กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--สปส.
จากการที่มีการนำเสนอข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกามีมติว่าสำนักงานประกันสังคม ไม่สามารถนำงบประมาณที่กฎหมายระบุให้นำเงินสมทบกองทุนประกันสังคมร้อยละ 10 ในการบริหารงานไปใช้เพื่อติดตั้งระบบงานเทคโนโลยีและสารสนเทศแรงงงานมูลค่า 2,800 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการใช้เงินผิดประเภท
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้สปส.ยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าการใช้เงินสมทบกองทุนประกันสังคม ร้อยละ 10 ในโครงการดังกล่าวฯ เป็นการใช้เงินผิดประเภท แต่อย่างใด
ทั้งนี้ สปส.ขอยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องตามพรบ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 เพื่อบริการข้อมูลที่ถูกต้อง ทันการณ์ เป็นปัจจุบัน และจ่ายประโยชน์ทดแทนแก่ นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อันส่งผลถึงความมีเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคม ซึ่งการจะดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้นสปส.ต้องดำเนินการโครงการนี้ร่วมกับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงแรงงาน เช่น การให้บริการแบบ One Stop Service และ e-Service เป็นการบูรณาการการให้บริการ ทำให้นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สามารถเข้ารับบริการประกันสังคมจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้ทุกแห่ง ด้วยความรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านการเดินทาง
ในส่วนของกรมในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ กรมการจัดหางานจะได้ใช้ระบบสารสนเทศที่ทันสมัยให้บริการหางานแก่ผู้ที่เริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน จัดหางานสำหรับผู้หางานใหม่และผู้ถูกเลิกจ้างว่างงานกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดหลักสูตรเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน ตามความต้องการของตลาดแรงงาน ผู้ประกันตนที่ออกจากงานสามารถสมัครเข้ารับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานได้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานก็จะมีระบบข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันดูแลความปลอดภัยในการทำงาน หรือเมื่อมีข้อพิพาทแรงงานสามารถสร้างความเข้าใจและมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ทำให้มีงานทำ มีรายได้สม่ำเสมอ สร้างผลผลิตให้แก่นายจ้าง สถานประกอบการและสามารถนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากการดำเนินงานของหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น เป็นการเสริมซึ่งกันและกันเป็นประโยชน์ต่อ นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เป็นสำคัญ
นอกจากนั้น การดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นการเช่าใช้บริการเพื่อพัฒนาพัฒนาระบบการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแรงงาน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการประกันสังคม ทั้งนี้การเช่าใช้บริการดังกล่าวนั้น มิได้มีการโอนทรัพย์สินในโครงการให้กับหน่วยงานอื่นใดทั้งสิ้น เมื่อสิ้นสุดสัญญา ทรัพย์สินในโครงการที่คู่สัญญาตกลงว่าจะมอบให้จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ ของสำนักงานประกันสังคมแต่ผู้เดียว
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 / www.sso.go.th