กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--เวิรฟ
TCDC จับมือ SME Bank เปิดโปรเจค“ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)ตามแนวเศรษฐกิจสร้างสรรค์”กับการเปิดโอกาสครั้งสำคัญให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้และแหล่งเงินทุน
ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) จับมือธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แห่งประเทศไทย (SME Bank) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตามแนวเศรษฐกิจสร้างสรรค์” กับกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช้อปเต็มรูปแบบ พร้อมเสริมทัพความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ... กับครั้งแรกในการเปิดตัว 4 ขุนพลทีมที่ปรึกษาประจำโครงการ เพื่อมุ่งพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของเอสเอ็มอีไทย สู่เส้นชัยในโลกธุรกิจ
นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เปิดเผยว่า ด้วยพันธกิจและหน้าที่หลักของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD) สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการพัฒนาและสร้างแหล่งเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักและเข้าใจในเหตุผลและความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ อันจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มและผลักดันระบบเศรษฐกิจภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การจัดกิจกรรมต่างๆ ของ TCDC จะมุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยซึ่งถือเป็นหนึ่งกลไกหลักในแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้มีโอกาส ในการพัฒนาศักยภาพและยกระดับธุรกิจ เพื่อให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
และเพื่อเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs มีศักยภาพและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ล่าสุด TCDC ได้ร่วมมือกับธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ลงนามบันทึกข้อตกลงจัดตั้ง “โครงการ ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตามแนวเศรษฐกิจสร้างสรรค์” โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถและมีความพร้อมเพื่อรองรับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาล ผ่านการจัดกิจกรรมฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้และวิธีคิด เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และบริการในด้านต่างๆ รวมทั้งการขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนการประกอบการ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและชักจูงผู้ประกอบการธุรกิจสร้างสรรค์จากฐานข้อมูลของ SME Bank ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ให้ได้เข้าร่วมฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจ และสร้างความพร้อมเสริมความเข้มแข็งต่อการขอสินเชื่อ เพื่อนำไปผลิตสินค้าและบริการที่เป็นที่ยอมรับและสามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ จะมีการจัดกิจกรรมสัมมนาและการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ 2 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย โครงการติดอาวุธทางปัญญา SMEs ในเวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อสร้างองค์ความรู้และวิธีคิดการทำธุรกิจในระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์แก่นักธุรกิจ เจ้าของกิจการ และเจ้าหน้าที่ระดับบริหารขององค์กรและสถานประกอบการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผ่านรูปแบบการสัมมนาวิชาการจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านความคิดสร้างสรรค์ เมืองสร้างสรรค์ และการตลาดยุคใหม่ โดยจะทำการคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจากฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้าของ SME Bank จำนวน 100 ราย/รุ่น ซึ่งจะจำแนกตามประเภทสินค้า ความสามารถในการผลิต จำนวนแรงงาน แหล่งเงินทุนและปัจจัย การผลิต ตลาดจำหน่ายและตลาดส่งออก โดยสินค้าและบริการจะต้องอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 15 สาขา แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ (งานฝีมือ, การท่องเที่ยว, อาหาร และการแพทย์แผนไทย) กลุ่มศิลปะ (ศิลปกรรมและทัศนศิลป์) กลุ่มสื่อ (ภาพยนตร์, สิ่งพิมพ์, เพลง, การเผยแพร่ภาพและกระจายเสียง) และกลุ่มงานสร้างสรรค์ตามหน้าที่ (การออกแบบ, แฟชั่น, สถาปัตยกรรม, โฆษณา และซอฟท์แวร์) ซึ่งโครงการดังกล่าวจะจัดฝึกอบรมทั้งสิ้น 3 รุ่น ระยะเวลาในการฝึกอบรมรุ่นละ 1 เดือน เปิดอบรมรุ่นที่ 1 เดือนธันวาคม 2553 รุ่นที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2554 และรุ่นที่ 3 เดือนพฤษภาคม 2554
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้โครงการ “ก้าวเดินสู่วันใหม่บนถนนธุรกิจสร้างสรรค์” กับการเปิดตัว 4 ขุนพลทีมที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากหลากแวดวงที่จะเป็นเสมือนพี่เลี้ยงให้กับผู้ประกอบการตลอดโครงการ ประกอบด้วย คุณภัทรพล จันทร์คำ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และ การออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในฐานะนักออกแบบที่มีความชำนาญด้านการออกแบบอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ คุณธีระ ฉันทสวัสดิ์ ดีไซเนอร์มากพรสวรรค์เจ้าของแบรนด์ T-RA ในฐานะกูรู ด้านการออกแบบแฟชั่นระดับแนวหน้าของไทย คุณขวัญหทัย ตัณฑ์เกยูร ผู้จัดการร้านค้า The Shop@TCDC และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ประจำศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ในฐานะนักพัฒนาต่อยอดผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าของที่ระลึกของฝาก และผศ. ดร.อรณิศ ปันยารชุน อาจารย์ประจำภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่จะมาร่วมเติมเต็มความพร้อมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการก่อนเข้าสู่กระบวนการขอสินเชื่อ “smePOWER เพื่อวันใหม่” ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท/ราย โดยทาง SME Bank จะทำหน้าที่คัดเลือกผู้ประกอบการจำนวน 100 ราย เข้าร่วมกิจกรรม Workshop กับ TCDC เพื่อต่อยอดและถ่ายทอดไอเดียสร้างสรรค์สู่การสร้างสินค้าที่โดดเด่นและขายได้จริงในตลาด โดยมีระยะเวลาการฝึกอบรมทั้งสิ้น 2 เดือน ระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2554 ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบหรือเอกสารต้นแบบการผลิตเพื่อธุรกิจจำนวน 1 ชิ้น เสนอต่อที่ปรึกษาโครงการก่อนวันสิ้นสุดโครงการ และผู้ประกอบการที่ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะได้รับโอกาสในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลปล่อยแสง และได้นำผลิตภัณฑ์มาวางจำหน่าย ณ The Shop@TCDC รวมไปถึงโอกาสในการนำเสนอสินค้าต่อเครือ The Mall Group อีกด้วย
ด้านนายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) กล่าวว่า การจัดตั้งโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการนำร่องที่สอดคล้องกับพันธกิจในการเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาและให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเข้าเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามนโยบายของรัฐบาลให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญที่ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ของธนาคารจะได้รับรูปแบบการบริการและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างจากธนาคารอื่นๆ ทั้งในแง่ของการได้รับโอกาส ในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมและกิจกรรม Workshop เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสทางธุรกิจและเสริมศักยภาพในการแข่งขัน รวมไปถึงการได้รับโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุน การประกอบการ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพความพร้อมสามารถก้าวเข้าสู่แหล่งเงินทุน ของธนาคารได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นหนทางสู่การดำเนินธุรกิจสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการไทยที่ยั่งยืนและมั่นคง ได้ในอนาคต