กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--
สพร. เปิดตัวนิทรรศการ “เครื่องราง ของขลัง” นำเสนอศาสตร์อันลี้ลับที่ฝังรากในวัฒนธรรมไทยในมุมมองวิชาการ พร้อมจัดแสดงเครื่องรางของขลังนานาชนิดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และสุดยอดวัตถุมงคลอันทรงคุณค่าของเมืองไทย “พระเครื่องชุดเบญจภาคี”
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) ขยายผลองค์ความรู้สู่สาธารณชน หลังประสบความสำเร็จจากเวทีสัมมนาวิชาการ “เครื่องรางของขลัง วัฒนธรรมชาวพุทธในสุวรรณภูมิ” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เปิดตัวนิทรรศการใหม่ล่าสุด “เครื่องรางของขลัง” เพื่อนำเสนอตำนาน เรื่องราว และความเป็นมาของเครื่องรางของขลังในมิติวิชาการ ที่จะเผยให้เห็นรูปแบบของความเชื่อในวัฒนธรรมไทยที่เกิดจากการผสมผสานความเชื่อดั้งเดิม และความเชื่อทางพุทธศาสนา
นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) เปิดเผยว่า “นิทรรศการเครื่องรางของขลัง” จัดขึ้นเพื่อนำเสนอเรื่องราวของระบบความเชื่อท้องถิ่นของกลุ่มคนในสุวรรณภูมิรวมถึงคนไทย ที่เกิดจากการหลอมรวมกับความเชื่อทางศาสนาฝังแน่นอยู่ในระบบความเชื่อของคนไทย และแสดงออกมาในรูปแบบของเครื่องรางของขลังชนิดต่างๆ เกิดเป็นวัตถุมงคลที่มีคุณค่ายึดเหนี่ยวทางจิตใจและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล
“ความเชื่อเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ในในมุมมองทางวิชาการกลับพบว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับหลักธรรมทางศาสนา ซึ่งถูกมองข้ามหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจและควรนำมาขยายผลโดยจัดแสดงในรูปแบบของนิทรรศการ เพื่อให้เห็นทั้งรูปแบบและเนื้อแท้ของระบบความเชื่อดังกล่าวอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมตลอดจนลัทธิศาสนาความเชื่อในสุวรรณภูมิต่อไป” นายราเมศกล่าว
อาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ ราชบัณฑิต กล่าวว่าเครื่องรางของขลังเป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของคนสมัยโบราณ เป็นกุศโลบายให้คนมุ่งเข้าหาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
“น่าเสียดายว่าคนในยุคสมัยนี้กลับไม่สนใจที่จะค้นหาและสืบทอดแก่นที่แท้จริงของความรู้เหล่านี้ แต่หันไปมุ่งเน้นในเรื่องผลที่จะได้รับหรือผลด้านไสยศาสตร์ และผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ทั้งผู้ที่จัดสร้างและผู้ที่นำไปบูชา ทำให้ภูมิปัญญาที่เชื่อมโยงกับหลักคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนาที่มีคุณค่ากลายเป็นความเชื่อที่งมงายไร้สาระ” อ.จุลทัศน์ระบุ
นิทรรศการเครื่องรางของขลัง จะเปิดมุมมองใหม่ของศาสตร์อันลี้ลับในมิติวิชาการผ่านเรื่องราวในหัวข้อต่างๆ อาทิ ทำไมมนุษย์ต้องสร้างเครื่องราง, ไสยศาสตร์, ของขลังของผี, พรจากเทพ, เปลือกหุ้มแก่น, ไม่เชื่ออย่าลบหลู่...แต่ต้องให้รู้ด้วยปัญญา, ของขลัง...ของ(ราคา)สูง, จากเพราะความกลัวต่อสิ่งเร้นลับ...เป็น...เพราะอยากได้ กลัวไม่มี ฯลฯ
โดยนิทรรศการจะเผยให้เห็นถึงแก่นของความคิดต่อสิ่งต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจจากความหวาดกลัวในสิ่งลึกลับที่มองไม่เห็น และพัฒนาต่อเนื่องมาอย่างแนบแน่นกับความเชื่อระหว่าง พุทธ-พราหมณ์-ผี อย่างแยกไม่ออก ซึ่งรูปแบบความเชื่อเหล่านี้ได้แปรสภาพมาเป็นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังที่มีคุณค่าและมูลทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลในปัจจุบัน
นอกจากองค์ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อในสิ่งเร้นลับในแง่มุมวิชาการแล้ว ภายในงานยังจัดให้มีการจัดแสดงเครื่องรางของขลังนานาชนิดที่เกิดจากความศรัทธาและความเชื่อของชาวสุวรรณภูมิและคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่ความเชื่อเรื่องภูตผี ปีศาจ เทพเจ้า
รวมไปถึงวัตถุมงคลอันทรงคุณค่าที่มีประวัติศาสตร์ และเรื่องราวเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา อาทิ ผ้ายันต์, ผ้าประเจียด, ตะกรุดฯลฯ ที่หาชมได้ยาก และพระเครื่องต่างๆ โดยเฉพาะสุดยอดวัตถุมงคลล้ำค่าของคนไทย “พระเครื่องชุดเบญจภาคี” ที่มีมูลค่านับร้อยล้านบาทก็สามารถชมได้ภายในงาน
“นิทรรศการเครื่องรางของขลัง” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ห้องจัดนิทรรศการชั่วคราว และห้องพิพิธเพลิน 1 สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ท่าเตียน กรุงเทพฯ เข้าชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) 02-225-2777 ต่อ 413, 414