แอสเซท พลัส มั่นใจ กลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ โชว์ผลงาน ASP-SMART6 จ่ายคืนผลตอบแทน 5% จากเงินทุนเริ่มแรก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 28, 2010 09:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--บลจ.แอสเซท พลัส แอสเซท พลัส มั่นใจ กลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ โชว์ผลงาน ASP-SMART6 จ่ายคืนผลตอบแทน 5% จากเงินทุนเริ่มแรก พร้อมเตรียมเปิด IPO ASP-SMART8 กลางเดือน พ.ย.นี้ บลจ.แอสเซท พลัส มั่นใจบริหารกองทุนกลุ่ม SMART ด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ตามปัจจัยพื้นฐาน โชว์ผลงาน กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 6 (ASP-SMART6) จ่ายคืนผลตอบแทนหน่วยละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 5% จากเงินทุนเริ่มแรก พร้อมเตรียมเปิด IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 8 (ASP-SMART8) กลางเดือนพฤศจิกายน นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่มีผลต่อการปรับตัวของตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นกระแสเงินลงทุนไหลเข้า ซึ่งแนวโน้มของ Capital Flow ดังกล่าวยังต้องติดตามในเรื่อง นโยบายผ่อนคลายทางการเงินรอบสอง (Quantitative Easing-QE2) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 2-3 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกก็ได้เริ่มสะท้อนประเด็นนโยบายดังกล่าวไปบ้างแล้ว โดยตลาดได้คาดการณ์ว่ามาตรการดังกล่าวจะมีปริมาณเงินค่อนข้างมาก และส่งผลดีต่อการบริโภคและการลงทุน ขณะที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ จะอ่อนค่าลง ซึ่งจะมีผลให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า อย่างไรก็ตาม หากมาตรการดังกล่าวผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์ก็จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อตลาดหุ้นและพันธบัตรเช่นกัน ในส่วนการบริหารกองทุนตราสารทุนของบริษัทฯ เน้นการคัดเลือกหลักทรัพย์ตามปัจจัยพื้นฐาน (Stock selection) เป็นรายตัว โดยเน้นหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะมีการขยายตัวของกำไรสุทฺธิในปี 2553-2554และหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราสูง และการใช้อนุพันธ์ประกอบการบริหารกองทุนเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน (Minimize Downside) ส่งผลให้กองทุนค่อนข้างมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นอย่างกองทุนกลุ่ม SMART ที่สามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติได้อย่างต่อเนื่อง ”หลังจากที่สามารถปิดกองทุน ASP-SMART4 และ ASP-SMART5 ภายในระยะเวลา 3-4 เดือน ขณะที่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 6 (ASP-SMART6) ซึ่งจัดตั้งในช่วงปลายเดือนสิงหาคม กองทุนสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนคืนให้กับผู้ลงทุนแล้ว ในอัตราหน่วยละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 5% จากเงินลงทุนเริ่มแรกที่ 10 บาท ทั้งนี้หากตลาดยังคงปรับตัวสูงขึ้นจนทำให้มูลค่าหน่วยลงทุนผ่านระดับ 11 บาท กองทุนก็จะสามารถปิดโครงการได้ตามเป้าหมายที่กำหนด” นางลดาวรรณกล่าว นางลดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะสั้นตลาดอาจมีโอกาสปรับฐานบ้างเล็กน้อยจากการทยอยทำกำไรบางส่วนออกไปของนักลงทุน หลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสะท้อนระดับ PER ที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยภูมิภาค ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ อาจก่อให้เกิดความกังวลด้านแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม จากสภาพพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยที่ยังคงเข้มแข็ง ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เบาบางลง และการที่สัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ยังมีมูลค่าการลงทุนสะสมอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งหากไม่มีปัจจัยลบใดที่มีผลกระทบอย่างมีนัย คาดว่าดัชนียังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จากมุมมองระยะยาวของตลาดหุ้นที่ยังอยู่ในเชิงบวก บริษัทฯ จึงเตรียมเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 8 (ASP-SMART 8) ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งภายหลังจากการระดมเงินลงทุน ผู้จัดการกองทุนจะรอจังหวะทยอยเข้าลงทุนเมื่อระดับราคาของหุ้นเป้าหมายปรับตัวลงถึงระดับที่น่าสนใจ เนื่องจากคาดว่าการปรับตัวลงของตลาดในช่วงปลายปีน่าจะค่อนข้างผันผวนและมีโอกาสไม่ลงลึกมากนักจากเม็ดเงินลงทุนในส่วนของกองทุนภาษีช่วงปลายปี แนวทางการบริหารกองทุนหุ้นกลุ่ม SMART ในการทำ active asset allocation และจับจังหวะตลาดในการเข้าลงทุนและคัดเลือกหลักทรัพย์ตามปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงการใช้ Derivatives ในการลดความผันผวน ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะหาลักษณะการลงทุนที่เหมาะสมกับจังหวะตลาดของแต่ละกองทุน ทำให้กองทุนกลุ่ม SMART ทั้ง 7 กองทุนมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ “กองทุน ASP-SMART8 เป็นกองทุนผสมที่มีอายุโครงการ 1 ปี สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ในประเทศ ได้ 0—100% ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น เพื่อหาจังหวะเข้าลงทุนในช่วงที่ตลาดเหมาะสม และมีเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนสุทธิที่ระดับ 10% จากเงินลงทุนเริ่มแรก และปิดกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนผ่านระดับ 11.00 บาท หรือเมื่อครบอายุกองทุน 1 ปี แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดก่อน โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชีย ได้แก่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์ และหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนจะมีการใช้ SET50 FUTURES ที่สะท้อนการปรับตัวของหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองทุนในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มผันผวนสูงได้”นางลดาวรรณ กล่าว ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111 สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ