กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม(สปส.) แจ้งยอดการจัดเก็บเงินสมทบและการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานภายหลังการสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างตั้งแต่เดือนม.ค.—มี.ค. 2550 พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกันตนที่ได้งานทำแล้ว แจ้งข้อมูลแก่สำนักงานจัดหางานทันที
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงยอดการจัดเก็บเงินสมทบและการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ช่วง 3 เดือนแรก ของปี 2550 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม — มีนาคม 2550 สปส.จัดเก็บเงินสมทบจาก นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล เป็นเงินจำนวน 2,322.12 ล้านบาท จ่ายประโยชน์ทดแทนให้แก่ผู้ประกันตนจำนวน 40,660 คน โดยแบ่งเป็น ถูกเลิกจ้าง 15,507 คน สมัครใจลาออก 24,148 คน และสิ้นสุดสัญญาจ้าง 1,005 คน สปส. จ่ายประโยชน์ทดแทนแก่ผู้ประกันตนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 378.46 ล้านบาท
สำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ณ เดือนธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา ผู้ว่างงานที่มารับประโยชน์ทดแทนมีจำนวน 39,902 คน หรือคิดเป็นอัตราการใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือนร้อยละ 0.45 ของผู้ประกันตนที่มีสิทธิใช้บริการ อัตราการใช้บริการดังกล่าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2548 (ร้อยละ 0.34) ในจำนวนนี้เป็นผู้ว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง 14,767 คน สมัครใจลาออกจำนวน 22,427 คน และสิ้นสุดสัญญาจ้างจำนวน 2,708 คน อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานค่อนข้างผันแปรได้ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับความคุ้มครองในกรณีว่างงานนั้น จะต้องเป็นผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน เมื่อผู้ประกันตนว่างงานไม่ว่าจะเป็นการลาออก สิ้นสุดสัญญาจ้างหรือถูกเลิกจ้าง ควรรีบไปขึ้นทะเบียนหางานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ เพื่อขอรับเงินทดแทนตามสิทธิที่ผู้ประกันตนพึงจะได้รับจากสำนักงานประกันสังคมภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พ้นจากการเป็นลูกจ้างเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานล่าช้าเกินกว่า 30 วัน เงินทดแทนที่จะได้รับจะลดส่วนลงตามวันเวลาที่มายื่นขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน โดยในกรณีที่ว่างงานเพราะถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ส่วนกรณีที่ลาออกโดยสมัครใจหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง จะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง
อย่างไรก็ตาม ทางสปส.จึงอยากขอความร่วมมือไปยังผู้ประกันตนที่ได้งานทำงานแล้ว ให้แจ้งข้อมูลแก่สำนักงานจัดหางานทราบโดยทันที เพื่อทางสปส.จะได้จ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานได้อย่างถูกต้องตามสิทธิ ซึ่งหากทางสปส.ตรวจสอบพบว่าผู้ใดมีเจตนาไม่แจ้งข้อมูลดังกล่าว เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์เกินกว่าสิทธิที่ควรจะได้รับ จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 / www.sso.go.th