บีโอไอตั้งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนดึงผู้บริหารบริดจสโตนย้ำภาพลักษณ์ส่งเสริมการลงทุนในไทย

ข่าวทั่วไป Monday November 1, 2010 15:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--บีโอไอ ชัยวุฒิ ตั้งผู้บริหาร บริดจสโตน เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน หวังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะแหล่งรองรับการลงทุนที่มีศักยภาพ และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติต่อภาพรวมลงทุนในประเทศไทย นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลัง นำนายโซชิ อารากาวา ประธานคณะกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า รัฐบาลได้แต่งตั้งให้นายโซชิ อารากาวา ประธานคณะกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (Honorary Investment Advisor - HIA) ของบีโอไอ เพื่อเสริมสร้างยุทธศาสตร์การชักจูงการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นให้เข้มแข็ง และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งรองรับการลงทุน รวมทั้งให้ความเห็นและคำแนะนำเรื่องยุทธศาสตร์การชักจูงการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจระหว่างประเทศและการลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยตั้งแต่ต้นปี 2553 เป็นต้นมา บีโอไอได้แต่งตั้ง ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนไปแล้ว ได้แก่ นายดักลาส เจ ดีฮาน รองประธานอาวุโส บริษัทซีเกท เทคโนโลยี จากสหรัฐอเมริกา นายโรเจอร์ คูเปอร์ รองประธานอาวุโสของบริษัท ฟิชเชอร์ แอนด์ พายเคิล แอพพลายแอนเซส จำกัด (Fisher & Paykel Appliances Ltd.) นายโจเซฟ อาร์ ไฮนริกส์ รองประธานบริหารของฟอร์ด นายพอล โอ มายส์ ผู้บริหารระดับสูงบริษัท บลูสโคฟ และนายชิเกโน นางาโมริ ประธานบริษัทนิเด็ค สำหรับ บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ผลิตยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และยางรถบรรทุกขนาดกลาง หรือรถปิกอัพขนาด 1 ตัน รวมทั้งรถตู้ ที่ผ่านมาได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ในประเทศไทย ในชื่อบริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ตั้งโรงงานแห่งแรกที่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และเมื่อเดือนกันยายน 2553 ที่ผ่านมา บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ได้ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตยางรถยนต์ในประเทศไทย โดยจะขยายกำลังการผลิตที่โรงงานหนองแค จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ใช้เงินลงทุนราว 21,300 ล้านเยน หรือ 7,900ล้านบาท ขยายการผลิตยางเรเดียล สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและยางรถบรรทุกขนาดกลาง (ปิคอัพ) และรถตู้เพิ่มขึ้นวันละ 13,500 เส้น ซึ่งจะส่งผลให้โรงงานหนองแค มีกำลังการผลิตรวมวันละ 50,000 เส้นภายในปลายปี 2557 สำหรับการตัดสินใจขยายกำลังการผลิตเพิ่มครั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เนื่องจากคาดการณ์ว่าความต้องการยางรถยนต์ของตลาดโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ