ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 2, 2010 12:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,050 - 19,150 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,353 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.86 — 29.90 - GFZ10 Hi- Low 19,390 — 19,300 ปิดที่ 19,380 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 7.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,350.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,349.10-1,366.40 ดอลลาร์ เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและ เยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐช่วยหนุนสัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมดีดตัวขึ้น เนื่องจากพลาตินัมเป็นโลหะสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดบวก 6.13 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 11,124.62 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.12 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 1,184.38 จุด เพราะได้แรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวแข็งแกร่งของสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การสหรัฐจะจัดการเลือกตั้งสมาชิก สภาคองเกรสช่วงกลางสมัยในวันที่ 2 พ.ย. และก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 2-3 พ.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าทั้งสองเหตุการณ์จะมีอิทธิพลต่อภาวะการซื้อขายใน การตลาดการเงินสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 83.20- 82.95 ดอลลาร์ เนื่องจากดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนทำให้นักลงทุนคาดว่า ความต้องการพลังงานของทั้งสองประเทศจะดีดตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ทางการสหรัฐจะ เปิดเผยในวันพุธนี้ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 2 พ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,293.10 ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งแม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นไปอย่างล่าช้าก็ตาม ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนมีท่าทีเตรียมพร้อมรับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐ และผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3892 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.580 เยน จากระดับของวันศุกร์ (29 ต.ค.) ที่ 80.390 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 80.66 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 29.85-29.88 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.86-29.90 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัว 0.5% แตะระดับ 8.017 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับระดับ 7.975 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม เพราะได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการก่อสร้างหน่วยงานราชการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ข้อมูลของกระทรวงระบุว่า ยอดการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในช่วงดังกล่าวมีมูลค่าทั้งสิ้น 4.82 แสนล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับการคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม และยอดการใช้จ่ายในการก่อสร้างหน่วยงานของภาครัฐมีมูลค่าทั้งสิ้น 3.197 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน ส่วนยอดการใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับยอดค่าใช้จ่ายในเดือนสิงหาคม และต่ำกว่าตัวเลขของปีที่แล้ว 21.3% - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 56.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.0 จุด หลังจากขยายตัว 54.4 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัว - นักลงทุนมีท่าทีเตรียมพร้อมรับผลการเลือกตั้งช่วงกลางสมัยของสมาชิกสภาคองเกรสในวันที่ 2 พ.ย. และการประชุมนโยบายของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย. โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า เฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น - รายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิด เผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.2% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 0.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ารายได้ส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง 1 - 2 พ.ย. 2553 วันจันทร์ ? Core PCE Price Index 0.1% 0.1% 0.0% ? Personal Spending 0.4% 0.4% 0.2% ? Personal Income 0.5% 0.3% -0.1% ? ISM Manufacturing PMI 54.4 54.2 56.9 วันอังคาร ? Congressional Elections - -

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ