กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--พม.
เมื่อวันที่ ๒๔ ต.ค.๕๓ เวลา ๑๔.๐๐ น.นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ เดินทางไปเยี่ยมเยียน พร้อมมอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ อ.ปากช่อง และอ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศไทยในเวลานี้ ได้สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย ประเมินแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยเฉพาะในเขตจังหวัดนครราชสีมา ลพบุรี ชัยภูมิ นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหน่วยงานหลัก ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมทุกกลุ่มเป้าหมาย มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ดังนี้
๑.) มาตรการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยจัดตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยและกำหนดให้ศูนย์ประชาบดี สายด่วน ๑๓๐๐ ทั้งใน กทม. และทุกจังหวัดเป็นศูนย์รับแจ้งฯ ศูนย์ขอความช่วยเหลือ และรับบริจาคสิ่งของ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งกำหนดให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) เป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และให้ประสานกับหน่วยราชการอื่นๆ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
๒.) มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเฉพาะหน้าขณะประสบอุทกภัย โดยมอบถุงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินสงเคราะห์ให้แก่ครอบครัวผู้ประสบภัย ครอบครัวละ ๑,๐๐๐ บาท
๓.) มาตรการช่วยเหลือภายหลังน้ำลด และการช่วยเหลือระยะยาว โดยบริการซ่อมแซมบ้านพักอาศัย ที่เสียหาย และสนับสนุนงบประมาณซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุ จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ปรับสภาพบ้านผู้พิการเพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ ลูกค้าโครงการบ้านเอื้ออาทร บ้านเกาะ จังหวัดนครราชสีมา และโครงการบ้านเอื้ออาทรโนนสะมอ จังหวัดชัยภูมิ ที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติและได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม สามารถขอผ่อนผันการชำระค่าเช่าซื้อได้เป็นเวลา ๔ เดือน
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า สำหรับใน จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เป็นบริเวณกว้าง พม.จึงได้มาเยี่ยมเยียนและมอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ รายละ ๑,๐๐๐ บาท ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ดังนี้ ๑.) เขตเทศบาลเมืองปากช่อง อ.ปากช่อง จำนวน ๑,๒๐๐ ราย เป็นเงิน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ๒.) ต.โคกไทย อ.ปักธงชัย จำนวน ๓๐๐ ราย เป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ๓.) ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ ๒๐๐ ราย เป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ๔.) บ้านเอื้ออาทรบ้านเกาะ จำนวน ๔๒๐ ครัวเรือน เป็นเงิน ๔๒๐,๐๐๐ บาท โดยมอบเงินสงเคราะห์ให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย จำนวน ๑ ราย เป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท รวมมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัว ทั้งสิ้น ๒,๑๒๕,๐๐๐ บาท และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ หน่วยงานในสังกัด พม.ที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งบ้านเมตตา สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านราชสีมา และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์
ทั้งนี้ พม.ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้ว ดังนี้
๑. ในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ต.ทางช้าง และ ต.บางหลวงโดด อ.บางบาล โดยมอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ จำนวน ๑,๐๐๐ บาท ให้กับผู้ประสบภัย ตำบลละ ๓๐๐ ครอบครัว รวมเป็นเงิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท
๒.) ในเขต จ.ลพบุรี โดยออกคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.บ้านหมี่ และเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย มอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว ณ วัดศรีรัตนคีรี (เขาแก้ว) ต.ท่าศาลา อ.เมือง จำนวน ๕๐๐ ราย เป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาทและในพื้นที่วัดโคกลำพาน ต.โคกลำพาน อ.เมือง จำนวน ๕๐๐ ราย เป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
รวมมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวในพื้นที่ประสบภัย ทั้ง ๓ จังหวัด เป็นเงินทั้งสิ้น ๓,๗๒๕,๐๐๐ บาท
“ ในขณะนี้ พม.ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคและให้คำปรึกษาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขึ้น ภายในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุฯ รวมทั้งศูนย์ประชาบดี ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการรายงานข้อมูล ติดตามสถานการณ์ รับแจ้งเหตุและ ให้คำปรึกษา โดยผู้ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ที่ต้องการขอความช่วยเหลือหรือต้องการบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ติดต่อได้ที่ ศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง” นายอิสสระ กล่าว.