กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับองค์การอนามัยโลก(WHO) และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข (TUC) สร้างเครือข่ายระบบการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) โดยบูรณาการงานห้องปฏิบัติการกับงานระบาดวิทยา ช่วยให้การสอบสวนและควบคุมโรค รวมทั้งสามารถหยุดยั้งการระบาดได้อย่างทันท่วงที
นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริม สนับสนับสนุนการพัฒนาห้องปฏิบัติการชันสูตรสาธารณสุขของโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลทั่วไปในสังกัดทั่วประเทศ รวมทั้งห้องปฏิบัติการภาคเอกชนให้สามารถตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการเปิดให้บริการตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลสุรินทร์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และบริษัท กรุงเทพ อาร์ไอเอแล็บ จำกัด
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข และสำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นเจ้าภาพหลักสนับสนุนองค์ความรู้ เทคนิควิชาการ การตรวจเยี่ยมและให้คำปรึกษา เพื่อการเตรียม ความพร้อมในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ การจัดส่งตัวอย่างเพื่อประเมินคุณภาพการตรวจวิเคราะห์การทดสอบความชำนาญ การจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทางห้องปฏิบัติการ และการตรวจประเมินห้องปฏิบัติการ เพื่อการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการที่มีการดำเนินการสอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติงานทางห้องปฏิบัติการชันสูตรสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้ร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก(WHO) และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข (TUC) จัดทำโครงการพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ในการต่อสู้กับโรคไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อติดตามฤดูการระบาดและการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของเชื้อ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 โดยมีเครือข่ายโรงพยาบาลกระจายอยู่ทั่วประเทศ ดำเนินการคัดเลือกและเก็บตัวอย่างผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เพื่อศึกษาติดตามการแพร่ระบาดและการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ ทำให้ได้ข้อมูลอุบัติการณ์ของตัวเชื้อตามฤดูกาลและการกระจายของตัวเชื้อตามลักษณะภูมิอากาศของแต่ละภาคการดื้อยาที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุม ป้องกันโรค รวมทั้งการบริหารวัคซีนของประเทศให้เหมาะสมกับคนไทย
ในการจัดประชุมเชิงวิชาการดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 140 คน จากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โรงพยาบาลเครือข่ายและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการบูรณาการ การเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการระบาดวิทยาของโรคไขเหวัดใหญ่ การสร้างระบบเตือนภัยไข้หวัดใหญ่ และมีการประเมินโครงการประเด็นของแนวทางการดำเนินงาน วิธีการเก็บและส่งตัวอย่าง การเก็บรวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยา การวิเคราะห์แปลผลและเผยแพร่ข้อมูล เพื่อเฝ้าระวังและตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขกรณีไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ รวมทั้งการถอดบทเรียนการดำเนินงานโครงการที่ผ่านมาเพื่อการพัฒนาระบบเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ได้ทันต่อสถานการณ์ การระบาดของเชื้อในแต่ละฤดูกาล นอกจากนี้ยังได้จัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตรแก่ห้องปฏิบัติการที่ผ่านการประเมินความสามารถห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ กลุ่มแรก จำน
วน 5 แห่ง ได้แก่ ห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และบริษัท กรุงเทพ อาร์ไอเอแล็บ จำกัด โดยห้องปฏิบัติการทุกแห่งมีผลการประเมินคุณภาพการตรวจวิเคราะห์เป็นที่ยอมรับ สอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติงานตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทางห้องปฏิบัติการชันสูตรสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 025890022 ต่อ 99016 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์