กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และ NGV 4 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ข่าวทั่วไป Friday May 18, 2007 13:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--กระทรวงพลังงาน
กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และ NGV 4 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากผลการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ของกระทรวงพลังงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินในเดือนเมษายนลดลง เนื่องจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ส่งผลให้การนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% และผลจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้มูลค่านำเข้าน้ำมันลดลงกว่า 30,000 ล้านบาท
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่าการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์และ NGVในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2550 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน มีการขยายตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ มียอดการใช้เพิ่มขึ้นจากวันละ 3.5 ล้านลิตร เป็นวันละ 3.7 และขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยเฉพาะเดือนเมษายน 2550 มียอดการใช้สูงสุดแตะที่ระดับ 4.0 ล้านลิตร เนื่องจากความสำเร็จของการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพของแก๊สโซฮอล์ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ อ.พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ได้ทดสอบการใช้งานจริงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์กับรถยนต์แล้วผลไม่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทน้ำมันได้ออกมารับประกันหากเกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ และกระทรวงฯ ได้สนับสนุนการล้างถังเก็บน้ำมันให้กับปั๊มอิสระที่จำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังใช้กลไกด้านราคาโดยเพิ่มส่วนต่างกับราคาเบนซินออกเทน 95 จาก 1.50 บาทต่อลิตร เป็น 2.50 บาทต่อลิตร สำหรับในเดือนพฤษภาคมมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินอีก 2 ครั้ง รวม 0.80 บาท แต่ได้ตรึงราคาแก๊สโซฮอล์ไม่ปรับเพิ่มขึ้นตามน้ำมันเบนซิน ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาเอทานอลต่ำกว่าน้ำมันเบนซิน ทำให้ในปัจจุบันมีส่วนต่างราคาอยู่ที่ 3.30 บาท และการใช้ NGV เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 100% จากวันละ 8.5 ล้านลูกบาศก์ฟุต เป็นวันละ 16.8 ล้านลูกบาศก์ฟุต เนื่องจากมีจำนวนรถยนต์ที่หันมาติดตั้ง NGV เพิ่มมากขึ้นเป็น 32,000 คัน และการขยายตัวของสถานีบริการ NGV ที่เพิ่มเป็น 120 แห่ง สำหรับ LPG มีการขยายตัวของการใช้มากขึ้น โดยภาครถยนต์มีอัตราเติบโต 39.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากวันละ 1.1 ล้านกิโลกรัม เป็นวันละ 1.5 ล้านกิโลกรัม
สำหรับภาวะการใช้น้ำมันโดยรวมใน 4 เดือนแรก ปี 2550 ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น ยอดการใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.8% จากวันละ 53.6 ล้านลิตร เป็นวันละ 54 ล้านลิตร และปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินรวม (ออกเทน 95 ออกเทน 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์) เพิ่มขึ้น 2.1% เพิ่มขึ้น จากวันละ 19.8 ล้านลิตร เป็นวันละ 20.3 ล้านลิตร อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินในเดือนเมษายน 2550 เริ่มลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน น้ำมันดีเซล จากวันละ 55.3 ล้านลิตร เหลือเพียงวันละ 54.1 ล้านลิตร และน้ำมันเบนซิน จากวันละ 20.5 ล้านลิตร เหลือวันละ 20.4 ล้านลิตร โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ยอดการใช้ 4 เดือนแรกเฉลี่ยลดลงถึงร้อยละ 20.4 จากวันละ 4.6 ล้านลิตร เหลือวันละ 3.6 ล้านลิตร ส่วนหนึ่งเกิดจากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทน ได้แก่ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (NGV) และ LPG มากขึ้น
ด้านการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากวันละ 821,000 บาร์เรล เป็นวันละ 825,000 บาร์เรล เนื่องจากการชะลอตัวของการขยายตัวของการใช้น้ำมัน ในด้านมูลค่าการนำเข้าลดลง 12.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน จาก 240,382 ล้านบาท เหลือ 210,372 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทแข็งขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก 39.10 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็น 35.53 บาทต่อเหรียญสหรัฐ สำหรับการส่งออกน้ำมันสามารถสร้างรายได้กลับคืนให้ประเทศคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 45,193 ล้านบาท จากการส่งออกน้ำมันดิบ 13,347 ล้านบาท และน้ำมันสำเร็จรูป 31,846 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ