสันติภาพ รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพ และนำไปสู่การทบทวนความก้าวหน้าในการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ เพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกันของหญิงและชายในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง ตลอดจนสิทธิมนุษยชนของสตรีในประเทศต่าง ๆ สำหรับปี ๒๕๕๓ นี้นับเป็นปีที่มีความพิเศษ กล่าวคือ ครบวาระเหตุการณ์ ๓ เหตุการณ์ที่สำคัญในระดับสากล คือ
1.ครบรอบ ๑๐๐ ปี ของการประกาศให้วันที่ ๘ มีนาคม เป็นวันสตรีสากล เมื่อปี ๒๔๕๓ ตามข้อเสนอของนางคลาร่า เซทกิ้น (Clara Zetkin) ผู้นำแรงงานสตรีโรงงานทอผ้าชาวเยอรมัน
2. ครบรอบ ๑๕ ปี ของการรับรองปฏิญญาและแผนปฏิบัติการปักกิ่งเพื่อความก้าวหน้าของสตรี
3. ครบรอบ ๑๐ ปี ของการรับรองเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ที่ประเทศสมาชิกสหประชาชาติร่วมกำหนดขึ้นเพื่อพัฒนาคนและลดช่องว่างของการพัฒนาระหว่างประเทศต่าง ๆ
ในการนี้ สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ใคร่ขอเรียนเชิญท่านร่วมเป็นเกียรติในการประชุมสมัชชาสตรีแห่งชาติ และการจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๕๓ ในวันพุธที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๐๐ -๑๖.๐๐ น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบโล่เกียรติยศและโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล หน่วยงาน องค์กรดีเด่น ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งในปีนี้มีจำนวน ๔๑ รางวัล ใน ๑๘ สาขา นอกจากนี้ยังมีการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “๑๐๐ ปี วันสตรีสากล : จากพันธกรณี สู่สิทธิและศักดิ์ศรีสตรีไทย” โดยท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช นายกก่อตั้งสมาคมติดตามการพัฒนาสตรีในประเทศไทย การเสวนา เรื่อง ”สถานการณ์การล่วงละเมิดทางเพศในประเทศไทย และการพัฒนาระบบการป้องกันในอนาคต” จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ และชมแฟชั่นโชว์ชุด “เลิศล้ำเหนือกาลเวลา...ที่สุดคุณค่าผ้าแห่งไทย” ในงานเลี้ยงรับรองผู้เข้าร่วมงานสมัชชาสตรีแห่งชาติ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081 755 0645 kunlawee