กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่น
บลจ.ไอเอ็นจีฮึดชิงส่วนแบ่งตลาด LTF โค้งสุดท้าย ก่อนปิดฉากกองทุนใหม่ ลุยออกกองทุนใหม่ 2 กองรวด “ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว” และ “ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว” ชูจุดเด่นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ปันผลสูง เปิดขายพร้อมกัน 14-21 มิ.ย.นี้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด-กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงสุดท้ายในการจัดตั้งกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) กองใหม่ ซึ่งจะต้องยื่นจดทะเบียนจัดตั้งภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ทำให้ บลจ.หลายๆ แห่งต่างทยอยนำเสนอกองทุน LTF ออกมาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน
ในส่วนของ บลจ.ไอเอ็นจี ก็เช่นกัน โดยเตรียมที่จะเสนอขายกองทุน LTF ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 2 กองทุนพร้อมกัน ได้แก่ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว” และ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว” ซึ่งมีมูลค่าโครงการละ 5,000 ล้านบาท และจะเสนอขายพร้อมกันในระหว่างวันที่ 14-21 มิถุนายน 2550 นี้ กำหนดการลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาทเท่านั้น
“จุดเด่นของกองทุน LTF ทั้ง 2 กองนี้ อยู่ที่การเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีผลประกอบการโดดเด่น มีการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องยอมรับว่า บรรยากาศการลงทุนในขณะนี้ นักลงทุนมีความกังวลเรื่องความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้น ลักษณะการลงทุนในกองทุน LTF ทั้ง 2 กองของ บลจ.ไอเอ็นจี จึงคำนึงถึงจุดนี้เป็นพิเศษ” นายจุมพลกล่าว
โดย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทยแวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว” จะเน้นการลงทุนในหุ้นทั้งหมด ซึ่งหุ้นที่ลงทุนจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี (Value Stock) มีลักษณะเด่นที่ผลประกอบการดี มีประวัติการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มในการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ มีโครงสร้างทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง สามารถสร้างผลกำไรได้โตต่อเนื่อง ต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจได้ดี และราคาถูกเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งต้องยอมรับว่า หุ้นพื้นฐานดีนั้นเหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากมักจะสร้างผลตอบแทนที่ดี และมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มกิจการ
ส่วน “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว” มีจุดเด่นอยู่ที่กระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น โดยการแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะยึดหลักพิจารณาลงทุนในหุ้นเช่นเดียวกับกองแรก และจะลงทุนตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีประมาณ 70% ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และเงินฝาก ในสัดส่วนรอบปีบัญชีประมาณ 30% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของหุ้น ซึ่งจะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุน
“เราเชื่อว่ากองทุน LTF จะยังคงได้รับความสนใจ เพราะยังมีผู้ลงทุนอีกมากที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 15% ของรายได้หรือไม่เกิน 3 แสนบาทต่อปี ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน” นายจุมพลกล่าว
สำหรับกองทุน LTF กองใหม่ทั้ง 2 กองทุนของ บลจ.ไ อเอ็นจี (ประเทศไทย) สามารถเปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการหลัง IPO ซึ่งนักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.(02) 688-7777 ต่อ 7782-7789 หรือ www.ingfunds.co.th โดยนักลงทุนที่ซื้อในช่วง IPO ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป จะได้รับกระเป๋า ING Shopping Bag ฟรี 1 ใบ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : กฤติยาพร พลตรี
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทร. 02-643-1191 ,02-248-7967-8 มือถือ 08-9636-8414
E-mail address : c_mastermind@yahoo.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net