กระทรวงพลังงานเสริมน้ำมันอีก 100,000 ลิตร ให้ทัพภาคที่ 1 ขนสัมภาระช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคกลาง 10 จังหวัด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 26, 2010 16:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--กระทรวงพลังงาน วันนี้ (26 ต.ค. 53) นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีมอบน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 100,000 ลิตร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทน้ำมันในการกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ผ่านศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกระทรวงพลังงาน บริษัทละ 50,000 ลิตร แก่กองทัพภาคที่ 1 เพื่อใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี พลโทอุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้รับมอบ นายแพทย์วรรณรัตน์ เปิดเผยว่า อุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย คือ การลำเลียงสิ่งของ น้ำ อาหาร ยา และเวชภัณฑ์ เข้าไปยังที่ที่ถูกน้ำท่วมซึ่งมีระดับสูงและเชี่ยว รวมทั้ง การลำเลียงผู้ป่วย คนชรา ออกจากพื้นที่วิกฤต ที่ผ่านมาต้องใช้เรือ รถขนาดใหญ่ เช่น รถสิบล้อ เดินทางเข้าไปยังพื้นที่เท่านั้น ซึ่งพาหนะเหล่านี้ต้องทำงานอย่างหนักในแต่ละวัน ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมยังได้แผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง จำเป็นต้องใช้พาหนะลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือเป็นจำนวนมากและจำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับพาหนะดังกล่าวเป็นจำนวนมากเช่นกัน กระทรวงพลังงานจึงได้มอบน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่หน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยก่อนหน้านี้ได้มอบให้กับหน่วยงานในจังหวัดนครราชสีมา อาทิ โรงพยาบาลมหาราช จำนวน 5,000 ลิตร สำหรับใช้กับเครื่องสูบน้ำสูบระบายน้ำที่กักขังในโรงพยาบาล มอบให้กับเทศบาลนครราชสีมา มูลนิธิสาธารณกุศล 10,000 ลิตร และกองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา 100,000 ลิตร เพื่อใช้ในการลำเลียงสิ่งของและขนส่งผู้ประสบภัยในพื้นที่ รวมยอดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ให้การช่วยเหลือไปแล้ว จำนวน 115,000 ลิตร สำหรับวันนี้ได้มอบให้กับกองทัพภาคที่ 1 อีก จำนวน 100,000 ลิตร เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตภาคกลาง 10 จังหวัด พลโทอุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า น้ำมันจำนวน 100,000 ลิตร ที่รับมอบจากกระทรวงพลังงานในวันนี้ จะนำไปใช้กับยานพาหนะทุกชนิดที่ระดมมาจากหน่วยงานในพื้นที่ 26 จังหวัด ภายใต้การบัญชาการของกองทัพภาคที่ 1 รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดกองทัพบกที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยภาคกลาง ส่วนพื้นที่เป้าหมายการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนของกองทัพภาคที่ 1 ขณะนี้ได้แก่ กรุงเทพฯ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สระแก้ว และปราจีนบุรี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ