สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดี ที่ 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 4, 2010 14:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1353 เหรียญ ค่าเงินบาท 29.71 บาท/ดอลลาร์ กับ 29.74 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19000 บาท กับ 19100 บาท GFZ10 เปิดที่ 19250 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19350 บาท GF10Z10 เปิดที่ 19260 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19350 บาท SPDR ถือครอง 1292.19 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันบวก 79 เซนต์ ปิดที่ระดับ 84.69 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 26.41 จุด ปิดที่ระดับ 11215.13 จุด โดยที่ราคาทองคำในตลาดเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1353-1356 เหรียญ ราคาสมาคมอยู่ที่ 19050 บาท และ19150 บาท ราคาทองคำในตลาดลอนดอนและ Comex เองปรับตัวร่วงลงจนหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1340 เหรียญ เกิด Stop Selling ลงมาจนทำให้ราคาทองคำทำต่ำสุดที่ระดับ 1326 เหรียญ โดยที่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตลาดกังวลว่า FED จะออกมาตรการ QE หรือไม่อย่างไร โดยที่ผู้แทนทางพรรคเดโมแครต หลายฝ่ายออกมาค่อนข้างต่อต้านมาตรการ QE มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากช่วงนั้นจึงกดดันให้เกิดแรงเทขายทองคำอย่างหนัก ทำให้ราคาทองคำปิดตลาด Comex ที่ระดับ 1337 เหรียญ หลังจากนั้นในช่วงตลาด Comex ปิดไปแล้ว FED ประกาศมาตรการ QE โดยใช้เงินจำนวน 6 แสนล้าน เพื่ออัดฉีดเข้าสู่ระบบ ทำให้ราคาทองคำเริ่มมีแรงซื้อดีดกลับขึ้นมาทันทีในตลาด Electronic และค่าเงินดอลลาร์เองจากเดิมทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.4015 ดอลลาร์/ยูโร กลับมาอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในปลายตลาด Comex ที่ระดับ 1.4138 ดอลลาร์/ยูโร อ่อนค่าลงมาประมาณ 120 pips และค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 81.05 เยน/ดอลลาร์ ในขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นตามลำดับเช่นเดียวกัน อยู่ที่ระดับ 29.70 บาท/ดอลลาร์ และทองในตลาด 1347 เหรียญ ตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ คือ Non-farm Employment Change ภาคเอกชน จากเดิมติดลบ 2000 ตำแหน่ง เข้าสู่ระดับบวก 43000 ตำแหน่ง และ ISM Non- Manufacturing ออกมาเพิ่มเป็น 54.3% มากกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 53.5% โดยที่ตัวเลขทั้ง 2ตัวนี้ที่ออกมาดีเกินคาด ซึ่งกดดันให้ราคาทองคำเกิดแรงเทขายอย่างหนักในช่วงตลาดนิวยอร์ก น้ำมันบวก 79 เซนต์ ปิดที่ระดับ 84.69 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 26.41 จุด ปิดที่ระดับ 11215.13 จุด ดัชนี Dollar Index 76.46 จุด SPDR ถือครอง 1292.19 ตัน (เท่าเดิม) วิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแรงเทขายต่อเนื่อง ราคาลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1330 เหรียญ อีกครั้งหนึ่งและสามารถดีดกลับขึ้นมาได้จากตัวเลข QE ซึ่งโดยภาพทางเทคนิคมีความแข็งแกร่งของแนวรับดีมาก แม้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีก็ตาม แนวต้านถัดไปที่ระดับ 1365 เหรียญ และแนวรับยังอยู่ที่ระดับ 1330 เหรียญ ยังมองว่าทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้นได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยที่มีการปรับฐานเป็นระยะๆ ตอนขึ้น ราคาสมาคมปิดตลาดที่ระดับ 19050 บาท และ 19150 บาท ราคาทองคำแท่งของไทย แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19000 บาท แนวต้านอยู่ที่ระดับ 19150 บาท Gold Futures Series Z10 แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19200 บาท แนวต้านอยู่ที่ระดับ 19340 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะขาขึ้น ตามการแกว่งตัวของตลาด นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ยังเป็นการเข้าซื้อต่อเนื่องเพิ่ม Port เป็น 70% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ควร จะซื้อสะสมต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนควรมีระบบ Gold online เพื่อเข้าซื้อเมื่อคืนนี้ได้ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนระยะยาวและช้อนซื้อเมื่อคืนที่ระดับแนวรับ 1330 เหรียญ ดังนั้นจึงย้ำว่า การที่นักลงทุนมีระบบ Gold online จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเข้าซื้อจังหวะดังกล่าว และจะเห็นได้ว่าโอกาสและจังหวะจะเกิดขึ้นในช่วงตลาดนิวยอร์กกลางคืนบ้านเรา นักลงทุนทองคำแท่งจะทำกำไรได้มากขึ้นและควรถือ Port 50-60% ใน ขณะนี้ สรุป ได้ว่า นักลงทุนที่ถือ Short Position ของ Gold Futures แนะนำว่าควรจะปิด สถานะ Short เพราะมีโอกาสเห็นราคาทองคำพุ่งถึงระดับ 1400 เหรียญ ภายในเดือนนี้ค่อนข้างสูงแนะนำให้ถือ Long Position อย่างเดียว บท วิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ