MOVIE: กะปิ

ข่าวบันเทิง Friday November 5, 2010 14:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม เรื่องราวชวนป่วนสุดหฤหรรษ์ของคู่กัดไซส์มินิแต่จิตใจโคตรจะบิ๊กเบิ้ม เมื่อ 2 อริตัวแสบ แห่งหมู่บ้านทิวมะพร้าว ต้องร่วมฝ่าวิบาก กับภารกิจสุดเซี้ยวและการแข่งขันแห่งศักดิ์ศรี โดยมีบ้านเป็นเดิมพัน หนึ่งเด็กแสบวัยกำลังห้าว ต้องร่วมแทคมือกับ หนึ่งลิงห้าววัยกำลังซน กับปฏิบัติการสร้างความน่ารักสดใสสไตล์ เด็ก-จ๋อ จากบทหนังที่ส่งเข้าประกวดกว่า 900 เรื่อง คัดสรรแบบสุดเขี้ยวจนเหลือ 15 เรื่องสุดท้าย ในโครงการไทยแลนด์ สคริป โปรเจ็กต์ ของอุ๋ย นนทรีย์ และต้อมเป็นเอก สู่ภาพยนตร์แนวหรรษา เปื้อนรอยยิ้ม อิ่มด้วยความประทับใจ กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ภาพยนตร์ กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว กำหนดฉาย 2 ธันวาคม 2553 แนวภาพยนตร์ คอมเมดี้ บริษัทผู้สร้าง-จัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทดำเนินงานสร้าง บาแรมยู อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ควบคุมงานสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว ,สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ ประสานงานสร้าง ธนนพ ไพบูลณ์ ดำเนินงานสร้าง ศิตา วอสเบียน กำกับภาพยนตร์ นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ บทภาพยนตร์ นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ เรื่อง นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ กำกับภาพ นิกร ศรีพงศ์วรกุล กำกับศิลป์ อนิรุตน์ จิตร์สมนึก ลำดับภาพ นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ , ศนิพงศ์ สุทธิพันธุ์,มานุสส วรสิงห์,วิชิต วัฒนานนท์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย นิรชรา วรรณาลัย ฟิล์มแลบส์ บริษัท โอเรียนทัลโพสท์ จำกัด บันทึกเสียง บริษัท กันตนาแลบบอราทอรี่ส์ จำกัด ดนตรีประกอบและออกแบบเสียง สุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ นักแสดงนำ ริชาร์ด เกียนี่,สุเทพ โพธิ์งาม,ภาวิณี วิริยะชัยกิจ, ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์,สุดารัตน์ บุตรพรม,ปดลเดช กมลาศัยกุล,เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา,อาคม ปรีดากุล,อเนก อินทจันทร์ ถึงเพื่อนๆ ทุกคน สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมชื่อต๋อง (ริชาร์ด เกียนี่) อายุ 10 ขวบ ผมเป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่กับลุงมิ่ง (เทพ โพธิ์งาม )แค่ 2 คน มีอาชีพเก็บมะพร้าวขาย ใครๆ ในหมู่บ้านก็รักลุงมิ่งของผมทั้งนั้นแหละ เพราะแกเป็นคนใจดี อ่อ...ผมลืมแนะนำเพื่อนรักของผมอีก 1 ตัว ที่ต้องใช้คำว่าตัวเพราะมันเป็นลิงชื่อว่า กะปิ (ไข่เล็ก) ใครๆ อาจจะมองว่ามันเป็นลิงฉลาดแสนรู้ แต่สำหรับผมแล้วมันแสบพอตัวเลยทีเดียว ไม่ค่อยเชื่อฟัง เรียกว่าเป็นคู่กัดประจำบ้านเลยก็ว่าได้ นอกจากกะปิแล้วที่โรงเรียนผมมีคู่ปรับที่เป็นคน มันชื่อว่าไอ้เก่ง (ปดลเดช กมลาศัยกุล) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้ใหญ่จั๊บผู้มีอิทธิพลของหมู่บ้านเรา วันๆ มันก็ไม่ค่อยทำอะไรนอกจากชอบท้าผมแข่งนั่น แข่งนี้อยู่เสมอ ไอ้ผมมันก็บ้าจี้ ใครท้าอะไรเป็นไม่ได้ ยังดีมีลุงมิ่งที่คอยเตือนสติให้ผมลดความห่ามลงไปบ้าง ส่วนพ่อของมันก็ร้ายกาจไม่เบา จะเอาที่ดินและบ้านของผมกับลุงมิ่งไปสร้างเป็นกังหันลมให้แก่พวกนายทุนหน้าเงิน แน่นอนใครจะไปยอม ยิ่งลุงมิ่งเป็นคนสมถะและรักบ้านเกิดจะตาย แกไม่ยอมย้ายไปไหนง่ายๆ หรอก ชีวิตของลุงมิ่ง ผมและเจ้ากะปิดำเนินไปอย่างเรียบง่ายโดยอาศัยสวนมะพร้าวเพื่อยังชีพอย่างพอเพียง ในขณะที่ผู้คนในท้องถิ่นส่วนใหญ่ต่างมากล้นไปด้วยน้ำจิตน้ำใจและมีความเป็นอยู่โดยพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ว่จะเป็นหมอประจำโรงพยาบาล (หม่ำ จ๊กม๊ก) นางพยาบาลแมว (ตุ๊กกี้ชิงร้อย) รวมไปถึงเจ้าอาวาส (ค่อมชวนชื่น) ที่ทุกคนล้วนต่างมองโลกในแง่ดีเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งอยู่ๆ ลุงมิ่งแกล้มป่วยลงจนทำให้พี่หงษ์ (มิลค์ ภาวิณี วิริยะชัยกิจ) สัตวแพทย์คนสวยประจำหมู่บ้านต้องเข้ามาช่วยดูแลผมกับเจ้ากะปิ แต่ขอเตือนไว้ก่อน ใครก็ตามอย่าคิดจีบพี่หงษ์เชียวนะ เพราะพี่กานต์ (เป้ ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์) แฟนของแกเป็นถึงข้าราชการ ในกรมที่ดิน ที่เข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อหาทางจัดตั้งกังหันลมที่หมู่บ้านของเราเชียวนะ แถมยังทั้งหวงและห่วงพี่หงษ์จะตาย ถึงแม้ลุงมิ่งจะป่วยอยู่ แต่พวกนายทุนและผู้ใหญ่จั๊บยังไม่ลดละความพยายามที่จะครอบครองที่ดินของลุงมิ่ง ถึงขนาดวางแผนที่จะฮุบที่ดินของแก โดยท้าให้ผมกับเจ้ากะปิลงแข่งปีนเก็บลูกมะพร้าว โดยมีบ้านและที่ดินของลุงมิ่งเป็นเดิมพัน ยิ่งได้ข่าวว่าผู้ใหญ่จั๊บได้ลิงมาใหม่ ความสามารถไม่แพ้เจ้ากะปิซะด้วย ไอ้ผมกับเจ้ากะปิยิ่งไม่ยอมให้ใครมาท้าง่ายๆ อยู่แล้ว แต่ทางเดียวที่จะเอาชนะการแข่งครั้งนี้ผมจะต้องชนะใจเจ้ากะปิ ลิงหน้าขนเพื่อนรักของผมให้ได้ก่อน แต่มันก็ไม่ง่ายซะทีเดียว ก็เจ้ากะปิทั้งแสบ และซนขนาดนั้น ส่วนการแข่งครั้งนี้จะออกหัวหรือก้อย ฝากเพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยให้กำลังใจผมด้วยนะครับ ในภาพยนตร์เรื่อง กะปิ...ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว รักเสมอจาก ต๋อง คาแรกเตอร์ ต๋อง รับบทโดย ริชาร์ด เกียนี่ ผมชื่อต๋องครับผมกำพร้ามาตั้งแต่จำความได้ อาศัยอยู่กับลุงมิ่งและเจ้ากะปิ ใครๆ ก็หาว่าผมเป็นเด็กดื้อเงียบ ไม่ค่อยยอมคน แต่ถึงแม้ผมจะแสบจะซนแต่ก็เป็นที่รักใคร่และเอ็นดูของทุกๆ คนในหมู่บ้านนะครับ ริชาร์ด เกียนี่ นักแสดงเด็กมากความสามารถ ที่เริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 4 ขวบ มีผลงานทั้งละคร,โฆษณา และภาพยนตร์ ประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักและชื่นชอบจากแฟนๆ โด่งดังเป็นพลุแตกจากละครโทรทัศน์เรื่อง ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ในบทของไอ้ปื้ดทางช่อง 3 ผลงานที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง 4 สิงห์ คอนเฟิร์ม, ละครอเวจีสีชมพู, ละครศัตรูคู่ขวัญ, ละครเพื่อนซ่าส์เทวดาจิ๋ว, ละครผู้ใหญ่ลีกับนางมา, ละครหวานใจยัยต่างด่าว, ซิทคอมมหาชนชาวแฟลต ปี 3, ละครหลวงตามหาชน ลุงมิ่ง รับบทโดย เทพ โพธิ์งาม ส่วนลุงคนนี้ก็คือลุงมิ่ง ลุงที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เด็กๆ นิสัยของแกก็เป็นคนที่สมถะ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้าน รักถิ่นฐานบ้านเกิดยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น เทพ โพธิ์งาม ศิลปินตลก นักร้อง พิธีกร นักแสดง และ ผู้กำกับ มีผลงานในวงการบันเทิงมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานมาตลอด 30 ปี ผลงานภาพยนตร์ (ยุคปัจจุบัน): มือปืน โลก/พระ/จัน (2544), พันธุ์ร็อคหน้าย่น (2547), ขุนกระบี่ ผีระบาด (2547), พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า (2548), เมล์นรก หมวยยกล้อ (2550), หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย (2551), โป๊ะแตก (2553), กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว (2553) หงษ์ รับบทโดย ภาวิณี วิริยะชัยกิจ ส่วนคนนี้คือพี่หงษ์ พี่เขาเป็นสัตวแพทย์ คอยเข้ามาตรวจร่ายกายเจ้ากะปิอยู่บ่อยๆ สนิทกับที่บ้านของผมเป็นอย่างมาก พี่หงษ์เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ เป็นคนที่นิสัยดี แกรักและเอ็นดูผมเหมือนเป็นน้องแท้ๆ เลยทีเดียว มิลค์ ภาวิณี วิริยะชัยกิจ นักแสดงสาวรุ่นใหม่ที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง ฝันโคตรๆ ของผู้กำกับ พิงลำพระเพลิง เคยเป็นหนึ่งในนักแสดงรุ่นใหม่จากรายการซิทคอมสุดฮิตต่อเนื่องกว่า 10 ปี อย่างระเบิดเทิดเทิง ผลงานที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่องฝันโคตรๆ (2552), รายการระเบิดเทิดเทิง, ซิทคอมรักล้นล้น 9 คน 4 คู่, มิวสิควีดีโอเกลียดเพลงรัก ของ Pancake และ พีธีกรรายการอินส์ไพร์เรชั่นทิบ กานต์ รับบทโดย ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ คนนี้คือพี่กานต์ แฟนหนุ่มสุดหล่อของพี่หงษ์ พี่กานต์มีอาชีพเป็นข้าราชการเล็กๆ ในกรมที่ดิน ใครๆ ก็รู้ว่าพี่กานต์นั้นรักพี่หงษ์เป็นอย่างมาก พี่กานต์เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นคนที่จิตใจดีเหมือนกันนะ เป้ ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ นายแบบ พระเอกโฆษณา และเป็นดีเจประจำยู่ที่คลื่น ชิลล์ 89.00FM. มีผลงานแจ้งเกิดจากจากโฆษณาเบียร์ช้าง ในมาดนักอนุรักษ์ ผลงานที่ผ่านมา โฆษณาเบียร์ช้าง, โฆษณาไอวี่คอนโด, โฆษณาลิโพ, มิวสิควีดีโอ ถ้าทั้งใจยังไม่พอ ของมด กัลยา, มิวสิควีดีโอ ไม่ใช่ฉันใช่ไหม ของเสกโลโซ แมว รับบทโดย สุดารัตน์ บุตรพรหม นี่คือพี่แมว เป็นเพื่อนสนิทของพี่หงษ์ แกเป็นนางพยาบาล เขาว่ากันว่าสวยและเสน่ห์แรงที่สุดในหมู่บ้านนี้แล้ว ถึงขนาดมีหนุ่มๆ มาตามจีบพี่แมวถึงโรงพยาบาลหลายต่อหลายคน ก็อย่างว่าหน้าตาแกออกจะสวยซะขนาดนี้ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน ตลกสาวระดับแถวหน้าคนหนึ่งของวงการ มีผลงานมากมายให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานภาพยนตร์ ซิทคอม โฆษณา และงานพิธีกร ผลงานที่ผ่านมา ภาพยนตร์ แหยมยโสธร1, แต๋วเตะตีนระเบิด, วงษ์คำเหลา, หอแต๋วแตก...แหกกระเจิง, แหยมยโสธร 2, โป๊ะแตก, ตุ๊กกี้ เจ้าหญิงขายกบ, สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก, ซิทคอม แฟกทอรี่ที่รัก, ซิทคอม วงษ์คำเหลาเดอะซีรี่ส์, รายการชิงร้อยชิงล้าน, รายการตลกหกฉาก, รายการล้วงลับตับแตก กะปิ รับบทโดย ไข่เล็ก และสุดท้ายนี่ก็คือเจ้ากะปิ เป็นทั้งเพื่อนและสัตว์เลี้ยงตัวแสบของผม คอยซนและตามป่วนผมอยู่เป็นประจำ แต่ผมว่ามันก็น่ารักดีนะ ฉลาดแสนรู้ และที่สำคัญมันคือเพื่อนแท้ของผมเลยแหละ ไข่เล็ก ลิงกังเพศผู้อายุ 8 ขวบ เป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์โฆษณาและนักแสดง มีผลงานแสดงทางด้านภาพยนตร์มากมายทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นลิงที่มีความสามารถหาตัวจับยาก มากที่สุดตัวหนึ่ง ผลงานที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง ทูมไรเดอร์, ภาพยนตร์เรื่อง 80 วันจารกรรมฟัดข้ามโลก, โฆษณากระบะ ทาทามอเตอร์, ละคร มัสยา เกร็ดภาพยนตร์ จากความแจ๋วของบทภาพยนตร์ สู่เรื่องจ๋อ...บนแผ่นฟิล์ม กังฟู นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ หนุ่มช่างฝัน ช่างคิด ช่างเขียน มีเป้าหมายในชีวิตคือเป็นนักเล่าเรื่องด้วยภาพ หรือผู้กำกับภาพยนตร์ ด้วยความเป็นคนที่มีเรื่องราวมากมายอยากจะเล่าให้คนอื่นได้รู้ โดยเริ่มต้นจากการบันทึกเรื่องราวลงบนไดอารี่ส่วนตัว ในระหว่างที่เป็นนักศึกษากังฟูได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่เขาเขียนออกมาเป็นหนังสั้นมากมาย ซึ่งแต่ละผลงานล้วนบ่งบอกถึงความสามารถและสะท้อนมุมมองของการเป็นนักเล่าเรื่องที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพยนตร์สั้นแต่ละเรื่องสามารถคว้ารางวัลหนังสั้นได้จากหลากหลายเทศกาล ไม่ว่าจะเป็น หญิงชรากับนิทานวันหนึ่ง ได้รับรางวัล รางวัลขุนวิจิตรมาตรา หนังสั้นเรื่อง น้ำแข็งใส ได้รางวัลชนะเลิศ โครงการหนังสั้นฤดูร้อนของโซนี่ ในรายการที่นี้ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีหนังสั้นเรื่อง ผงชูรส ที่ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมในเทศกาลระดับนานาชาติอย่าง International filmfestival Rotterdam 2006 และยังมีผลงานอื่นๆ อีกมากมาย หลังจากนั้นเขายังมีโอกาสได้เข้าไปเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ 2 ในภาพยนตร์ไทยคุณภาพอย่างรักแห่งสยามของผู้กำกับไฟแรง มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล โดยที่นี่ทำให้กังฟูได้ซึมซับและสัมผัสหน้าที่ของผู้กำกับอย่างใกล้ชิด ได้เรียนรู้ถึงหัวใจของภาพยนตร์ซึ่งมีบทหนังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำหนังประสบความสำเร็จได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้เขามุ่งมั่นกับการเขียนบทภาพยนตร์อย่างจริงจังเรื่อยมา “จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมอยากเป็นผู้กำกับเพราะผมเป็นคนชอบเล่าเรื่อง แต่เป็นคนที่เล่าไม่ค่อยเก่ง ก็เลยใช้วิธีเขียนเอา เขียนเป็นไดอารี่เก็บไว้เรื่อยๆ จนมันเยอะมาก เลยอยากที่จะเอามาเล่า แล้วนิสัยเป็นคนชอบดูหนังด้วย เลยทำให้อยากรู้ว่าถ้าเป็นหนังของเราเองแล้วเราจะเล่าแบบไหนนะ วันนึงก็ตัดสินใจเรียนภาพยนตร์ ซึ่งระหว่างที่เราเรียนเราได้ทำหนังสั้นส่งเข้าประกวด ทั้งเขียนเรื่องเอง กำกับเองและมีเพื่อนๆ คอยช่วย ซึ่งมันก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง หนังเราก็ได้รางวัลมา มันทำให้เรารู้ว่าผลงานของเรามันมีคนได้เห็นได้ชมนะ กลายเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง แล้วหลังจากเรียนจบก็รู้สึกร้อนวิชาอยากทำงานภาพยนตร์ก็เลยได้ไปเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ 2 จากเรื่องรักแห่งสยามของพี่มะเดี่ยว ได้เข้าไปคลุกคลีในกองถ่าย สัมผัสหน้าที่ของผู้กำกับ ทำให้รู้เลยว่าคนที่จะเป็นผู้กำกับได้ต้องมีความสามารถจริงๆ พอจบจากรักแห่งสยามผมจึงออกมาทำงานข้างนอกเป็นโปรดิวเซอร์ผลิตรายการแห่งหนึ่งทางเคเบิ้ลทีวี แต่ก็ยังคงเขียนเรื่องราวเขียนบทภาพยนตร์เก็บไว้อยู่ตลอดเวลา” ด้วยความที่เป็นคนช่างคิดช่างเขียนทำให้ผู้กำกับหนุ่มยังคงเขียนบันทึกเก็บเรื่องราวสะสมไว้ต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จุดประกายพล็อตหนังอันอบอุ่นอย่างกะปิก็เกิดขึ้น ในระหว่างที่กำลังขับรถกลับจากสุราษฎร์ธานีได้เห็นความน่ารักของลิงที่ยืนเกาะลูกกรงอยู่ท้ายรถกระบะเข้าโดยบังเอิญ โดยรายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของป่ามะพร้าว เมื่อกลับถึงบ้านจึงเขียนพล็อทเรื่องราวที่เกี่ยวกับลิงขึ้นมาและเพิ่มความน่ารักความสนุกสนานเข้าไปอีก เมื่อลิงซนต้องมาเป็นเพื่อนกับเด็กแสบพร้อมกับการผจญภัยและภารกิจอันยิ่งใหญ่ จากจุดเริ่มต้นสุดแสนธรรมดาบวกกับจินตนาการของคนช่างฝัน ท้ายที่สุดจึงกลายมาเป็นพล็อตหนังเรื่องกะปิโดยที่หารู้ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตที่กลายมาเป็นภาพยนตร์ที่เขาต้องรับหน้าที่ในฐานะผู้กำกับในเวลาต่อมา เมื่อเขาได้มีโอกาสส่งบทภาพยนตร์เรื่องกะปิเข้าร่วมใน Thailand script project 2007 ซึ่งจัดขึ้นโดยสองผู้กำกับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง เป็นเอก รัตนเรือง และ นนทรีย์ นิมิบุตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาบทภาพยนตร์ที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศ แล้วในโครงการนี้เองที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ทางด้านภาพยนตร์ของกังฟูให้กว้างมากยิ่งขึ้น “คือหลังจากที่ผมได้อ่านข้อมูลของโครงการ Thailand script project ผมว่ามันน่าสนใจมากเพราะมันมีโอกาสที่จะได้พบปะกับคนทำหนังจริงๆ คือผมเองเรียนภาพยนตร์มาความฝันสูงสุดก็อยากจะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ซึ่งในโครงการนี้มันก็มีโอกาสที่จะสานฝันของเราได้ คือเขาจะคัดเหลือ 40 เรื่อง แล้วจะได้ร่วมอบรมสัมนากับวิทยากรในวงการหนังเก่งๆ และมีชื่อเสียงหลายท่าน ซึ่งบทหนังของผมก็เข้ารอบ 40 เรื่องสุดท้ายจริงๆ หลังจากนั้นก็ได้มาเวิร์คช็อปกัน ได้เจอพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พี่เก้ง-จิระ มะลิกุล, พี่ต้อม เป็นเอก, พี่อุ๋ย นนทรีย์ คือเจอแต่คนเก่งหลายๆ คนที่เราชอบ ได้ฟังวิธีคิดเขาการเขียนบท การเสนอบทให้กับค่ายหนัง ว่ามันมีอะไรบ้าง เราจะเขียนบทให้ไปในทิศทางไหน ปรับบทที่มันมีอยู่แล้วให้มันดีขึ้นมาได้อย่างไร สุดท้ายก็เลยได้ฟังแล้วก็นำทุกอย่างมารวบรวมแล้วเขียนเป็นTreatment เพื่อส่งให้เหลือ 15 เรื่อง สำหรับผมเข้ารอบ 40 เรื่องเราก็ดีใจแล้วครับ อย่างน้อยเราก็ได้รู้วิธีการเขียนบทว่าต้องเขียนอย่างไรบ้าง แล้วผลออกมาว่าเข้ารอบ 15 คนสุดท้ายมันก็ดีใจขึ้นไปอีก มันก็ใกล้ความฝันเรามากขึ้นไปอีก เพราะการจะได้เจอนายทุนแต่ละคน ได้เจอคนที่สนใจในบทของเราเพื่อจะเอาไปเสนอผู้สร้างอีกทีหนึ่ง คือถ้าเราจะเข้าไปเขาคงยาก แต่นี่เขาก็ส่งบททั้ง 15 เรื่องไปให้กับผู้สร้างทุกคน โปรดิวเซอร์ทุกคนได้อ่าน ก็รู้สึกดีใจ” หลังจากผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของโครงการ และถูกส่งบทภาพยนตร์ไปให้กับผู้สร้างรวมถึงโปรดิวเซอร์จากหลากหลายค่ายไปพิจารณาเพื่อนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ในที่สุด กะปิ ก็ไปโดนใจ ปรัชญา ปิ่นแก้ว สุดยอดผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ ที่สร้างผลงานหนังไทยให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย อาทิ องค์บาก,ต้มยำกุ้ง และ ช็อคโกแลต และรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์ไทยคุณภาพอย่างมากมายเช่น นาคปรก โดยคว้ามาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกจากโครงการนี้ อีกทั้งยังรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ “กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว” จนกลายมาเป็นภาพยนตร์แนวอบอุ่นให้กับสหมงคลฟิล์มอีกด้วย ซึ่ง ปรัชญา ปิ่นแก้วได้พูดถึงเสน่ห์ของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ต้องจับมาขึ้นบนแผ่นฟิล์มว่า “กะปิเป็นหนังครอบครัว เป็นหนังที่พูดถึงความผูกพันของชีวิตผู้คนริมทะเลที่ต้องผูกพันกับลิงกับมะพร้าว หรือผูกพันในภาคอาชีพของคนแถวนั้น และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเรื่องราวที่น่ารักๆ พอถ่ายทอดผ่านนักแสดงอย่างป๋าเทพ ตุ๊กกี้ และริชาร์ด ซึ่งเขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ และบวกกับการได้ลิงแสนรู้ มันก็ยิ่งเป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังดูน่ารัก ดูเป็นหนังอบอุ่นครอบครัวได้ และมีคติบางอย่างที่สอนใจคนดูได้อีก แล้วเรื่องนี้เราเปิดโอกาสให้เจ้าของไอเดีย คุณกังฟู มากำกับผลงานของตัวเองด้วย เพราะเขาเป็นคนที่มีความเข้าใจในการทำหนังเป็นอย่างดี เขาคิดอย่างไรกับหนังเขาก็สื่อได้อย่างชัดเจน แล้วเป็นเรื่องแรกของเขาซึ่งเล่นของยากเลยไม่ว่าจะเป็นการกำกับลิง การกำกับสัตว์มันก็ยากอยู่แล้ว แต่เป็นลิงมันก็ยิ่งหนักเข้าไปอีกแล้วเขาต้องไปทำงานร่วมกับเด็กอย่างริชาร์ด และนักแสดงมืออาชีพอย่างป๋าเทพ ซึ่งเป็นนักแสดงที่เก๋า แล้วยังมีนักแสดงคนอื่นๆ อย่างมิลค์และตุ๊กกี้ การผสมทุกอย่างให้ลงตัวต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่กังฟูเขาพิสูจน์ให้ผมเห็นตอนทำงาน เพราะเขาทำได้อย่างที่ต้องการ ตามบทที่เขียนเป็นอย่างดี เขาเป็นอีกคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเด็กไทยรุ่นใหม่ๆ นั้นเก่งเยอะ และทำได้ ผมรู้สึกเลยว่าหนังมันต้องออกมาอบอุ่นน่ารัก มีรอยยิ้ม ฉะนั้นตัดสินใจไม่ยากเลยว่าต้องทำหนังเรื่องนี้แล้วมั่นใจว่ากังฟูต้องเป็นคนทำหนังเรื่องนี้ แล้วเขาก็ทำได้ดีจริงๆ” ซึ่ง อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร หนึ่งในคณะกรรมการและเจ้าของโครงการไทยแลนด์สคริปโปรเจ็กต์ก็ได้พูดถึงความพิเศษของบทภาพยนตร์ในเรื่องนี้ที่สามารถพิชิตใจคณะกรรมการได้ว่า “ผมว่าจุดเด่นของหนังเรื่องกะปิ มันเป็นความกล้าหาญของคนเขียนบท ที่จะนำเสนอเรื่องราวมิตรภาพความผูกพันระหว่างเด็กกับสัตว์มานำเสนอ ซึ่งเราก็ไม่ได้เห็นบ่อยนักในวงการหนังไทย แล้วโดยเฉพาะลิงมันก็เป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานทางผมและคณะกรรมการที่ร่วมตัดสินจะรู้สึกถึงความกล้าหาญของตัวบท ซึ่งกังฟูได้พยายามที่จะนำเสนอ ทั้งเรื่องราวของมิตรภาพระหว่างเด็กกับสัตว์ ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการที่มนุษย์ต้องการความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นโดยการพึ่งพาเทคดนโลยีมากเกินไปโดยที่ไม่ได้ใส่ใจกับธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันอาจจะเกิดปัญหาขึ้นเกี่ยวกับโลกของเราในอนาคตก็เป็นได้ แล้วทางกังฟูเขาเขียนบทออกมาให้ทางเราอ่านแล้วรู้สึกว่ามันสนุก มันเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวต่างๆ กับเหตุการณ์และตัวละครในเรื่อง มติของคณะกรรมการทุกคนพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้มีหนังไทยแบบนี้เกิดขึ้นเยอะๆเป็นหนังที่ดูแล้วอบอุ่นสนุกและได้สาระความบันเทิงมากมาย ยังก็ฝากหนังเรื่องกะปิไว้ด้วยครับ มันก็เป็นหนังที่มีการกลั่นกรองมาจากโครงการไทยแลนด์สคริปโปรเจ็กต์ โดยคณะกรรมการต่างๆ ที่ร่วมกันตัดสิน ซึ่งเรากลั่นกรองกันอย่างหนักจริงๆ ซึ่งกะปิก็ใกล้ที่จะลงจอให้ได้ชมกันแล้ว ผมว่ามันจะเป็นหนังในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะนำเสนอแก่คนดู และด้วยความคิดความอ่านความสดใหม่ของคนที่ทำผมว่าเป็นหนังดีอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่น่าพลาดแน่นอนครับ” รวมนักแสดงสุดเจ๋ง มาร่วมจ๋อ...แบบหรรษา สำหรับภาพยนตร์เรื่องกะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ถือเป็นหนังไทยแนวคอเมดี้ที่มีหลากรส หลายอารมณ์ให้คนดูได้สนุกสนานกันอย่างเต็มอิ่มตลอดการชม โดยเป็นการนำเสนอผ่านความรักความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ เด็กกับลิง และจิตสำนึกของคนในการรักถิ่นฐานบ้านเกิด ท่ามกลางบรรยากาศอันเรียบง่ายของผู้คนริมทะเล โดยมีทิวมะพร้าวและน้ำทะเลเป็นฉากหลัง ผ่านความน่ารักของตัวละครระหว่างเด็กกับลิง โดยผู้กำกับกังฟู นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ ต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอนในกระบวนการถ่ายทำ โดยเริ่มตั้งแต่การเฟ้นหา 2 ตัวละครสำคัญของเรื่องที่จะมารับบทต๋องและเจ้ากะปิเพื่อถ่ายทอดความแสบความซนและความหรรษา ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญและสิ่งที่ต้องคำนึงก่อนเป็นอันดับแรกของหนังเรื่องนี้ เพื่อคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของภาพยนตร์ ให้ได้มากที่สุด โดยเริ่มจาก ต๋อง ซึ่งถือเป็นตัวละครที่สำคัญ และทางผู้กำกับได้ตั้งสเป็กของตัวละครตัวนี้ไว้ค่อนข้างสูง เพราะถือเป็นตัวละครที่ต้องขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมดของหนัง และที่สำคัญนี่คือคาแรกเตอร์ของเด็กอายุ 10 ขวบในเรื่อง การที่จะหานักแสดงอายุ 10 ขวบมารับบทนำและต้องพาคนดูไปพบเจอกับเรื่องราวต่างๆ สามารถทำให้ผู้ชมอินไปกับตัวละครและสถานการณ์นั้นๆ ได้ ถือเป็นโจทย์ตัวละครที่ยากที่สุดและไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สิ่งที่คนดูจะได้เห็นการนำเสนอของตัวละครตัวนี้มันต้องออกมาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่ตัวละครที่มีแค่อารมณ์เดียว เพราะมันจะมีทั้งพาร์ทของดราม่า ความเสียใจ ความผิดหวัง ความท้อแท้ อย่างฉากไฮไลท์สำคัญที่ต้องสูญเสียลุงมิ่งซึ่งถือเป็นญาติคนเดียวในชีวิตไปจากอาการป่วย ซึ่งการแสดงต้องสื่อให้คนดูเข้าใจถึงความรู้สึกที่ตัวละครนี้กำลังเผชิญอยู่ให้ได้ จนต้องรู้สึกสงสาร อยากเอาใจช่วยหรือให้กำลังใจเขาให้ได้ หรือพาร์ทความน่ารัก ความทะเล้น ที่ต้องแสดงออกมาให้เป็นธรรมชาติเหมาะสมกับวัยจนคนรอบข้างหรือไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นต้องหลงเสน่ห์กับความน่ารักสดใสของเด็กคนนี้ไปตามๆ กัน รวมถึงความสามารถทางด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงที่ต้องเข้าขากับไข่เล็ก การพายเรือ ว่ายน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนักแสดงที่มารับบทนี้ก็ได้แก่ ริชาร์ด เกียนี่ ดาราเด็กมากความสามารถ และยังถือเป็นนักแสดงที่ผู้กำกับตั้งใจจะให้มารับบทนี้ตั้งแต่เขียนบทภาพยนตร์อีกด้วย “คือช่วงระหว่างที่ผมเขียนบทหนังเรื่องกะปิ ผมมีตัวเลือกไว้ในใจอยู่ว่าคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะมารับบทต๋องได้ก็คือ ริชาร์ด เกียนี่ เท่านั้นคือผมเคยชมผลงานเคยเห็นการแสดงของเขา สำหรับผมเขาค่อนข้างที่จะเป็นเด็กพิเศษคือตัวริชาร์ดมันมีเสน่ห์ตรงที่เขาร่าเริงด้วยและก็เศร้าด้วยในเวลาเดียวกันได้ เวลาเล่นเขาเหมือนจะคิดอะไรไปด้วยอยู่ตลอด ไม่ว่าจะแสดงความรู้สึกทางสีหน้าหรือแววตา ซึ่งมันเป็นคาแรกเตอร์ของต๋องจริงๆ ตอนแรกเราว่าจะแคสเด็กใหม่มา แต่ว่าทางผู้ใหญ่เขาเสนอมาว่า ริชาร์ดเขาก็น่าสนใจนะ ซึ่งมันก็ตรงใจเราอยู่แล้วด้วย ก็เลยเอาริชาร์ดเลย แล้วพอได้เจอได้นั่งคุยกับเขาเราก็ได้เห็นถึงตัวตนความเป็น ริชาร์ดมากขึ้น ซึ่งพอได้ร่วมงานกันแล้วบอกเลยว่าเราค่อนข้างโชคดี ทั้งในเรื่องความสามารถของเขา เขาเป็นนักแสดงที่ตีบทแตกได้เก่ง ไม่ว่าจะอารมณ์สนุกสนาน กวน หรือว่าดราม่า และตัวต๋องในเรื่องคือมันต้องรับบทหนัก เพราะมันต้องแบกรับเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกฉากที่สำคัญต้องมีตัวละครตัวนี้ออกมาตลอด และสปิริตในการทำงานของเขายอมรับว่าดีมาก คือบางวันเราถ่ายกันจนถึงตี 3 แต่เด็กคนนี้ยังมีพลังในการทำงานให้กับเราอยู่ เด็กทั่วไปมันเป็นเวลานอนแล้ว แต่สำหรับริชาร์ด เขาก็มีนอนบ้าง แต่ถึงเวลาปลุกมาเข้าฉากเขาก็ไม่มีงอแง ฟังผู้กำกับบรีฟ และยังมีสมาธิในการแสดงได้อย่างดีเยี่ยมครับ” และยังมีอีกหนึ่งตัวละครหลักที่สำคัญ ถือเป็นเพื่อนคู่หูข้างกายของพระเอกตัวน้อยที่จะปรากฎกายพร้อมกับต๋องเสมอซึ่งก็คือกะปิ โดยคาแรกเตอร์ที่ทางผู้กำกับได้วางเอาไว้ต้องมีความฉลาดและความสามารถมากกว่าลิงโดยทั่วไป ซึ่งในแต่ละฉากที่โผล่หน้ามาต้องมีความน่ารักแสนรู้มาอวดโฉมคนดูอยู่เสมอ อย่างเช่นซีนนั่งทานอาหารถึงขนาดนั่งขัดสมาธิจับช้อนตักนมป้อนใส่ปากได้อย่างเรียบร้อยกว่าลิงธรรมดา อีกทั้งยังเล่นได้เข้าขากับ ริชาร์ด เกียนี่ อีกด้วย ทางทีมงานต้องตระเวณเฟ้นหาลิงที่เหมาะสมกับตัวละครและที่สำคัญที่สุดต้องมีนิสัยไม่ดุร้ายทำร้ายเพื่อนนักแสดง จนมาลงตัวที่ ไข่เล็ก ลิงกังชื่อดังแสนรู้จากเกาะสมุย ที่ปัจจุบันเปิดโชว์ความสามารถให้กับเหล่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับชมอยู่ที่โรงเรียนสอนฝึกลิง เกาะสมุย บ่อผุด ซึ่งดีกรีความสามารถของมันก็ไม่ธรรมดา เคยผ่านงานแสดงทั้งละคร ภาพยนตร์ และ โฆษณา ซึ่งความสามารถของมันยังได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น 80 วันจารกรรมฟัดข้ามโลกที่มีโอกาสกระทบไหล่ดารานักบู๊ซุปเปอร์สตาร์จากเอเชียอย่าง เฉินหลง หรืออีกหนึ่งภาพยนตร์ดังเรื่อง ทูมไรเดอร์ กับนักแสดงสาวซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการภาพยนตร์อย่าง แองเจลิน่า โจลี่ โดยเรื่องนี้เจ้าไข่ยังได้โชว์ความสามารถทางการแสดงอย่างเต็มที่จุใจคนดูไม่ว่าจะเป็นส่วนของดราม่า สนุกสนาน แสบ กวน ซน จนทุกคนต้องเทใจให้กับมันอย่างแน่นอน “คือตัวละครของกะปิเราวางไว้ให้มันเป็นลิงที่ค่อนข้างฉลาดแสนรู้ เหมือนกับการที่ชาวบ้านคนนึงจะฝึกให้มันเป็นอย่างนี้ได้ อย่างแรกที่เราคำนึงถึงก่อนเลยในการที่จะเลือกให้ลิงซักตัวนึงมาเล่นหนังกับเรานั่นคือความดุร้าย คือมันต้องเชื่องพอสมควรไม่ทำร้ายเพื่อนนักแสดงไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แล้วต่อมาคือความสามารถของมัน ในการมารับบทกะปิ คือเราจะเห็นว่ากะปิมันเป็นลิงธรรมดา แต่มันก็ต้องมีความพิเศษของมันที่ทำให้เหนือกว่าตัวอื่นๆ เช่นปีนต้นมะพร้าวได้เร็ว ยืนสองขาเดินสองขาได้ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคน ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะหายากเหมือนกันนะสำหรับลิงแบบนี้ แต่พอดีเคยไปเที่ยวสุราษฎร์และได้ยินกิตติศัพท์ของไข่เล็ก็ก็็้ไ้มาพอสมควร ก็เลยไปดูตัว แล้วรู้สึกชอบเลย คือหนึ่งมันเชื่องมากเป็นลิงที่ไม่ดุร้ายเลย สามารถเล่นกับคนแปลกหน้าได้ ผลงานเขาก็ผ่านมาแล้วทั้งภาพยนตร์และโฆษณา เป็นลิงที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบมากสำหรับเราก็เลยเลือกเขามาเล่นเป็นกะปิ ซึ่งเรื่องนี้มันก็จะมีหลายซีนให้เขาได้แสดงความน่ารักออกมา แต่เราก็พยามคลุมโทนให้มันเป็นลิงธรรมดาที่สุด แต่เชื่อว่าคนดูได้เห็นแล้วจะทึ่งกับความสามารถของมันแน่นอน” กะปิ ยังร่วมด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ อย่างเทพ โพธิ์งาม มารับบทของลุงมิ่ง พร้อมบทบาทที่จะมาสร้างรอยยิ้มให้กับคนดูตามสไตล์เทพๆ อีกเช่นเคย ซึ่งเรื่องนี้ต้องมารับบทเป็นคนลุงผู้มีชีวิตความเป็นอยู่สุดแสนจะเรียบง่าย ยึดถือคติแห่งความพอเพียง ในการดำรงชีวิต ซึ่งก็มีสัตว์เลี้ยงตัวแสนรู้อย่าง เจ้ากะปิ คอยป่วนอยู่ข้างกาย คอยผนึกกำลังกันสร้างสีสันความหรรษาให้กับภาพยนตร์เรื่องกะปิ ซึ่ง ป๋าเทพ ได้พูดถึงหนังเรื่องนี้ว่า “เรื่องนี้ป๋าเองก็ยังคงมาเฮฮาเหมือนเดิม ก็เป็นบทบาทที่มันสนุกๆ อีกเช่นเคยเหมือนเรื่องที่ผ่านๆ มาคือด้วยความที่ป๋าเองก็เป็นตลก แล้วด้วยคาแรกเตอร์ของลุงมิ่งเขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างเฮฮาสนุกสนาน แล้วนิสัยของลิงที่เราเลี้ยงไว้มันก็ซนๆ ชอบป่วนคนรอบข้าง อย่างป๋าเองในเรื่องเข้าฉากกับมันบ่อย มันก็จะคอยป่วนคอยซน คอยแกล้งกันตลอด เวลาที่เข้าฉากด้วยกันมันก็เลยดูสนุกสนาน เป็นภาพที่น่ารักดี ก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งสำหรับป๋าที่ดูมีสีสันดีมีทั้งความสนุกสนานรวมถึงมีความเป็นดราม่าหน่อยๆ ด้วยสำหรับป๋าในเรื่องนี้” นอกจากนี้ยังมีนักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงที่มาร่วมสร้างความสนุกสนานให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น นางเอกสาวอย่าง มิลค์ ภาวิณี วิริยะชัยกิจ ที่เรื่องนี้พลิกคาแรกเตอร์จาก เปิ้ล ดาราสาวสุดเปรี้ยวในภาพยนตร์โรแมนติก ดราม่าของผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง จากเรื่อง ฝันโคตรๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือ มารับบทเป็น หงษ์ สัตวแพทย์สาว จิตใจดี ผู้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตามภาษาชาวบ้านธรรมดา ซึ่งเรื่องนี้เรายังได้เห็นคาแรกเตอร์ของสาวมิลค์ที่ผู้กำกับตั้งใจจะให้มีความใกล้เคียงตัวตนจริงๆ ของเธอให้มากที่สุด ตัวละครของหงษ์ต้องเข้ามามีส่วนสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเธอมีความสนิทสนมกับบ้านของต๋องเพราะต้องเข้ามาตรวจร่างกายเจ้ากะปิอยู่บ่อยๆ ซึ่งก่อนที่ลุงมิ่งจะเสียชีวิตได้ฝากต๋องไว้ให้หงษ์ช่วยดูแล เธอต้องเข้ามาเป็นผู้ปกครองต่อจากลุงมิ่ง และช่วยปกป้องต๋องและบ้านของต๋องจากพวกนายทุนที่ต้องการมาครอบครองเพื่อนำไปเป็นพื้นที่ในการตั้งกังหันลม ซึ่งเธอได้พูดถึงคาแรกเตอร์ที่แตกต่างออกไปจากหนังเรื่องที่แล้วว่า “สำหรังหนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าแตกต่างจากหนังเรื่องฝันโคตรๆ โดนสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ หรือบรรยากาศการทำงาน อย่างคาแรกเตอร์ของเปิ้ลเขาจะเป็นสาวที่ค่อนข้างเปรี้ยว กล้าคิดกล้าแสดงออก คิดอย่างไรก็พูดออกมา เช่นจะมีฉากตบหัว ถ้าไม่พอใจก็แสดงความไม่พอใจ แล้วมันเป็นตัวละครที่ต้องเล่นถึง 2 วัยทั้งบทของวัยรุ่น และก็ผู้ใหญ่ แต่อย่างเรื่องนี้จะใกล้เคียงกับชีวิตจริงของเรามากที่สุด คือเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา เป็นคนที่จิตใจดี รักเด็ก รักความถูกต้อง แล้วอย่างฝันโคตรๆ คือนักแสดงมีกันอยู่แค่ 2 คนคือ มิลค์กับพี่พิง แต่เรื่องนี้มีนักแสดงค่อนข้างเยอะ แล้วแต่ละคนก็มีฝีมือกันทั้งนั้น แรกๆ มันก็จะมีเกร็งบ้าง ซึ่งเราก็กลัวว่าถ้าเกร็งแล้วผลงานมันจะออกมาไม่ดี เราก็เลยทำตัวให้สนิทกับทุกคนให้เร็วขึ้น เจอริชาร์ดก็จะเข้าไปแกล้งไปกวน อย่างผู้ใหญ่เราก็จะเข้าไปคุยด้วย ขอคำแนะนำ หรือว่าชวนคุยเรื่องอื่น ก็เป็นกองถ่ายที่มีบรรยากาศสนุกสนานดีค่ะ” ถึงแม้เรื่องนี้จะรับบทเป็นสาวสัตวแพทย์ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่มิลค์ต้องโชว์ฝีมือการแสดงอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเข้าฉากร่วมงานกับลิง ซีนดราม่า ซีนอารมณ์หรือประชันบทบาทกับเหล่านักแสดงรุ่นใหญ่หลายๆคน โดยเรื่องนี้สาวมิลค์ต้องมาประกบคู่กับพระเอกหนุ่มหน้าใหม่อย่าง เป้ ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยคุ้นหน้ามาจากโฆษณาของเบียร์ช้างกับมาดนักอนุรักษ์ และพระเอกเอ็มวีของนักร้องขาร็อกขวัญใจวัยรุ่นอย่าง เสก โลโซ ในเพลง ไม่ใช่ฉันใช่ไหม มาบ้างแล้ว ปัจจุบันเป็นดีเจหนุ่มอยู่ที่คลื่น Chill 89.00 fm เรื่องนี้ถือเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ซึ่งผู้กำกับก็ถูกอกถูกใจภาพลักษณ์มาตั้งแต่โฆษณาเบียร์ช้าง เพราะเป้เองยังไม่เคยเล่นหนังมาก่อน จึงกลายเป็นนักแสดงที่มีความสดใหม่สามารถเข้ามาสวมบทบาทของกานต์ได้อย่างลงตัว เรื่องนี้เป็นรับบทเป็นข้าราชการหนุ่มที่ต้องเข้ามาสำรวจถึงความเป็นไปได้ข้อดีข้อเสียในการตั้งกังหันลมในพื้นที่บ้านของต๋อง แถมยังมีนิสัยขี้น้อยใจ ซึ่งเป้ได้พูดถึงเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องกะปิว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องแรกของเป้ มันก็เป็นงานที่สนุกดีนะ ได้ร่วมงานกับทีมงานทุกคนที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นพี่กังฟูผู้กำกับ ซึ่งเป็นผู้กำกับที่มีฝีมือคนหนึ่ง เวลาพี่กังฟูกำกับแกจะเห็นภาพออกมาเลย ว่าซีนนี้จะออกมาเป็นอย่างไรแล้วเขาจะมาอธิบายให้เราฟัง ให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนซึ่งมันก็ก็ทำให้ง่ายขึ้นในการแสดง แล้วเรื่องแรกก็เจอแต่นักแสดงเก่งๆ ทั้งนั้นเลย อย่างป๋าเทพ น้องริชาร์ด นี่เขาเก่งกันอยู่แล้ว แล้วเรื่องนี้ผมเข้าฉากกับมิลค์บ่อย เขาก็จะคอยแนะนำเคล็ดลับการแสดงให้ผม ซึ่งก็เป็นเรื่องดีครับ ถือว่าทุกอย่างลงตัวสมบูรณ์มาก แล้วหนังเรื่องนี้ผมว่ามันเป็นหนังสนุกที่ดูง่าย ดูได้ทุกทุกวัยจริงๆ มีทั้งความน่ารักของตัวละคร และเรื่องราวที่สนุกสนานมีข้อคิดดีๆ เยอะแยะ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ” รวมถึงอีกสองนักแสดงที่ผู้กำกับภูมิใจนำเสนออย่างที่สุด โดยเริ่มจากสาวตุ๊กกี้ที่จะมาสร้างสีสันให้มีความสนุกสนาน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แค่เห็นหน้าก็เรียกเสียงฮาได้ลั่นโรง อย่าง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ ที่คราวนี้เธอขอสวมชุดพยาบาลสาวหว่านเสน่ห์ความงามที่ซ่อนอยู่ในตัว (ลึกๆ) ของเธอ ดีกรีความร้อนแรงของเธอก็ไม่ธรรมดาถึงขนาดมีหนุ่มหล่อ มาขายขนมจีบถึงเตียง (พยาบาล) ซึ่งเรื่องนี้เธอเองก็ขนมุกมาปล่อยอย่างไม่ยั้งถึงขนาดเพื่อนนักแสดงที่ร่วมเข้าฉากด้วยอย่าง ริชาร์ด เกียนี่ และมิลค์ ภาวิณี ยังหลุดขำกันกระจาย ทำเอาทีมงานอารมณ์ดีกันทั้งกอง โดยผู้กำกับก็ได้เผยถึงการร่วมงานกับตุ๊กกี้ว่า “คือหนังเรื่องกะปิมันก็ยังรายล้อมไปด้วยเหล่านักแสดงที่มาร่วมสร้างความสนุกอีกมากมาย เราอยากให้กะปิเป็นหนังที่คนดูพอออกไปจากโรงภาพยนตร์แล้วรู้สึกสนุก มีรอยยิ้ม ซึ่งนักแสดงที่มาร่วมสร้างสีสันในเรื่องนี้ก็มีพี่ตุ๊กกี้ โดยรับบทเป็นนางพยาบาล ในเรื่องนี้ภาพลักษณ์ของพี่ตุ๊กกี้ความสวยความฮอตของเขาไม่ธรรมดาเลยนะ ถึงขนาดมีหนุ่มๆ มามารุมจีบถึงสถานีอนามัย คือไม่ใช่แค่ชายหนุ่มคนเดียวที่เกิดหลงรักในเสน่ห์ของพี่ตุ๊กกี้ มันมีมากกว่าหนึ่งอย่างแน่นอน แล้วแต่ละคนที่มาจีบเขาจะมีกลเม็ดเด็ดพรายขนาดไหนก็ต้องไปติดตามดูกันครับ รับรองว่าสนุก การได้พี่ตุ๊กกี้มาร่วมงานด้วยก็น่ารักดีครับ คือผมชอบเสียงหัวเราะตอนปกติของพี่เขา ชอบตรงที่เขาอยู่ในกองถ่ายแล้วเขาสนุกจริงๆ เขาก็หัวเราะไปเรื่อย เราได้ฟังก็ขำดี เราจะอยู่อีกที่นึง แล้วที่ถ่ายมันจะอยู่อีกที่นึงแต่เราก็ได้ยินเสียงเขาตลอด เขาเป็นนักแสดงที่น่ารัก ใครๆ ในกองก็รักพี่ตุ๊กกี้ครับ” ซึ่งคนที่มาประกบคู่กับสาวสวยอารมณ์ดีอย่างตุ๊กกี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นนักแสดงชายที่รูปร่างงามสง่าหน้าตาดีไม่แพ้กัน ที่สำคัญคารมและอารมณ์ขันไม่เคยเป็นลองใคร เขาคนนั้นก็คือ ดัมมี่ ธนาบดินทร์ ยงสืบชาติ หรือที่คุ้นเคยในบทของ ฟุเหยิน จอมโขมยซีนจากภาพยนตร์เรื่องเพื่อนสนิท ซึ่งคราวนี้มาในคาแรกเตอร์ น้าไมค์ คาวบอยหนุ่มสุดเพี้ยน แน่นอนถือเป็นตัวละครที่ออกมาเมื่อไรได้ใจคนดูแน่นอน และที่สำคัญนี่คือคู่ปรับตัวฉกาจของต๋องที่มาพร้อมกับลูกน้องอย่างเจ้ากระจับ คู่แข่งที่หน้ากลัวของกะปิอีกด้วย “คือผมเห็นพี่ดัมมี่เขามาตั้งแต่เล่นหนังเรื่องเพื่อนสนิทแล้วครับ คือเขาเป็นตัวโขมยซีนที่เก่งอ่ะ ผมรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่พี่เข้าออกมา แล้วในเรื่องกะปิเรามีพี่ตุ๊กกี้อยู่แล้ว เราก็อยากหาคนที่มาประกบกับพี่ตุ๊กกี้ได้อย่างลงตัวผสมกลมกลืน ซึ่งพี่ดัมมี่ก็เป็นคนที่ใช่เลย แล้วด้วยคาแรกเตอร์ของเขา และวัยมันลงตัวในบทของน้าไมค์พอดี เพราะเขาดูไม่แก่เกินไปและไม่อ่อนเกินไป เพราะในเรื่องเขามีหลานด้วย ผมว่าเขาเป็นอีกหนึ่งสีสันความสนุกสนานในเรื่องกะปิอีกคนหนึ่งครับ และยิ่งเข้ากับพี่ตุ๊กกี้ด้วย เป็นเคมีที่ลงตัวจริงๆ ของสองคนนี้” ภาพยนตร์เรื่องกะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ยังได้เหล่านักแสดงตลกระดับคุณภาพที่ผลัดกันเข้ามาร่วมเกทับและเบิ้ลเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอย่างอิ่มเอม ไม่ว่าจะเป็นตลกชั้นแนวหน้าอย่าง หม่ำ จ๊กมก, ค่อม ชวนชื่น, แอนนา ม๊กจ๊ก, โจอี้ เชิญยิ้มและอีกมายมากที่ต่างระดมมุกฮามาปล่อยกันแบบไม่ยั้ง กับคาแรกเตอร์สุดเซอร์ไพรส์ที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนานแบบสุดขั้ว จ๋อ....ดับเบิ้ลเทค(หลุด)ฮา จะเรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่อง กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว เป็นงานหินที่ไม่ธรรมดาเลยก็ย่อมได้ กับการที่ต้องสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่มีทั้งเด็กและสัตว์ร่วมแสดง ซึ่งความยากของหนังเรื่องนี้ย่อมหนีไม่พ้นการกำกับลิงให้เป็นไปตามที่ตั้งใจของผู้กำกับและโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มให้ไกล้เคียงกับเจ้ากะปิในจินตนาการให้ได้มากที่สุด และกับสัตว์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแสบความซนอย่างลิง การควบคุมในการถ่ายทำในแต่ละฉากย่อมต้องยากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า โดยทางทีมงานต้องงัดเอาสารพัดกลวิธีเพื่อใช้ในการควบคุมเจ้าไข่เล็กให้เล่นไปตามบทภาพยนตร์ โดยต้องใช้ทั้งความอดทนและความพยายามในการถ่ายทำเป็นอย่างสูง ซึ่งสถิติที่มีการเทคมากที่สุดของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 32 เทค โดยเป็นฉาก “อย่างเรื่องนี้ซีนที่เทคเยอะที่สุดก็เป็นซีนของไข่เล็กกับริชาร์ดครับ ถ่ายกันกว่า 32 เทค คือดูแล้วมันน่าจะเป็นซีนง่ายๆ นะ แต่เราก็ไม่คิดว่ามันจะต้องเทคเยอะขนาดนั้น มันเป็นฉากที่พระเอกคือกานต์เขามาง้อหงษ์ ซึ่งก็เริ่มที่จะสำเร็จคือหงษ์เริ่มที่จะใจอ่อนแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เขาทะเลาะกันมาหนักมาก แล้วบังเอิญว่าตัวต๋องและเจ้ากะปิมันก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย พอรู้ว่าง้อกันได้แล้วก็แสดงความยินดีด้วยการเอามือมาแทกกันระหว่างต๋องกับเจ้ากะปิ ก็คือแทกกันธรรมดานี่แหละแต่แทกยังไงจังหวะมันก็ไม่ได้สักที มือไม่โดนสักทีก็ต้องถ่ายกันจนกว่าจังหวะมือของไข่เล็กกับริชาร์ดจะได้ สรุปก็ 32 เทคครับก็เล่นเอาทีมงานลุ้นไปตามๆ กัน คือก่อนถ่ายเราก็คิดไว้แล้วว่าการถ่ายทำกับเจ้าไข่เล็กซีนไหนที่น่าจะเทคเยอะ ที่สุดน่าจะยากที่สุดแต่ก็ไม่คิดว่าเป็นซีนนี้ ทำเอาทีมงานลุ้นเหนื่อยไปตามๆ กัน” จ๋อ...ในโลเกชั่นสุดจ๊าบ เรื่องของสถานที่ถ่ายทำทางทีมงานก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเสาะหาโลเกชั่นต่างๆ เพื่อให้ได้ภาพบรรยากาศที่งดงามสอดคล้องกับหมู่บ้านทิวมะพร้าวในเรื่องในที่สุดก็มาลงตัวที่อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยสภาพแวดล้อมและบรรยากาศยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตของผู้คนชาวเลทุกประการ ทรัพยากรทางธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์สวยงาม นอกจากนี้ทางทีมงานต้องไปเนรมิตรฉากเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับหมู่บ้านทิวมะพร้าวตามจินตนาการของผู้กำกับให้ได้มากที่สุด “คือตอนแรกเราก็กังวลเรื่องสถานที่ๆ จะใช้ถ่ายทำเหมือนกันนะ เพราะด้วยความที่ชื่อหมู่บ้านของเราในเรื่องมันคือหมู่บ้านทิวมะพร้าว ฉะนั้นเวลาที่เราถ่ายทอดบรรยากาศของหมู่บ้านในเรื่องเราต้องเห็นว่ามันเป็นทิวมะพร้าวจริงๆ คนในพื้นที่ใช้มะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกเพื่อยังชีพกันจริงๆ ผมและทีมงานตอนแรกก็ไปมองหาโลเกชั่นกันที่สุราษฎร์ธานี แต่พอดูไปดูมาแล้วมันไม่ใช่ครับ มันดูไม่เหมือนหมู่บ้านทิวมะพร้าวอย่างที่คิดเอาไว้ แล้วพอดีพี่ปุ๊กกี้ โปรดิวเซอร์เขาพาผมไปดูสถานที่ที่กุยบุรี คือพอไปเห็นแล้วรู้สึกว่าชอบเลย หลงรักขึ้นมาทันที มันมีป่ามะพร้าว มีน้ำทะเล มีเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก มันมีองค์ประกอบที่ชัดมาก บรรยากาศเหมือนเป็นหนังการ์ตูนสวยๆ เลยนะ แล้วทางทีมงานก็ต้องเข้ามาเซ็ทเพิ่มอีกไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านของลุงมิ่งที่เราต้องไปเนรมิตรให้เหมือนกับลานฝึกลิง ร้านกาแฟริมชายหาดให้เข้ากับบรรยากาศสบายๆ ริมทะเล และอีกหนึ่งฉากที่ใหญ่โตมากอย่างซีนการแข่งขันลิงเก็บมะพร้าว คือเซ็ทฉากกันอยู่ 2 วันกว่าจะได้ฉากนี้ ผมว่าใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จะต้องรู้สึกอิ่มใจสบายตาไปกับโลเกชั่นที่เราจัดหามาให้อย่างแน่นอนครับ” ที่สุดแห่งความแจ่มของ จ๋อ....ไม่หลอกจ้าว สำหรับภาพยนตร์เรื่องกะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ผู้กำกับได้พยามสร้างหนังเรื่องนี้ให้กลายเป็นหนังที่มีครบทุกรสชาติ โดยตลอดช่วงเวลาที่ชมภาพยนตร์ คนดูจะได้ซึมซับทั้งความสนุกสนานของเหล่าตัวละครในเรื่องที่ต่างสลับกันเข้ามาสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ทางทีมงานต้องเนรมิตร 2 ฉากใหญ่ของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีนพายเรือแข่งกันในป่าผีสิง และซีนแข่งขันเก็บมะพร้าว สำหรับซีนภายเรือในป่าผีสิงนั้น ทางทีมงานต้องยกกองไปถ่ายทำที่ป่าโกงกาง แถวอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเป็นป่าโกงกางซึ่งยังคงไว้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นฉากใหญ่ที่ต้องใช้เวลาถ่ายทำกันถึง 2 วัน มีนักแสดงที่ต้องเข้าฉากคือ ริชาร์ด เกียนี่ และ เซฟ ปดลเดช กมลาศัยกุล ทางทีมงานต้องเตรียมความพร้อมและความปลอดภัยให้กับเหล่านักแสดงอย่างเต้มที่ ซึ่งต้องถ่ายทำในสภาพอากาศที่ร้อนจัดอีกด้วย ซึ่งผู้กำกับได้เล่าถึงการทำงานในฉากนี้ให้ฟังว่า “การถ่ายทำฉากพายเรือแข่งกันในป่าผีสิงนั้นมันเป็นอีกฉากที่โหดสุดๆ เป็นฉากที่ต๋องกับเก่งต้องพายเรือแข่งกัน แล้วเราถ่ายในป่าโกงกางจริงๆ แล้วน้ำมันก็ขึ้นลงตลอด โลเกชั่นที่เราเลือกมันก็เป็นทางเล็กๆ มีป่าปกคลุมตลอดให้ดูเป็นป่าผีสิง คือริชาร์ดกับเซฟเขาต้องพายเรือจริงๆ เราต้องเตรียมตัวเตรียมความปลอดภัยไว้เยอะมาก มันอาจจะไม่ลึกมากแต่พื้นมันก็เป็นเลนก็อาจจะอันตราย แต่ก็มีเซฟทุกอย่าง มีนักประดาน้ำมีเจ้าหน้าที่มาดูแลให้ ก็อุ่นใจ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งมันยากตั้งแต่เราจะตั้งกล้องอย่างไร ถ่ายยังไง เด็กจะพายเรือยังไง แล้วมีพวกแมลงเต็มไปหมด แต่เซฟกับริชาร์ดก็ไม่บ่นเลยนะ แล้วเราถ่ายตอนที่สภาพอากาศมันร้อนมาก มีแต่สนุกกับหัวเราะยิ่งเข้าไปลึกยิ่งสนุกแต่พี่ๆ ทีมงานบนเรือทุกคนนี้แบบเป็นห่วงเขามาก เพราะเราไมรู้ว่าพื้นข้างล่างมันเป็นอะไรอ่ะ” และอีกหนึ่งฉากสำคัญซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของเรื่องอย่างฉากแข่งขันลิงเก็บมะพร้าว ก็มีความยากลำบากและต้องใช้ระยะเวลาในการถ่ายทำนานไม่แพ้กัน ฉากนี้ฉากเดียวใช้เวลาถ่ายกันถึง 3 วัน นักแสดงประกอบฉาก กว่า 100 ชีวิต นอกจากนี้ยังต้องควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยที่เกิดขึ้นในฉากซึ่ง ผู้กำกับกังฟู นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ ได้เล่าถึงการถ่ายทำในฉากสุดหินนี้ให้ฟังว่า “ฉากแข่งขันนี้ค่อนข้างวุ่นวายเพราะมันเป็นฉากที่ใหญ่ที่สุดของเรื่องนี้ และรายละเอียดปลีกใหญ่ของฉากมันค่อนข้างที่จะเยอะ คือเราก็เตรียมงานกันมาแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าหน้าเซ็ทมันจะมีหลายอย่างให้ต้องแก้เยอะมาก ด้วยนักแสดงชาวบ้านแต่ละคนที่เขาไม่เคยเล่นหนังมาก่อน เราก็ต้องมาอธิบายให้เขาเข้าใจ แล้วมันมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉากมันยากเลยล่ะ เราต้องมีสมาธิอยู่กับงาน ไหนจะต้องเล่าเรื่องของต๋อง น้าไมค์และกลุ่มของผู้ใหญ่อีก แล้วพอมันมาอยู่ในหนึ่งซีนแล้วเราต้องควบคุมหลายๆ อย่างมันเลยต้องแก้ปัญหาเยอะ เราต้องทำงานแข่งกับเวลา ในฉากที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก แล้วก็มีเรื่องของอุปกรณ์เพราะฉากนี้เรามีเครนด้วย มุมภาพที่เราอยากได้ มันก็ไม่ได้อย่างที่เราคิด คือพอฉากนี้มีคนมาเข้าเยอะ เราเลยต้องดูหลายๆ กลุ่ม ลิงที่เข้าฉากอีก แต่โชคดีที่มันอยู่กันคนละต้น แล้วมันถ่ายแยก เพราะลิงที่เอามาเข้าฉากมันไม่ถูกกัน แล้วอุปสรรคใหญ่ๆ ของการถ่ายลิงในฉากนี้เลย คือบางครั้งเราอยากให้มันเก็บมะพร้าวลูกนี้ แต่มันดันไปอยู่อีกมุมหนึ่ง คือเราก็ไม่สามารถสั่งได้ เพราะถ้ามันขึ้นไปที่ต้นมะพร้าวแล้วมันอยู่สูงมาก ทำงานกับสัตว์ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก อย่างซีนเก็บมะพร้าว พอมุมกล้องมันไม่ได้ เราก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหากัน มันก็เสียเวลาบ้าง คือบางครั้งทำงานกับสัตว์แล้วมันควบคุมไม่ได้จริงๆ นะ ยิ่งเป็นฉากใหญ่ เราจะทิ้งกลุ่มคนเยอะๆ เพื่อไปถ่ายลิงอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ มันยืดเยื้อกว่าที่เราคิดเยอะมาก ก็ต้องใจเย็น และต้องปราณีตพอสมควรครับกับฉากนี้ ส่วนหนึ่งของความน่ารักและความผูกพันที่เผ่าพันธุ์และภาษาไม่เคยเป็นอุปสรรคระหว่างเรา ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อนรักข้างกายของลูกพี่ ต๋อง ซะอย่าง ลูกน้องแสนรู้อย่างเจ้า กะปิ ไม่มีวันหนีห่างจากลูกพี่อยู่แล้ว พี่ต๋องอยู่ไหนน้องกะปิอยู่นั้น ว่าแล้วจึงต้องตามพี่ต๋องไปเรียนหนังสือด้วย ว่าแต่จะไปเรียนหรือจะไปป่วนกันแน่ คอยเป็นที่ปรึกษาให้แก่กันและกันเสมอ ไม่ว่าลูกพี่ต๋อง หรือน้อง กะปิ จะเป็นอย่างไรก็ตาม เอ่อ แล้วจะปรึกษากันรู้เรื่องมั้ยเนี้ยยย.....มีกันอยู่แค่ 3 คน ถึงลุงมิ่งจะไม่สบาย แต่พวกเราก็พร้อมใจกันไปเฝ้าไข้ลุงมิ่งเป็นอย่างดี ถึงแม้กะปิจะเป็นลิง แต่ก็ไม่กวนลุงมิ่งเวลาพักผ่อนนะครับ ดีมากเจ้ากะปิ แม้เจ้ากะปิจะเป็นลิง แต่ก็ต้องรู้จักดูแลรักษาสุขภาพนะครับ ว่าแล้วต๋องต้องอาสานำเจ้ากะปิไปฟิตซ้อมร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เร็วเข้าเจ้ากะปิวิดพื้นโชว์เขาไปเลยยย.... ใครว่าลิงจะต้องซนเสมอไป ดูอย่างเจ้ากะปิซิ ถึงเวลาทานอาหารก็เรียบร้อยอย่าบอกใคร นั่งขัดสมาธ มือขวาจับช้อนตักนมใส่ปากได้อย่างมีระเบียบเชียว มันเองจะเรียบร้อยสุดๆ ก็ตอนนี้แหละ เรื่องกินขอให้บอกเขาล่ะ ทำความรู้จักกับโครงการ Thailand script project กลางปี2550 โครงการประกวดเขียนบทภาพยนตร์ Thailand script project 2007 ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานบริหารองค์ความรู้ สำนักนายกรัฐมนตรี (OKMD) สำนักงานศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และ Nokia งานนี้เริ่มประกาศให้บุคคลทั่วไปที่สนใจอยากเขียนบทหรืออยากมีภาพยนตร์เป็นของตัวเอง โดยส่งเรื่องย่อความยาว 5 หน้ากระดาษ A4 เข้าร่วมโครงการ โดยหลังจากเริ่มประชาสัมพันธ์รวมทั้งออกไปโปรโมตตามมหาลัยต่างๆ ไม่นานก็มีคนส่งบทเข้าร่วมโครงการกว่า 900 เรื่อง จากทั่วทุกภาค หลากหลายอาชีพ บ่งบอกถึงจินตนาการของคนไทยที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้จริงๆ หลังจากคัดเลือกผลงานในรอบแรกจนเหลือ 40 เรื่องสุดท้าย เจ้าของผลงานทั้งหมด 40 เรื่องจะได้รับโอกาศพิเศษสุดๆ ในการมาร่วมอบรมกับวิทยากรที่มีทั้งผู้กำกับ คนเขียนบท และโปรดิวเซอร์ ซึ่งได้แก่ เป็นเอก รัตนเรือง, นนทรีย์ นิมิบุตร, วิสูตร พูลวรลักษณ์, จิระ มะลิกุล, ปรัชญา ปิ่นแก้ว, ยุทธเลิศ สิปปภาค, คงเดช จาตุรันต์รัศมี และ อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ ซึ่งแต่ละรายก็มาถ่ายทอดประสบการณ์ พร้อมเล่าเบื้องหลังเบื้องลึกของแวดวงหนังไทยกันอย่างไม่ปิดบัง โดยหลังจากอบรมเสร็จสิ้น ผู้เข้ารอบทั้ง 40 คนที่เหลือต้องกลับไปพัฒนาเรื่องของตัวเองให้ออกมาเป็นบทภาพยนตร์โดยสมบูรณ์แบบ โดยทางโครงการจะให้เวลาในการเขียนบทเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อครบกำหนด บทภาพยนตร์ทั้ง 40 เรื่องจะถูกนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อหาผู้ชนะที่จะได้รับรางวัล รวมทั้งหมด 15 เรื่อง ซึ่งกรรมการในรอบสุดท้ายประกอบไปด้วยบุคลากรระดับ “เขี้ยว” ในแวดวง อาทิ ชาติ กอบจิตติ, กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน, วินทร์ เลียววาริณ, ม.ร.ว.ปัทมนัดดา ยุคล, พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์, ก้อง ฤทธิ์ดี, เกรียงศักดิ์ ศิลากอง และ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล โดยการถกเถียงดำเนินงานเป็นไปอย่างเข้มข้น ซึ่งงานนี้ไม่มีการโหวต แต่เป็นการใช้เหตุและผลพูดคุยกันจนกว่าจะได้ข้อสรุปเท่านั้น โครงการ Thailand script project 2007 ปิดท้ายด้วยงานที่เรียกว่า Presentation Day โดยทางโครงการได้ทำการก๊อปปี้บทภาพยนตรืทั้ง 15 เรื่อง สงไปยังค่ายหนังและโปรดิวเซอร์ทั่วฟ้าเมืองไทย แล้วเชิญทั้งหมดมาฟังการพรีเซนต์ในเรื่องที่แต่ละท่านสนใจ โดยเจ้าของเรื่องเป็นผู้พรีเซนต์ด้วยตัวเอง เรียกว่าเปิดโอกาสให้ขายโปรเจกต์หนังกันแบบถึงที่เลยทีเดียว ประวัติ ริชาร์ด เกียนี่ ริชาร์ด เกียนี่ (Richard Ghaini) มีชื่อเล่นว่า พีน็อคคีโอ เป็นหนุ่มน้อยลูกครึ่งไทย-อิตาลี ปัจจุบันอายุ 9 ขวบ เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียน นราธิปพิทยา มีอุปนิสัยร่าเริง สดใส กล้าแสดงออก ยามว่างของริชาร์ดมักจะชอบเล่นโบว์ลิ้ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ มีผลงานทางการแสดงอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น อเวจีสีชมพู, ศัตรูคู่ขวัญ, เพื่อนซ่าเทวดาจิ๋ว และโด่งดังสุดขีดจากละครโทรทัศน์เรื่อง ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ในบทของ ไอ้ปื้ด ทางช่อง 3 โดยสามารถคว้ารางวัลนักแสดงสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยมมาครองจากเวทีคมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่ 7 จอมขโมยซีนจากสยามดาราสตาร์อวอร์ด 2010 และเข้าชิงดาวรุ่งชายยอดเยี่ยมจากเวที ท็อปอวอร์ด 2009 นอกจากนี้ริชาร์ดยังมีผลงานทางการแสดงอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นละคร หวานใจยายต่างดาว และมหาชนชาวแฟลต และพรีเซ็นเตอร์โฆษณาอย่างมากมายอาทิ ไมโล, รถยนตร์อีซูซุ mu-7, ผงซักฟอกบรีส, น้ำผลไม้ทิปโก้, นมดูเม็กซ์ ฯลฯ นอกจากนี้ ริชาร์ด เกียนี่ ยังเคยได้รับเกียรติให้เป็นพิธีกรพิเศษในรายการ To be number 1 ของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัลญา สิริวัฒนา พรรณวดี อีกด้วย ประวัติ มิลค์ ภาวิณี วิริยะชัยกิจ ภาวิณี วิริยะชัยกิจ หรือ มิลค์ ดารานักแสดง นางแบบ และพิธีการสาววัยใส มิลค์เกิดเมี่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2531 ที่จังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมประกวดในโครงการมิสทีนไทยแลนด์เมื่อปี 2006 กระทั่งครองตำแหน่งชนะเลิศ “Spy Brand Ambassador” เมื่อปี 2008 มาแล้ว เสน่ห์ความน่ารักและความสามารถของมิลค์ฉายแววเป็นที่รู้จักและแจ้งเกิด จากภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าของผู้กำกับอารมณ์ดี พิง ลำพระเพลิง เรื่อง ฝันโคตรๆ ในบทของสาว เปิ้ล ดาราสาวสุดเปรี้ยวผู้จริงจังกับความรัก และกะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ถือเป็นผลงานภาพยนตร์ชิ้นที่ 2 ของสาวคนนี้ที่แฟนๆ จะได้สัมผัสกับความสามารถของสาวมิลค์ และเป็นการร่วมงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องกับทางสหมงคลฟิล์มอีกด้วย ปัจจุบันมิลค์ผ่านผลงานในวงการบันเทิงมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซิทคอมสุดฮิทต่อเนื่องยาวนานนับ 10 ปีอย่างระเบิดเทิดเทิง รุ่นที่ 3 ทางช่อง 5 และซิทคอมเรื่องรักล้นๆ 9 คน 4 คู่ทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ซึ่งนอกจากงานแสดงแล้วมิลค์ยังเคยเป็นพิธีกรอินส์ไพร์เรชั่นทิบ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่คณะวิทยาการจัดการ สาขาการบัญชีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประวัติ เป้ ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ มีชื่อเล่นว่า เป้ อายุ 25 ปี เป็นทั้งนายแบบ พระเอกโฆษณา และดีเจหนุ่มแห่งคลื่น Chill 89.00 fm ความสามารถของหนุ่มคนนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว จบการศึกษาจากสถาบัน Guitar & bass Tech institute, England Bachelor Degree of Contemporary Music โดยหลังจากที่เรียนจบก็มาเป็นครูสอนกีต้าร์อยู่ที่สถาบันสอนดนตรีเคพีเอ็น ควบคู่ไปกับการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้กับสถาบันแห่งหนึ่ง และล่าสุดรับงานประจำโดยเป็นดีเจเสียงนุ่มๆ อยู่ที่คลื่น Chill 89.00 fm. โดยมีผลงานอันติดตาที่ใครหลายคนน่าจะคุ้นหน้าจากภาพยนตร์โฆษณาของเบียร์ช้างในมาดของนักอนุรักษ์ นอกจากนี้ยังมีโฆษณาลิโพ, โฆษณาไอวี่คอนโด มิวสิควีดีโอ ถ้าทั้งใจยังไม่พอของ กัลยา และล่าสุดเอ็มวี ไม่ใช่ฉันใช่ไหม ของเสก โลโซ ที่ร่วม Featuring. กับ นักร้องสาวเสียงสูง ดา เอ็นโดฟิน และสำหรับภาพยนตร์เรื่องกะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ถือได้ว่าเป็นผลงานการแสดงครั้งแรกในชีวิต ประวัติ เจ้าไข่เล็ก ไข่เล็ก คือลิงกังแสนรู้จากเกาะสมุย ปัจจุบันอายุ 8 ปี เรียกได้ว่าเป็นลิงที่มีความสามารถไม่น้อยเลยทีเดียวโดยมีดีกรีแชมป์การประกวดลิง จากรายการ บัลลังก์ดาว ด้วยอุปนิสัยที่ไม่ดุร้ายเหมือนลิงตัวอื่น บวกกับการท่ากางการยืนที่สวยงามของเจ้าไข่เล็ก จนครูฝึกเห็นแววความสามารถจึงนำมาฝึกฝนจนกลายเป็นลิงแสนรู้ได้โดยไม่ยาก เจ้าไข่เล็กเคยผ่านผลงานการแสดงภาพยนตร์มาแล้วนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ทางฝั่งฮอลลีวูดเรื่อง ทูมไรเดอร์ และ 80 วันจารกรรมรอบโลก เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณารถกระบะทาทามอเตอร์ ซึ่งนอกจากจะรับจ็อบแสดงหนัง หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาแล้ว เจ้าไข่เล็กยังมีงานหลัก โชว์ตัวให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ชื่นชมอยู่ที่เกาะสมุยอีกด้วย โดยทำการแสดงทุกวันๆ ละ 3 รอบ อาทิ แบไพ่แนะนำชื่อ, วิดพื้น, ซิทอัพ, ยกน้ำหนัก, ม้วนหน้า, ตีลังกา, ชู้ตบาสเก็ตบอล, ควงกระบองไฟ, เรียงหมายเลขตั้งแต่ 1-10, หาบของขาย อีกทั้งยังร่วมโชว์กับแขกที่มาชมโดยให้แขกไขว้มือให้แน่น แล้วเจ้าไข่เล็กจะมาช่วยแก้มัดให้ นอกจากนี้เจ้าไข่เล็กยังมีอีกหนึ่งภารกิจที่ต้องทำเป็นประจำทุกเดือนนั้นคือการเข้าเฝ้าสุลต่านจากประเทศมาเลย์เซีย และสำหรับภาพยนตร์เรื่องกะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ถือเป็นผลงานชิ้นล่าสุดของ เจ้าไข่เล็ก ที่จะมาโชว์ความสามารถทางการแสดง ความน่ารัก และแสนรู้บนแผ่นฟิล์มให้กับคอภาพยนตร์ได้ชมเต็มที่ ในบทบาทของ กะปิ เพื่อนคู่หูของ ต๋อง ทุกโรงภาพยนตร์อย่างแน่นอน ประวัติผู้กำกับ นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ หรือ กังฟู ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต คณะนิเทศศาสตร์ เอก สาขา ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ โดยขณะที่กำลังศึกษาอยู่ในรั้วสถาบันเริ่มฉายแววการเป็นผู้กำกับด้วยการทำหนังสั้นส่งเข้าประกวด ได้รับรางวัลมาอย่างมากมาย เช่น หนังสั้นเรื่อง หญิงชรากับนิทานวันหนึ่ง ได้รับรางวัล รางวัลขุนวิจิตรมาตรา งานประกวดภาพยนตร์สั้นจากการประกวดในเทศกาลเกี่ยวกับภาพยนตร์ต่างของมูลนิธิหนังไทย และรางวัลชมเชยช้างเผือก งานประกวดภาพยนตร์สั้นของมูลนิธิหนังไทย หนังสั้นเรื่อง น้ำแข็งใส ได้รางวัลชนะเลิศ โครงการหนังสั้นฤดูร้อนของโซนี่ ในรายการที่นี้ประเทศไทย ภาพยนตร์เรื่อง กระบือลือลั่น ได้รางวัลชมเชยช้างเฝือก งานประกวดภาพยนตร์สั้นของมูลนิธิหนังไทย นอกจากนี้ภาพยนตร์สั้นเรื่อง ผงชูรส ยังได้รับเลือกให้ เข้าร่วมเทศกาล International filmfestival Rotterdam 2006 แต่ละผลงานล้วนแต่การันตรีได้ถึงไอเดียและความสามารถทางด้านภาพยนตร์ของผู้กำกับหนุ่มได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้กังฟูยังได้รับโอกาศเข้าไปเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ 2 ให้กับ มะเดี่ยว ชูเกียรติศักดิ์วีระกุล ขณะกำลังทำภาพยนตร์รักแห่งสยาม จนวันหนึ่งได้เห็นประกาศการประกวดบทภาพยนตร์จากโครงการ Thailand script project ในอินเตอร์เน็ตจึงตัดสินใจส่งบทภาพยนตร์เรื่อง กะปิ ส่งเข้าประกวด และสามารถทะลุผ่านเข้าถึงรอบ15เรื่องสุดท้ายได้สำเร็จจากทั้งหมดที่ส่งมากว่า 900 เรื่อง และมีโอกาสได้พบปะโปรดิวเซอร์คนทำหนังจากหลากหลายค่าย จนในที่สุดได้รับโอกาสจากทางสหมงคลฟิล์มให้นำ กะปิมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และด้วยความสามารถและรางวัลที่มาการันตีฝีไม้ลายมือตั้งแต่เป็นผู้กำกับหนังสั้นจากหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา กังฟูจึงได้รับความไว้วางใจให้นั่งแท่นกำกับภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกอีกด้วย ในชื่อ กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกจากโครงการนี้อีกด้วย
แท็ก มะพร้าว   Movie:  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ