มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ สานต่อโครงการศิลปินดาวเด่นบัวหลวง 101 ปี 3 เปิดเวทีเรียลลิตี้วาดภาพสด นำเสนอมุมมองด้านศิลปะของคนรุ่นใหม่

ข่าวทั่วไป Tuesday November 2, 2010 14:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--Public Hit มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ สานต่อโครงการศิลปินดาวเด่นบัวหลวง 101 ปี 3 เปิดเวทีเรียลลิตี้วาดภาพสด นำเสนอมุมมองด้านศิลปะของคนรุ่นใหม่ ชมถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ พร้อมโหวตผลงานโดนใจตั้งแต่ 8 - 17 พ.ย. 2553 มูลนิธิธนาคารกรุงเทพและหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ จับมือสานต่อโครงการ “ศิลปินดาวเด่นบัวหลวง 101” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลังจากประสบความสำเร็จในการนำตัวแทนนักศึกษาสาขาศิลปะจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศมาอยู่รวมกัน และแข่งขันวาดภาพสดๆ ในรูปแบบเรียลลิตี้โชว์เป็นครั้งแรกของไทย โดยในปีนี้มีนักศึกษาสาขาศิลปะได้ผ่านการคัดเลือกจากสถาบันฯ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในโครงการฯ เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ ได้จัดให้มีการแถลงข่าวโครงการศิลปิน ดาวเด่นบัวหลวง 101 ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553 ขึ้น เพื่อแจ้งรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับงานดังกล่าว เมื่อวันก่อน ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เวทีประกวดผลงานศิลปะแนวทางใหม่นี้ เป็นการนำตัวแทนนักศึกษาสาขาศิลปะจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศมาอยู่รวมกันเป็นเวลา 10 วัน เพื่อแข่งขันวาดภาพสดๆ ในรูปแบบเรียลลิตี้โชว์ ภายในหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ โดยระหว่างการประกวดผู้แข่งขันจะได้รับความรู้ทั้งในเชิงเทคนิค กระบวนการสร้างสรรค์ ตลอดจนเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านต่างๆ จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช กรรมการมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ และประธานโครงการฯ หัวเรือใหญ่ในการจัดงานนี้ กล่าวว่า มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ ได้เริ่มจัดโครงการแข่งขันวาดภาพสดชิงรางวัล “ศิลปินดาวเด่น บัวหลวง” เพื่อเป็นแรงจูงใจและส่งเสริมให้ศิลปินรุ่นใหม่มีโอกาสแสดงการสร้างสรรค์ฝีมือ ทักษะ และจินตนาการอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากความรู้ที่ได้รับในเชิงศิลปะและแนวความคิดในการดำเนินชีวิต ผู้แข่งขันยังได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ได้แลกเปลี่ยนความคิด กลวิธี กระบวนการสร้างสรรค์งาน เกิดเป็น องค์ความรู้ใหม่ และเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างกัน อีกทั้งยังทำให้ประชนทั่วไปมีความเข้าใจงานศิลปะมากขึ้น มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ ได้ตระหนักถึงคุณค่าของโครงการฯ จึงจัดการแข่งขันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ในปี 2553 ระหว่างวันที่ 8 — 17 พ.ย. นี้ “ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่เราได้จัดโครงการดาวเด่นบัวหลวง จากปีแรกและปีที่ 2 มีประชาชนเข้ามาดูผลงานที่ถ่ายทอดสดทางเวบไซต์จำนวนมาก จุดประสงค์ของการเริ่มต้นโครงการนี้คือ เราต้องการให้ประชาชนทั่วไปเห็นคุณค่าของศิลปะ นอกเหนือจากที่อยากช่วยกันพัฒนาตัวศิลปะให้มีชื่อเสียงมากขึ้น เพราะเราคิดว่าศิลปะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิตคนเรา นอกเหนือจากให้ความเพลิดเพลินกับเราแล้วยังส่งเสริมให้เยาวชนมีความคิดสร้างสรรค์มีจินตนาการ ในการที่เราเริ่มต้นโครงการนี้ก็เพื่อต้องการให้ประชาชนสัมผัสกับการสร้างสรรค์ผลงานจริงๆ “เราจะเริ่มโครงการวาดภาพสดของปีนี้ในวันที่ 8-17 พ.ย. และทุกวันระหว่างเวลา 13.00-14.30 น. จะมีวิทยากรมาให้ความรู้กับน้องๆ นอกจากงานศิลปะแล้ว ยังมีเรื่องของการดำรงชีวิต การมีโอกาสพบปะกับเจ้าของแกลลอรี่ หรือนักสะสมงานศิลปะ น้องๆ จะได้รู้ว่าตลาดต้องการอะไรบ้าง และต้องขอขอบคุณ บริษัทนานมี เป็นอย่างมากที่เป็นผู้สนับสนุนในเรื่องของสีที่ใช้ในการวาดภาพด้วยค่ะ “ยังมีอีกเรื่องที่น่าภูมิใจมากคือ ดาวเด่นปีแรกที่ได้รับรางวัลของเรา เบนซ์-ธนากร บัวปลอด ตอนนี้สร้างผลงานขึ้นมาในระดับชาติแล้ว คือ ได้ ได้ รางวัลที่ 1 เหรียญทองบัวหลวง กิตติบัตร ประเภทจิตรกรรมไทยร่วมสมัย ในการประกวดจิตรกรรมบัวหลวงปี 2553 และ รางวัล Grand Price ประเภทวาดเส้น งานนิทรรศการภาพพิมพ์และวาดเส้นนานาชาติ ครั้งที่ 2 เราก็ถือว่าเวทีดาวเด่นมีส่วนหนึ่งในการส่งเสริมศิลปินให้ขึ้นมาเป็นมืออาชีพได้” คุณหญิงชดช้อย กล่าว สำหรับบรรยากาศในงานแถลงข่าวนั้น นอกจากคึกคักไปด้วยบรรดานิสิตนักศึกษาที่ร่วมโครงการฯ จำนวนหลายสิบชีวิตแล้ว ยังมีศิลปินชื่อดังอีกหลายท่านมาร่วมงานด้วยในฐานะคณะกรรมการโครงการ อาทิ ศ.ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ , อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ฯลฯ รวมทั้งรุ่นพี่ดาวเด่นบัวหลวงครั้งที่ 2 จุฑารัตน์ กอบนวรักษ์ ศิลปินดาวเด่นจิตรกรรมบัวหลวง ยอดเยี่ยม และ สุนันทา วินทอง ศิลปินดาวเด่น บัวหลวงความคิดสร้างสรรค์ มาร่วมพูดคุยถึงแนวคิดแรงบันดาลใจในการนำเสนอผลงาน ที่ทำให้ประสบความสำเร็จบนเวทีนี้ ให้ผู้เข้าแข่งขันรุ่นใหม่ฟังกันด้วย ศ.ปรีชา เถาทอง กล่าวถึง โครงสร้างของการสร้างสรรค์ศิลปะว่า ประกอบด้วย 3 ส่วน อย่างแรกคือ ความคิด ความรู้สึก ส่วนที่สองเป็น รูปแบบ แนวทางการทำงาน อีกส่วนคือ ตัวเนื้อหาสาระ ทั้งหมดนี้ถูก หยิบยกมาอยู่ในโปรแกรมของดาวเด่นบัวหลวง “โครงการนี้เป็นรูปแบบของการนำสิ่งที่มีอยู่ในสถานศึกษามาทำในที่เราจัดให้เป็นรูปแบบเรียลลิตี้โชว์ และจะย่อยสลายในสิ่งที่เห็นนำมาพรีเซนต์ให้คนทั่วไปได้เห็น วิธีการทำงานศิลปะ หาแนวคิด ข้อมูล ว่ามีกระบวนการอย่างไร ผมมองว่าผลที่ได้โดยตรงจากกระบวนการเหล่านี้ เป็นผลการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านงานศิลปะต่อมวลชนค่อนข้างมาก นอกจากนี้เยาวชนจากสถาบันต่างๆ ที่มาอยู่รวมกันตรงนี้จะได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน และส่วนที่สำคัญมากคือ องค์ความรู้ที่ทางผู้จัดได้จัดไว้ให้ มีวิทยากรมาบรรยาย การวางแผนดำเนินงาน การบริหารจัดการในชีวิตตั้งแต่เป็นศิลปิน ตรงนี้เป็นองค์ความรู้ที่สำคัญที่จะไหลเข้าสู่ตัวศิลปินน้อยๆ เหล่านี้ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์ ที่ผมมองว่ามีผลโดยตรงคือ การเผยแพร่ความรู้ สู่มวลชนทำให้คนเข้าใจถึงศิลปะว่ามีที่มา ที่เป็น และที่ไปครับ” หนึ่งในคณะกรรมการ กล่าว ศิลปินผู้ทรงคุณวุฒิอีกท่านหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งของโครงการนี้คือ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้กล่าวถึงการแข่งขันแต่ละปีว่ามีความแตกต่างกันอยู่แล้ว อย่างปีนี้จะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงเข้ามาค่อนข้างมาก แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมีความสนใจในเรื่องศิลปะมากขึ้นและมีฝีมือเก่งมากขึ้นด้วย “การที่คนเขียนรูปมาอยู่ด้วยกัน 1 อาทิตย์เนี่ยเราจะได้เห็นถึงการพัฒนา ได้เห็นการทำงานตั้งแต่เริ่มต้น การจัดวาง สเก็ตช์รูป การเสนอไอเดีย การพรีเซนต์ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนที่ดูอยู่ที่บ้าน แม้จะไม่ได้มาดูที่หอศิลป์ก็ตาม ที่นี่ยินดีต้อนรับทุกคนที่สนใจ อยากให้มาดูกันเยอะๆ ผมว่ามันกว่าดูจากเว็บไซท์อีกได้เห็นเด็กเขียนรูปกันจริงๆ สนุกมาก จะได้เห็นความหลากหลายในวิธีคิดของเขา ถ้ามาเดินดูบ่อยๆ หรือ 2 วันมาที จะเห็นความแตกต่าง ความเปลี่ยนแปลง ทั้งวิธีการคิด การลงสี เทคนิคต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เด็กด้วย “ใครมีลูกๆ ที่ชอบวาดรูปลองพาลูกมาดูพี่ๆ เขาวาดรูป บางทีจะได้เทคนิคแปลกๆ กลับไปเขียนที่บ้าน ผมว่ารายการแบบนี้เหมาะที่จะเป็นกระบวนการคิดการศึกษาของประเทศ เพราะติดตามชมได้ทุกจังหวัด ใน อีกสัก 5 ปีก็น่าจะกว้างขวางขึ้นและเป็นประโยชน์มากขึ้น วงการศิลปะของเราจะได้รับรู้ว่าคนวาดรูปมีวิธีคิดของเขา รูปวาดนี้ให้อะไรกับเขาบ้าง นี่คือโจทย์ที่ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์มากสำหรับเรา” ศิลปินชื่อดัง กล่าว และพลาดไม่ได้กับสีสันสำคัญของงาน คือ การสร้างสรรค์ผลงานโดยศิลปินรุ่นใหญ่ อย่าง ศ.ปรีชา เถาทอง, อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่วาดภาพสดเป็นรูปดอกบัว ในสไตล์ของตนเอง โดย ศ.ปรีชา วาดรูปดอกบัวจากต้นแบบ ที่มีความเหมือนจริง แล้วลงสีน้ำ ส่วน อ.เฉลิมชัย วาดรูปดอกบัวที่มีลวดลายประดิษฐ์ ด้วยสีชอล์ค มีความสวยงามอ่อนช้อยแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของทั้ง 2 ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมี เหล่าคนดังมาร่วมโชว์ฝีมือและผลงานให้ชมกันอีกมากมาย อาทิ พลอย จริยะเวช, อาทินันท์ พีชานนท์, มนตร์ลดา พงษ์พานิช, อภิสรา นุตยกุล พิธีกรรายการ “แจ๋ว” ฯลฯ โดยภาพวาดทั้งหมดจากเหล่าศิลปินดังกล่าว จะถูกนำมาเป็นรางวัลสำหรับผู้โชคดีทางบ้านที่ร่วมโหวตผู้เข้าประกวดที่ชื่นชอบผ่านทางการส่งข้อความและ เว็บไซท์ โดยจะสุ่มจับฉลากกันแบบวันต่อวัน และส่วนหนึ่งจะนำมาประมูลผ่านทางเว็บไซท์ เพื่อนำรายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่วนไฮไลท์อีกชิ้นหนึ่งของงานนี้ กลายเป็นผลงานการวาดภาพของ ศิลปินชื่อดัง ศ.วิโชค มุกดามณี ที่มาโชว์ฝีมือด้านศิลปะประชันกับลูกชาย วิชญ มุกดามณี ศิลปินหนุ่มรุ่นใหม่มาแรง ในภาพที่ชื่อว่า “สัมพันธภาพของห้วงเวลา” (Harmony in Time) “คุณหญิงชดช้อยให้โจทย์ผมมาว่าต้องเขียนรูปด้วยกันสองคนกับลูกชาย เราก็นึกถึงงานหนึ่งที่เป็นความร่วมมือระหว่างกันและกันที่เรียกว่าเทคนิค Collaboration โดยผมกำหนดเรื่องพื้นที่ทำเป็นภาพทิวทัศน์ มีท้องฟ้า ทะเล แผ่นดิน ส่วน วิน จะใส่รายละเอียดในเรื่องของชีวิตคนกรุงเทพในปัจจุบันที่มีความวุ่นวายสับสน ถือเป็นการลองทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก ระหว่าง 2 วิธีคิดว่าพอไปด้วยกันได้ไหม ของเขาจะมาแรงๆ ในสีโทนร้อน ส่วนผมมาแนวเย็นๆ ใช้โทนสีฟ้า สำหรับเทคนิค Collaboration นี้เป็นความร่วมมือของ 2 ศิลปินที่มีความคิดต่างกันแต่มาผสมผสานกันดู คิดว่าถ้าไปรอดก็จะลองทำต่อไปอีก” ศิลปินรุ่นใหญ่ กล่าว ทางด้านศิลปินรุ่นใหม่ วิชญ กล่าวเสริมว่า ยินดีที่ได้ร่วมสร้างผลงานกับคุณพ่อในเฟรมเดียวกัน ถึงจะรู้สึกเกร็งๆ บ้างแต่ก็ได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำงานของศิลปินมืออาชีพ ที่มีความละเอียดอ่อน ถึงภาพจะมีโทนสีคนละโทนแต่เขาก็แก้ปัญหาด้วยการเหลื่อมสีคือกระจายสีเข้าไปซึ่งกันและกันทำให้มีความลงตัวมากขึ้น ซึ่งภาพชิ้นสำคัญนี้ จะเป็นอีกหนึ่งภาพที่ทางมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ จะนำไปประมูลผ่านทางเว็บไซท์ในโอกาสต่อไป ส่วนสาวอารมณ์ดี พลอย จริยะเวช ซึ่งนำภาพวาดรูปผู้หญิง ที่สร้างสรรค์ด้วยพู่กันจุ่มหมึกมาโชว์ 2 ภาพด้วยกันในงานนี้ กล่าวถึงผลงานดังกล่าวว่า เป็นสไตล์การวาดรูป และลายเส้นของเธอ เป็นสิ่งที่ทุกคน คุ้นตาไปแล้ว “จริงๆ แล้วไม่เคยเรียนการวาดรูปพู่กันจุ่มหมึกมาเลย เพียงแต่วาดเล่นๆ มั่วๆ แล้วออกมาหน้าตาแบบนี้ เป็นการวาดแบบม้วนเดียวจบไม่มีการลบ วาดไปทีไรหน้าตาผู้หญิงก็จะออกมาเป็นแบบนี้ หลายคนก็ชอบลายเส้นและจำได้ว่าเป็นสไตล์เรา ศิลปะช่วยเราได้เยอะนะคะ พลอยไม่เคยไปปฏิบัติธรรมหรือทำสมาธิ แต่เวลาเราหงุดหงิดหรือโมโหก็จะมีศิลปะเป็นสิ่งที่ช่วยบำบัดใจเราได้ เป็นกิจกรรมที่ช่วยเราเรื่องสมาธิ ถึงมือขยับแต่ใจนิ่ง ถือเป็นเครื่องบำบัดใจที่เป็นเหมือนการทำสมาธิที่สนุก เป็นการฝึกจิตขั้นพื้นฐานเหมือนกัน และช่วยฝึกให้เราอย่าได้แคร์อย่าได้กลัว เช่น กลัวว่าจะวาดรูปสวยมั้ย ออกมาเป็นยังไง จริงๆ แล้วเรื่องวาดรูปใครๆ ก็ทำได้ “สำหรับเวทีดาวเด่นบัวหลวงเป็นโครงการที่ดี ให้เด็กๆ มีโอกาสแสดงฝีมือทำให้พวกเราได้เห็นผลงานของพวกเขา เด็กไทยรุ่นใหม่ได้เห็นโลกที่เปิดกว้างมากขึ้น จากเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเป็นเหมือนวัตถุดิบที่มีความแปลกใหม่ อาจเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ สร้างงานได้มีสไตล์ มีแนวเฉพาะตัวได้มากกว่าเราตอนเป็นวัยรุ่น” นักเขียนสาว กล่าว สำหรับโครงการดาวเด่นบัวหลวง 101 ครั้งที่ 3 ได้คัดเลือกนักศึกษาที่กำลังศึกษาแขนงศิลปะในระดับปริญญาตรี 2 ปีสุดท้าย จากสถาบันการศึกษา จำนวน 21 สถาบัน 23 คณะ เข้าร่วมแข่งขันคณะละ 2 คน รวม 46 คน โดยผู้เข้าแข่งขันจะเข้ารับการปฐมนิเทศในวันที่ 18 ตุลาคม และเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างวันที่ 8 — 17 พฤศจิกายน 2553 เพื่อสร้างสรรค์งานจิตรกรรม โดยระหว่างการประกวดผู้แข่งขันจะได้รับความรู้ทั้งในเชิงเทคนิค กระบวนการสร้างสรรค์ นานาทัศน์ ตลอดจนเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านต่างๆ จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ, รศ.อิทธิพล ตั้งโฉลก, ชัยประนิน วิสุทธิผล ฯลฯ ตลอดการแข่งขัน 10 วัน มีกติกาสำคัญที่ นักศึกษาจะต้องสร้างสรรค์ผลงานและใช้ชีวิตอยู่ใน หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯเท่านั้น โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน www.kapook.com อันเป็นรูปแบบการนำเสนอแนวใหม่ในการประกวดงานศิลปะ ซึ่งผู้ชมทั่วไปสามารถมีส่วนในการร่วมโหวตผลงานที่ชื่นชมได้ผ่านเว็บไซท์ สนับสนุนการโหวตผ่าน SMS ฟรี จาก ทรู, ดีแทค และ AIS โดยพิมพ์ B เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขศิลปินดาวเด่น ส่งมาทางหมายเลข 420 1000 และ สนับสนุนอุปกรณ์ศิลปะสำหรับผู้เข้าประกวด ตลอดการแข่งขัน โดยบริษัท นานมี จำกัด ทั้งนี้จะปิดรับคะแนนโหวตในรอบตัดสิน วันที่17 พฤศจิกายน ภายในเวลา 12.00 น. คนรักศิลปะห้ามพลาดกับเวทีประกวดผลงานศิลปะแนวทางใหม่ ในโครงการแข่งขันศิลปิน ดาวเด่นบัวหลวง 101 ครั้งที่ 3 โดยสามารถเข้าชมการทำงานของศิลปินรุ่นใหม่ทั้งหลายได้ ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หรือชมการถ่ายทอดสดผ่าน www.kapook.com พร้อมร่วมโหวตศิลปินที่ชื่นชอบกันได้ ตั้งแต่วันที่ 8 — 17 พฤศจิกายน 2553 โดยประกาศผลชนะเลิศ ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ