กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--แสนสิริ
หากจะกล่าวถึงการอยู่อาศัยในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯในปัจจุบัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งธุรกิจการค้าและความทันสมัย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนเหล่านี้ก็คือ การแข่งขันในด้านเวลาให้ทันตามกระแสการหมุนของโลก ทำให้คนจำนวนไม่น้อยมีความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านใจกลางเมือง หรืออยู่ใกล้ย่านธุรกิจการค้า เพื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในเมืองแห่งความศิวิไลซ์ได้อย่างมีความสุข ดังนั้นคอนโดมิเนียม จึงกลายมาเป็นคำตอบที่ดีที่สุด สำหรับไลฟ์สไตล์ของการดำเนินชีวิตในเมืองใหญ่นั่นเอง
ที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร มีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ ประมาณร้อยละ 5-6 ในขณะที่อัตราการขยายตัวของคอนโดมิเนียมในปีที่ 2549 ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37 เหตุจากมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาจับตลาดนี้กันมากขึ้น โดยทำเลที่ได้รับความนิยมในการพัฒนาโครงการ ได้แก่ สุขุมวิท , รัชดาภิเษก และพหลโยธิน ซึ่งมีระดับราคาขายกันตั้งแต่ยูนิตละไม่กี่แสนบาท ไปจนถึงระดับพรีเมี่ยมที่ขายกันสูงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนย่านที่ครองแชมป์การพัฒนาคอนโดมิเนียมประเภทหรูหราและตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในเมืองอย่างเต็มรูปแบบ คงหนีไม่พ้นทำเลย่านสุขุมวิท โดยในย่านนี้มีสัดส่วนถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับจำนวนคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ทั้งหมดในกรุงเทพฯเลยทีเดียว รวมถึงมีอัตราส่วนผู้พักอาศัยทั้งชาวไทยและต่างชาติถึงร้อยละ 80-99 ด้วย โดยเหตุผลที่สำคัญก็คือ อยู่ในย่านธุรกิจ ที่มีร้านค้า ศูนย์การค้า และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจต่างๆ รวมถึงความสะดวกสบายด้านการคมนาคม ทำให้สุขุมวิท เป็นบริเวณที่น่าดึงดูดใจในการเป็นย่านพักอาศัยเป็นอย่างมาก
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางกรุงเทพฯ ในปี 2550 ภาคเอกชนหลายฝ่ายให้ความเห็นคล้ายกันว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา (2549) ถึงแม้ว่าสถานการณ์ด้านการเมืองจะยังไม่คลี่คลายและเศรษฐกิจยังคงไม่ชัดเจนก็ตาม ทั้งนี้เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยกลางใจเมืองยังคงมีอยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่า คอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่ในปีนี้คงมีเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 19,000 ยูนิต ส่วนราคาขายเฉลี่ยน่าจะมีการปรับเพิ่มไม่เกินร้อยละ 10-12 แตกต่างกันไปตามทำเล เนื่องจากราคาขายที่ปรับขึ้นในระดับนี้จะส่งผลต่อผู้ซื้อน้อยที่สุด หากปัจจัยลบส่งผลในระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
แสนสิริกับความเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะผู้ประกอบการอันดับหนึ่งในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมมาตลอด เนื่องจากแสนสิริมีส่วนแบ่งการตลาดถึงเกือบร้อยละ 30 จากการพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมมาแล้วกว่า 20 โครงการ มีจำนวนยูนิตการอยู่อาศัยเกือบ 2,500 ยูนิต มูลค่าโครงการขายรวมเกือบ 17,000 ล้านบาท โดยมากกว่าร้อยละ 90 เป็นโครงการระดับพรีเมี่ยมที่อยู่ในพื้นที่ใจกลางย่านธุรกิจ (CBD) ทั้งสิ้น อาทิ สีลม สาทร ราชดำริ ร่วมฤดี รวมถึงย่านคอนโดมิเนียมยอดฮิตอย่างสุขุมวิท ทองหล่อด้วย ส่วนที่เหลือเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียมตากอากาศในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาทิ บ้านไข่มุก , บ้านแสนสราญ , บ้านแสนเพลิน และล่าสุดคือ Las Tortugas ซึ่งหลายๆ คนรู้จักในฐานะเป็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมจนถึงระดับไฮเอ็นบนชายหาดหัวหิน
ปัจจัยที่ทำให้แสนสิริ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบนก็คือ ประสบการณ์ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ด้วยการที่แสนสิรินำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งขัน ทั้งในด้านดีไซน์การออกแบบทางสถาปัตยกรรม การจัดสรรพื้นที่ใช้สอย (Space Planning) การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์การตกแต่งที่มีคุณภาพ ที่สำคัญก็คือ ความโดดเด่นในการเลือกทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมืองหรือใจกลางย่านธุรกิจที่สะดวกสบายในด้านเส้นทางการคมนาคมสำคัญอย่างรถไฟฟ้าซึ่งตอบรับกับความต้องการอยู่อาศัยในเมืองหลวงที่แท้จริง ประกอบกับการที่แสนสิริมีบริษัทในเครืออย่างพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ทำหน้าที่ดูแลการบริหารโครงการ ส่งผลให้คอนโดมิเนียมของแสนสิริแทบจะทุกโครงการ มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นนับจากวันที่ผู้ซื้อตัดสินใจจองซื้อตั้งแต่วันแรก ตัวอย่างบางโครงการของแสนสิริที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้แก่ โครงการบ้านราชดำริ ซึ่งมีราคาขายในช่วงเปิดตัวประมาณ 1.1 แสนบาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันมีราคาขายเปลี่ยนมือสูงถึงเกือบ 2 แสนบาทต่อตารางเมตร เป็นต้น นอกจากนี้เมื่อแสนสิริมีการเติมเต็มเรื่องของ “ไลฟ์สไตล์” การใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยเข้าไปด้วย ยิ่งทำให้โครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยสังเกตุได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในทำเลใดๆ ก็มักจะปิดการขายโครงการนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่า ช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมาแสนสิริ ไม่มีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงการที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ และทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการสิริทเว็นตี้โฟว์ (สุขุมวิท 24) , โครงการสิริสุขุมวิทซอย 10 , โครงการบ้านนันทสิริ (ซอยสาทร 1) คอนโดมิเนียมในกลุ่มแสนสิริที่เปิดใหม่จะเป็นโครงการระดับกลางที่ประสบความสำเร็จในการทำการตลาดอย่างมาก ได้แก่ คอนโดวัน ซึ่งดำเนินการโดย พลัสฯ ซึ่งเป็นบริษัทลูกเท่านั้น
กระแสข่าวการกลับมาของผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในย่านสุขุมวิท
ล่าสุดเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า แสนสิริจะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมใจ กลางย่านธุรกิจอีกครั้ง ซึ่งจากการสืบหาข้อมูลทราบแต่เพียงว่า น่าจะเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ เป็นโครงการพรีเมี่ยมแบบอาคารสูงมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยจะมีการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนี้ ส่วนการกลับมาของผู้นำในครั้งนี้ แสนสิริจะมีกลยุทธ์ในการสร้างความเชื่อมั่นใน Brand Loyalty ให้กับลูกค้าอย่างไร รวมถึงจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเหมือนการพัฒนาโครงการในช่วงที่ผ่านๆมาหรือไม่ ต้องจับตาดูกันต่อไป
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net