กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย15 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มระหว่างวันที่ 27-31 ตุลาคม 2553 พร้อมสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัย
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงระหว่างวันที่ 27-31 ตุลาคม 2553 มรสุมตะวันออกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัย 15 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย แจ้งเตือนประชาชน และรายงานสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที และหากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ
นายวิบูลย์ กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ทั้ง 15 จังหวัดให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากภาวะฝนหนัก หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้นเป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา มีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำ เป็นต้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมในทะเลห่างฝั่งบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปภ.