กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่น
“ไอเอ็นจี” เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เปิดตัว “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ยูโร ไฮดิวิเดนด์” เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นที่มีอัตราปันผลสูง ในตลาดหุ้นประเทศสมาชิกสหภาพการเงินยุโรป หวังตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น เผยกองทุนต้นทางสร้างผลตอบแทนเยี่ยมเฉลี่ย 3 ปี 21.29 % เตรียมเปิดขายครั้งแรก 22-29 มี.ค.นี้
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไอเอ็นจีฯ เตรียมเปิดขายกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศหรือ FIF กองใหม่ ภายใต้ชื่อว่า “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ยูโร ไฮดิวิเดนด์” โดยมีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 22- 29 มีนาคม 2550 ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในลักษณะ Feeder Fund กล่าวคือ จะลงทุนในกองทุน ING (L) Invest Euro High Dividend Fund ซึ่งจดทะเบียนในประเทศลักซัมเบิร์ก และบริหารจัดการโดย ING Investment Management สำนักงานใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
สำหรับนโยบายลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ยูโร ไฮดิวิเดนท์ จะลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพการเงินยุโรป (European Monetary Union : EMU) โดยเน้นหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีสภาพคล่องและมีการจ่ายปันผลสูงโดยผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่กลั่นกองกรองบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพการเงินยุโรป จากจำนวนกว่า 2,000 บริษัท ด้วยกระบวนการวิเคราะห์ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะพิจารณาลงทุนในหุ้นที่มีการคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield Threshold) อย่างน้อย 2.5% ขึ้นไป และจะลงทุนโดยให้น้ำหนักในหุ้นแต่ละตัวใกล้เคียงกัน ซึ่งสุดท้ายแล้วจะเหลือหุ้นที่เข้าข่ายลงทุนประมาณ 50-70 บริษัทเท่านั้น โดยจะมีการปรับน้ำหนักการลงทุนทุก ๆ ไตรมาส เพื่อให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นของแต่ละบริษัทกลับมาอยู่ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันโดยตลอด (Value & Quantitative Approach)
“การที่ บลจ.ไอเอ็นจี เน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลในระดับสูง ก็เพราะเราเห็นว่า การที่บริษัทใดสามารถจ่ายปันผลได้ในระดับที่สูงและเป็นไปอย่างสม่ำเสมอนั้น จะสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไร และมีเงินสดอย่างเพียงพอ รวมทั้งมีแผนการใช้จ่ายลงทุนในอนาคตที่ชัดเจน ซึ่งแสดงถึงความมั่นคงขององค์กร และความสม่ำเสมอในการสร้างรายได้ของบริษัทภายใต้สถานการณ์ที่ผันผวนของกระแสเศรษฐกิจ” กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี กล่าว
ขณะที่จุดเด่นของกองทุน ING (L) Invest Euro High Dividend Fund ซึ่งเป็นกองทุนต้นทางนั้น อยู่ที่การมีสภาพคล่องสูง เนื่องจากมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 9.2 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมีการบริหารการลงทุนโดยทีมงานผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐานและเชิงประมาณทั่วโลกกว่า 51 คน โดยผลตอบแทนย้อนหลังในรูปสกุลเงินยูโรในปี 2549 เท่ากับ 21.36% ในปี 2548 เท่ากับ 19.55%และในปี 2547เท่ากับ 22.98% เฉลี่ย 3 ปี มีผลตอบแทน 21.29 %
กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ บลจ.ไอเอ็นจีฯ จะได้นำเงินลงทุนจากประเทศไทยไปแสวงหาผลประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรป ผ่านกองทุนต้นทางที่มีผลการดำเนินงานดีและมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนพอใจภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้
สำหรับกองทุนดังกล่าวสามารถเปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการและขายคืนได้เดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งนักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. (02) 688-7777 ต่อ 7782-7789 หรือ www.ingfunds.co.th
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: กฤติยาพร พลตรี
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทร. 02-643-1191 ,02-248-7967-8 มือถือ 08-9636-8414
E-mail address : c_mastermind@yahoo.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net