กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์
Event
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศจะอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐอีก 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากช่วงนี้ไปจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2011 เนื่องจากอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังช้าเกินไป ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด (deflation) และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง
Analysis
6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าที่ตลาดคาด
จากผลสำรวจนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ ตลาดคาดว่าเฟดน่าจะอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมอีกราว 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เฟดอาจต้องเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐเฉลี่ยสูงถึงราว 1.1 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากจำนวนเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังกล่าวแล้ว เฟดยังมีเงินที่จะได้รับจากตราสารหนี้เกี่ยวกับการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ (proceeds of mortgage payment) ที่เฟดซื้อไว้ในช่วงการอัดฉีดสภาพคล่องก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ในช่วง 8 เดือนข้างหน้า (พ.ย. 2010 — มิ.ย. 2011) เฟดจะต้องซื้อตราสารหนี้ภาครัฐทั้งหมดถึง 8.5-9.0 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเดือนละประมาณ 1.1 แสนล้านดอลลาร์
Implication
คงมุมมองว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่องไปอีก การอัดฉีดสภาพคล่องดังกล่าวจะทำให้มีเงินทุนไหลมายังภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทางตะวันตก โดยเฟดยังคงยืนยันท่าทีว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไปอีกนาน ซึ่งจะทำให้ค่าเงินสกุลต่างๆ ในภูมิภาคน่าจะแข็งค่าขึ้น เราคงมุมมองว่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าไปอยู่ต่ำกว่า THB 28 /USD ภายในปลายปีหน้า
โอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ยิ่งน้อยลงไปอีก จากแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทดังกล่าว แม้ว่าล่าสุด ธปท. จะออกมาส่งสัญญาณว่ามีความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดปัญหาฟองสบู่ในราคาอสังหาริมทรัพย์ แต่การที่ ธปท. ออกมาระบุว่าอาจมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการปล่อยกู้สำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์บางประเภท ซึ่งเป็นมาตรการที่เฉพาะเจาะจงกว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้เราคงมุมมองว่า ธปท. ไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีนี้ (1 ธันวาคม 2010)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สื่อสารองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)
วัฒนี สมจิตต์ โทร 0-2544-4502
วัลภา สุขใย โทร 0-2544-6421