ร.พ.บีเอ็นเอช โชว์ศักยภาพทางการแพทย์ ใช้สุดยอดเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาโรคกระดูกสันหลัง

ข่าวเทคโนโลยี Friday January 28, 2005 08:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--โฟร์ฮันเดรท พีอาร์
ร.พ.บีเอ็นเอช โชว์ศักยภาพทางการแพทย์ ใช้สุดยอดเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาโรคกระดูกสันหลัง
“Minimally Access Spine Surgery (MASS)”
โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการรักษาโรคกระดูกสันหลัง ใช้สุดยอดเทคโนโลยีรักษาโรคกระดูกสันหลังที่มีประสิทธิภาพสูง “Minimally Invasive Technology” เน้นการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่และทันสมัย ผ่าตัดอยู่โรงพยาบาลแค่ 3-4 วันก็กลับบ้านได้ พร้อมเปิดตัวทีมแพทย์เฉพาะทางให้การรักษาอย่างต่อเนื่องครบวงจร
กระดูกสันหลังเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่ปกป้อง ไขสันหลังซึ่งทำงานร่วมกับสมองในการควบคุมการทำงานและรับความรู้สึกของแขนและขาทั้งหมด ดังนั้นเมื่อไขสันหลังถูกรบกวนจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม จะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก และทำให้เกิดความพิการขึ้นได้
นอกจากนี้ภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังแตก หรือ ภาวะช่องไขสันหลังแคบบริเวณ กระดูสันหลังระดับบั้นเอว เป็นปัญหาที่พบบ่อยในโรคของกระดูกสันหลัง ภาวะดังกล่าวจะกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดการปวดหลังร้าวไปที่บริเวณก้นหรือขา นำมาซึ่งอาการชาบริเวณขา และการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อได้ โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยที่ประสบปัญหาดังกล่าว อาศัยการวินิจฉัยที่แม่นยำ และการรักษาจากศัลยแพทย์ทางกระดูกสันหลังที่มีความรู้และประสบการณ์สูง โดยการใช้ยา และการทำกายภาพบำบัด และพิจารณาการผ่าตัดในผู้ป่วย ที่ไม่ได้ผลที่ดีภายหลังแนวการรักษาดังกล่าว
นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาล BNH สาทร-คอนแวนต์ เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาล ได้เล็งเห็นความสำคัญในการรักษาภาวะโรคกระดูกสันหลัง ซึ่งต้องเน้นถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และทันสมัยอย่างต่อเนื่อง โดยแนะนำเทคโนโลยีล่าสุด มาใช้ในการรักษาโรคกระดูกสันหลัง ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด ทำให้การผ่าตัดทำการรักษาภาวะโรคกระดูกสันหลัง มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ขนาดของแผลเล็กลง และอาการเจ็บปวดน้อยลง
“ในอดีตการผ่าตัดในภาวะดังกล่าวถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ มีการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่ออย่างมาก แผลผ่าตัดขนาดใหญ่ ผู้ป่วยจึงต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟูสภาพ แต่ด้วยนวัตกรรมในการผ่าตัดกระดูกสันหลัง โดยอาศัยเครื่องมือในการผ่าตัดในลักษณะเป็นท่อใส่ผ่านเข้าไปในกระดูกสันหลังร่วมกับการใช้กล้องส่อง ซึ่งมีหลักการในการผ่าตัดใกล้เคียงกับเทคโนโลยีในการผ่าตัดผ่านกล้องที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน”
แต่ด้วยนวัตกรรมที่เรานำมาเป็นเทคโนโลยีอันใหม่ล่าสุดเพื่อใช้รักษาโรคกระดูกสันหลัง ชื่อว่า “Minimally Access Spine Surgery (MASS)” เป็นชุดเครื่องมือผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพในการที่จะทำให้การผ่าตัดสามารถทำได้โดยจะมีขนาดของแผลเล็กลงเป็นอย่างมาก ทำให้ความเจ็บปวดน้อยลง คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อยู่โรงพยาบาลเพียง 3-4 วันหลังผ่าตัดก็สามารถกลับบ้านได้
นอกจากนี้ยังทำให้ระยะพักฟื้นหลังการผ่าตัดสั้นลงมากเพียง 2-3 สัปดาห์ก็สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ ขั้นตอนการผ่าตัดจากเดิมที่เคย เปิดหลังเป็นแผลขนาดใหญ่เพื่อไปจัดการกับโรคที่อยู่ข้างในที่มีบริเวณเล็กนิดเดียว เครื่องมือใหม่นี้ถูกดีไซน์ขึ้น เพื่อการผ่าตัดให้เข้าถึงจุดที่ต้องการรักษาเฉพาะที่อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยแผลจะมีขนาดเพียง 1.6- 2 ซม. แทนที่จะมีขนาดของแผลยาว 15 - 20 ซม. ซึ่ง MASS สามารถช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงข้อกระดูกสันหลังได้อย่างแม่นยำ และมองเห็นบริเวณที่จะทำการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน แต่จะทำให้มีการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อน้อยลง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากในการผ่าตัดกระดูกสันหลังเมื่อเทียบกับวิธีการผ่าตัดในอดีต ด้วยการใช้เทคนิคของ MASS ผู้ป่วยจะสามารถลุกขึ้นนั่งและเดินได้ภายใน 24 ชั่วโมง หลังการผ่าตัด จากเดิมต้องรอ 3-4 วันให้หายปวดแผลก่อนจึงจะลุกเดินไหว
นายแพทย์กฤตวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ทางโรงพยาบาลมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคกระดูกสันหลังอย่างครบถ้วน นำโดย ผศ.นพ.วิชาญ ยิ่งศักดิ์มงคล แพทย์ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทางด้านโรคกระดูกสันหลังที่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนใส่ข้อกระดูกสันหลังเทียมได้ และน.พ ธนัตถ์ วัลลีนุกุล ศัลยแพทย์กระดูกสันหลัง จะมาทำการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลัง โดยทำงานร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง เพื่อให้การดูแลรักษาต่อเนื่องอย่างครบวงจร ทั้งการรักษาโดยวิธีไม่ผ่าตัดเช่น การฉีดยาเฉพาะจุด การรักษาอาการปวดโดยการฝังเข็ม การฉีดยาเข้าไขสันหลังเพื่อการบำบัดรักษา และนอกจากนี้ ยังจะเน้นหนักถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และทันสมัยอย่างต่อเนื่องเช่น การเปลี่ยนข้อกระดูกสันหลังเทียม การผ่าตัดด้วยการใช้กล้องจุลทรรศ์ หรือการใช้หมอนรองกระดูกเทียม ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อนในบ้านเรา
ปัจจุบันจะพบประชากรที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังจำนวนมาก จากสาเหตุต่างๆกัน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกเสื่อมหรือเกิดกระดูกงอกไปทับเส้นประสาท ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทำงานมีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปจะมีปัญหาปวดหลังส่วนใหญ่มาจากเรื่องของหมอนรองกระดูก ส่วนกลุ่มอื่นๆที่เหลือพบได้บ้างจากอุบัติเหตุ การติดเชื้อ เนื้องอก เป็นต้น
อัตราส่วนของคนที่เป็นโรคกระดูกสันหลังเดิมทีก็มีมากอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันเมื่อมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มากขึ้น เทคนิคและวิธีการผ่าตัดตลอดจนเครื่องมือผ่าตัดมีการพัฒนามากขึ้นส่งผลให้ผลของการผ่าตัดดีมากยิ่งขึ้น คนไข้ก็มารับบริการอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะมีโรงพยาบาลหรือหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับโรคกระดูกสันหลังโดยเฉพาะเพื่อให้การรักษาพยาบาลด้านนี้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ
“ปัจจุบันวิทยาการความก้าวหน้าเกี่ยวกับเรื่องการรักษานี้มีความก้าวหน้าไปเร็วมาก ส่งผลให้ผลการรักษาดีขึ้นและมีความแตกต่างจากอดีตอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบัน ในเมืองไทยมีแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางในการรักษาเกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลังโดยตรงมีจำนวนไม่มาก และส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯโดยเฉพาะในโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ สาเหตุที่มีแพทย์ทางด้านนี้ไม่มาก เนื่องจากในบ้านเราเพิ่งมีหลักสูตรการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ จึงต้องอาศัยอาจารย์แพทย์ผู้มีประสบการณ์และได้รับการฝึกอมรมมาจากต่างประเทศมาร่วมกันจัดหลักสูตร ประกอบกับต้องใช้เวลาฝึกฝนอบรมต่อยอดหลังจากจบเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมกระดูกและข้อแล้ว อีกทั้งต้องติดตามวิทยาการและความก้าวหน้า ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงและความซับซ้อนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายแพทย์กฤตวิทย์กล่าว
รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คุณธนิษฐา เลาวกุล แผนกประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
โทร. 02-632-0550 ต่อ 3342
คุณ สิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โฟร์ฮันเดรท พีอาร์
โทร. 02-510-5514-5, 01-913-1219
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

แท็ก access  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ