กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--กรมสรรพากร
กรมสรรพากรจัดกระบวนทัพใหม่ ประกาศนโยบาย BIG CHANGE เดินหน้าปรับโครงสร้างภาษีแบบมีส่วนร่วม ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศใช้กำกับดูแลผู้เสียภาษีใกล้ชิด พัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ สร้างนวัตกรรมบริการร ปแบบใหม่ ๆ และเสริมการบริการที่มีอยู่ ให้มีบริการที่หลากหลาย สะดวกรวดเร็วโดนใจผู้ประกอบการและผู้เสียภาษีมากยิ่งขึ้น
วันนี้ (27 ตุลาคม 2553) นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม/สัมมนา สรรพากรภาค สรรพากรพื้นที่ ทั่วราชอาณาจ กรประจำปีงบประมาณ 2554 ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ การจัดประชุม / สัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบนโยบายและทิศทางการบริหารจัดเก็บภาษีสำหรับปีงบประมาณ 2554 ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกรมสรรพากรจากทั่วประเทศ และเพื่อร่วมจัดทำแผนงานการบริหารจัดเก็บภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ภาษีอากรตามที่กรมฯ ได้รับมอบหมาย ตามเอกสารงบประมาณจำนวน 1.30 ล้านล้านบาท รวมทั้งมีการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ของภาคธุรกิจและแนวโน้มการเปลี่ยน แปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคและโอกาสในการบริหารจัดเก็บภาษีเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้รับ ซึ่งหลักการสำคัญมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงพอสรุปได้โดยสังเขป มีดังต่อไปนี้
1. การเชื่อมโยงข้อมูลที่มีอยู่ในฐานต่างๆ บูรณาการให้เป็นเครือข่ายฐานข้อมูลร่วม ที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานอยู่บนฐานความถูกต้องเป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยสามา ถลดโอกาสการหลีกเลี่ยงภาษีได้ไปพร้อมๆ กัน
2. รณรงค์และกระตุ้นให้ผู้เสียภาษีหันมาใช้บริการยื่นแบบฯ และชำระภาษีผ่านระบบ Internet ให้มากที่สุด โดยพัฒนาระบบที่เพิ่มเติมความสะดวกในการทำธุรกรรมกับก มสรรพากร และขจัดความผิดพลาดของการบันทึกข้อมูล (Data Entry) ที่เกิดจากการยื่นแบบฯ กระดาษแบบเก่า ซึ่งการดำเนินนโยบายนี้ยังช่วยให้กรมฯ พัฒนาฐานข้อมูล เช่น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม เสริมประสิทธิภาพการทำงานได้อีกด้วย
3. พัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เอื้อต่อการตรวจสอบ และพัฒนาแนวทางการตรวจสอบโดยใช้ระบบ “บัญชีตรวจ” (Check list) ที่จะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป ็นไปภายใต้มาตรฐานเดียว สร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
4. จัดทำคู่มือช่วยคำนวณภาษีในแต่ละกลุ่มธุรกิจ หรือ Tax Kit ที่เมื่อปฏิบัติตามคู่มือ ก็ ะอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องเบื้องต้น ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติด้านภาษีของผู้ประกอบการและลดภาระงาน ด้านตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
5. การปรับปรุงโครงสร้างภาษี ให้เกิดความเป็นธรรม และก่อภาระภาษีในลักษณะที่ทั่วถึง โดยการปรับปรุงแต่ละเรื่องต้องคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ภายใต้หลักความสามารถที่จะนำไป ปฏิบัติได้และเป็นไปตามความสามารถในการจ่ายภาษี เป็นต้น
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดว่า “กรมสรรพากรมีความตั้งใจที่จะให้บริการที่ดีแก่ผู้เสียภาษีและประชาชน ให้ได้ ับความสะดวก รวดเร็วในการติดต่อราชการกับกรมสรรพากร เพื่อสร้างความพึงพอใจและความสมัครใจในการเสียภาษี และจะอาศัยเครื่องมือต่าง ๆ ในการควบคุมดูแลผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบมีการเสียภาษีถูกต้องมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม ถึงแม้ตัวเลขเป้าหมายกา จัดเก็บที่ได้รับในปี 2554 จะสูงถึง 1.30 ล้านล้านบาท แต่กรมสรรพากรก็เชื่อมั่นว่า ด้วยความทุ่มเททำงานหนักของเจ้าหน้าที่สรรพากร จะส่งผลให้การจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2554 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลตามที่ได้รับมอบหมาย โดยสอดคล้องกับสภาพความเป็นจร ิงของธุรกิจ และเหมาะสมกับผู้ประกอบการแต่ละราย ”