ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนซีส์ จำกัด (มหาชน)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 5, 2010 11:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวหนี้ไม่มีหลักประกันของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เป็น ‘BBB+(tha)’ จาก ‘A-(tha)’ (A ลบ (tha)) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ การปรับลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากผลประกอบการที่ลดลงของธุรกิจหลักและการเพิ่มขึ้นอย่างมากของระดับหนี้สินจากการเข้าซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา ฟิทช์คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน TTA มีแผนการซื้อเรือใหม่เพื่อปรับปรุงกองเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง (Dry Bulk Vessel Fleet) รวมถึงอาจจะมีการเข้าซื้อกิจการอีกในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทคงตัวอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับเดิมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อันดับเครดิตมีปัจจัยสนับสนุนจากความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์อันยาวนานและสถานะทางการตลาดที่มั่นคงของบริษัทในธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกอง (Dry Bulk Shipping) และธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (Offshore Service Business) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการกระจายความเสี่ยงของบริษัทไปยังธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกอง ซึ่งสามารถช่วยลดทอนผลกระทบจากวัฏจักรขาลงของธุรกิจเดินเรือที่มีต่อบริษัทได้ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกองสามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คิดเป็นร้อยละ 40 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายรวมของบริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่อยู่ในระดับประมาณร้อยละ 10-15 อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตได้ถูกลดทอนโดยลักษณะความเป็นวัฏจักรของธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกองที่มีความผันผวนสูง ในขณะเดียวกัน แนวโน้มของอัตราค่าระวางในอีก 12-18 เดือนข้างหน้าน่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากความเสี่ยงจากปริมาณเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองที่มีมากกว่าความต้องการขนส่งสินค้าในช่วงปี 2554-2555 แม้ว่านโยบายการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่นของ TTA จะช่วยลดความผันผวนและความไม่แน่นอนของกระแสเงินสดได้ในระยะยาว แต่นโยบายดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้น ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2553 ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งมีรายได้ลดลงอย่างมากเนื่องจากอัตราการใช้ประโยชน์ของกองเรือที่ต่ำกว่าที่คาด โดยรายได้จากธุรกิจบริการนอกชายฝั่งลดลงร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่รายได้ค่าระวางยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราค่าระวางจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยบวกต่อการเติบโตของรายได้มีเพียงรายได้จากยอดขายของ Baconco (ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายปุ๋ยในประเทศเวียดนาม) และ UMS (ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายถ่านหิน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยใหม่ที่บริษัทได้เข้าซื้อในปี 2552 และได้รวมผลประกอบการไว้ในงบการเงินรวมของบริษัท รายได้จากยอดขายดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 24.4 ของรายได้รวมของบริษัท ดังนั้น รายได้รวมของ TTA ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2553 ลดลงร้อยละ 15.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายลดลงร้อยละ 34.6 ในปีงบการเงิน 2554 ฟิทช์คาดว่าการฟื้นตัวของธุรกิจบริการนอกชายฝั่งและการเปิดตัวถ่านอัดก้อน (Coal Briquette) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ UMS น่าจะเป็นปัจจัยหลักในการสนับสนุนการเติบโตของรายได้ ในขณะที่ ผลประกอบการของธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกองน่าจะทรงตัวในระดับเดิม ก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นในปีการงบเงิน 2555 จากผลของแผนปรับปรุงกองเรือที่เริ่มมาตั้งแต่ปีงบการเงิน 2553 TTA ได้เปลี่ยนจากฐานะเงินสดสุทธิ (หลังจากหักหนี้สิน) ณ สิ้นปีงบการเงิน 2552 มาเป็นมีหนี้สินสุทธิที่ระดับ 7.7 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิ ต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ในช่วง 12 เดือนล่าสุด (Net Debt/ Last 12 month (LTM) EBITDA) ที่ระดับ 2.7 เท่า นอกเหนือจากกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายที่ลดลงและการเพิ่มขึ้นของหนี้สินจากการลงทุนซื้อเรือใหม่และการเข้าซื้อกิจการแล้ว การรวมงบการเงินของ UMS ซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สินที่สูงกว่าของบริษัทมาก เข้าเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินรวมของบริษัทตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2552 ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นด้วย จากแผนการซื้อเรือใหม่ในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิ ต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/ EBITDA) ของ TTA น่าจะอยู่ที่ระดับ 2.2 เท่าถึง 2.7 เท่า แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่า TTA จะมีการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจที่ดีขึ้นและมีกระแสเงินสดที่มีความแน่นอนมากขึ้น ในขณะที่สามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับปานกลางและมีสภาพคล่องที่เพียงพอ สอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบัน อัตราส่วนหนี้สินซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิ ต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายที่ลดลงมาอยู่ในระดับไม่เกิน 2.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกระแสเงินสดที่มีความสมดุลและมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้น อาจเป็นผลบวกต่ออันดับเครดิต อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดได้หากไม่มีการฟื้นตัวของธุรกิจหลักของบริษัท ในขณะที่ยังคงมีการลงทุนซื้อเรือใหม่และการลงทุนในกิจการอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า อันจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวสูงเกินกว่า 3.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำและเมื่อมีความต้องการใช้อันดับเครดิตภายในประเทศ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ ในการจัดอันดับเครดิตฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม Corporate Rating Methodology ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2553 และ National Ratings- Methodology Update ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2549 หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวหาได้ที่ www.fitchratings.com การใช้อันดับเครดิตที่จัดทำโดยฟิทช์เรทติ้งส์มีข้อจำกัดและขอบเขตการใช้ ซึ่งข้อจำกัดและขอบเขตของการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวสามารถหาได้จาก HTTP://FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ