กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ
จากความสำเร็จของโครงการส่งเสริมการขายทับทิมปี 2002 ของไทย หรือ โครงการ Ruby Year 2002 ที่ได้รับความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ในการส่งเสริมการค้าพลอยสี โดยเฉพาะทับทิม ที่มีการรับประกันคุณภาพจากประเทศไทย และญี่ปุ่นในการส่งเสริมการค้าพลอยสี โดยเฉพาะทับทิม ที่มีการรับประกันคุณภาพจากประเทศไทย โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณี และเครื่องประดับรับรองพลอยดังกล่าว ทำให้มูลค่าการส่งออกของทับทิมในปีนั้นสูงขึ้นถึง 60% และทำให้ทับทิมมีราคาสูงขึ้นถึง 10-20% ในปีนั้น
มาในปีนี้ ปี 2005 ซึ่งถือเป็นปีทองอีกปีหนึ่งของประเทศไทย ที่ได้รับเลือกจากผู้ประกอบการด้านอัญมณีและเครื่องประดับจากทั้งไทยและญี่ปุ่นให้เป็นปีที่ส่งเสริมการขายทับทิมอีกครั้งหนึ่ง โดยความร่วมมือของสองชมรมสำคัญ คือ Thai Color Stone Promotion Club: TCP หรือ ชมรมส่งเสริมการค้าพลอยสีไทย โดยมีนายชวลิต ซาลวาลา เป็นประธานชมรม ซึ่งมีสมาชิกตัวแทนของพ่อค้าพลอยสีไทย 17 บริษัท ได้ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการส่งเสริมการค้าพลอยประเทศญี่ปุ่น Japan Color Stone Promotion Club: JCP โดยมี มร.ฟูจิโอะ ทากาดะ ประธานสภาผู้แทนสมาชิกพ่อค้าพลอยสีญี่ปุ่น 35 บริษัท ร่วมหารือเพื่อสร้างปรากฏการณ์ทางการค้าพลอยสีระหว่างประเทศให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยได้กำหนดพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการค้าอัญมณีระหว่างประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นขึ้นในวันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2548 เวลา 14.00 น. ณ ห้องฟินิกส์ 5-6 ฮอลล์ 7 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี
โดยความร่วมมือนี้ จะยังผลให้การค้าพลอยสี โดยเฉพาะทับทิมของไทยที่เข้าร่วมในโครงการ สามารถขายในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดปกติมาก เนื่องด้วยเอกลักษณ์ที่เด่นของการคัดเลือกทับทิมเข้าโครงการที่ต้องเน้นคุณภาพและการรับประกันจากสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี และเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์กรมหาชน) ที่จะต้องมีใบรับรองคุณภาพ อีกทั้งยังต้องมีการแกะสลักเลเซอร์ตราสัญลักษณ์ของ JCP ลงบนขอบพลอยทุกเม็ด และบรรจุปิดผนึกในซองที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา
นายชวลิต ซาลวาลา ประธานชมรมฯ เปิดเผยว่า "การตกลงและลงนามความร่วมมือ ในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมพลอยสีไทยให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากซบเซาเพราะพิษเศรษฐกิจมานาน และเราหวังว่า ในการเปิดการค้าร่วมระหว่างสองประเทศในครั้งนี้จะนำพาอุตสาหกรรมพลอยสีไทยให้สามารถรุกเข้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพพลอยสีไทยให้มากขึ้น รวมถึงเป็นการขยายช่องทางการค้าร่วมที่คาดว่า จะสามารถดันยอดการส่งออกทับทิมเจียระไนจากไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพพลอยสีไทยให้มากขึ้น รวมถึงเป็นการขยายช่องทางการค้าร่วมที่คาดว่า จะสามารถดันยอดการส่งออกทับทิมเจียระไนจากไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 300 ล้านบาท และในช่วงแรกที่มีความร่วมมือกันนี้ มียอดสั่งสั่งซื้อเข้ามาแล้วประมาณ 9 แสนเหรียญ"
เป็นที่น่ายินดีที่โครงการส่งเสริมการค้าอัญมณีไทย-ญี่ปุ่น ในครั้งนี้ได้แสดงออกถึงความตั้งใจจริงของผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย ที่มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการพัฒนาการค้าอัญมณีของสองประเทศให้เกิดความยั่งยืนและสามารถก่อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์และพัฒนาการค้าในลักษณะเดียวกันนี้ในกลุ่มประเทศอื่น ๆ ในอนาคตได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
โทร. 02-2185470-4 ต่อ 23--จบ--